'นพ.โสภณ'แจงข้อสงสัย 'ทีดีอาร์ไอ' จ.บุรีรัมย์ ฉีดวัคซีนมาก เพราะเคยเป็นพื้นที่นำร่อง ต้องจัดแข่ง 'โมโตจีพี' ปัจจุบันปรับยุทธศาสตร์การฉีดเน้นผู้สูงอายุ-กลุ่มโรคเรื้อรังในพื้นที่สีแดงเข้ม
------------------------------------
จากกรณี สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เขียนบทความ ประเมินผลงาน 5 ปีของรัฐบาลที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2564 ระบุตอนหนึ่งถึงการกระจายวัคซีน ว่า ปัญหาสำคัญในการกระจายวัคซีนก็คือ การขาดความเป็นเอกภาพ โดยพรรคร่วมรัฐบาลได้แย่งบทบาทกันในการกระจายวัคซีน ทำให้เกิดหลายช่องทางในการลงทะเบียนเพื่อฉีดวัคซีน ทั้งช่องทางของหมอพร้อม ระบบประกันสังคม (มาตรา 33) แพลตฟอร์มไทยร่วมใจ และการลงทะเบียนแบบ on site โดยไม่มีกลไกการประสานงานที่ดี นอกจากนี้ หน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนตามช่องทางดังกล่าวยังสามารถจัดลำดับการฉีดวัคซีนเอง โดยไม่มีกลไกติดตามและกำกับให้เป็นไปตามลำดับตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้
ผลที่เกิดขึ้นก็คือการกระจายวัคซีนบิดเบี้ยวไม่เป็นไปตามลำดับความสำคัญตามยุทธศาสตร์ ดังปรากฏว่า บางจังหวัดเช่นบุรีรัมย์มีการฉีดวัคซีนมากเป็นลำดับที่ 11 ของประเทศ ณ วันที่ 7 ก.ค. โดยมีการฉีดวัคซีนทั้งหมดประมาณ 3 แสนเข็มหรือคิดเป็นร้อยละ 19 ของประชากร แม้ไม่ได้เป็นพื้นที่ที่มีการระบาดสูง ไม่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวหลักและไม่อยู่ในกลุ่มจังหวัดที่มีความเร่งด่วนในการได้รับวัคซีนตามแผนการกระจายวัคซีนที่กรมควบคุมโรคได้ประกาศในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม
(ข่าวประกอบ : TDRI ไขคำตอบ ไฉน’บุรีรัมย์’ได้รับการจัดสรรวัคซีนลำดับต้นๆของประเทศ)
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า เหตุผลที่ จ.บุรีรัมย์ ได้รับการจัดสรรวัคซีนก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่องตามแผนส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะมีการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี ซึ่งได้มีการเลื่อนการแข่งขันจากปี 2563 เป็น 2564 ดังนั้นผู้ที่ได้รับวัคซีนส่วนใหญ่ จึงเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน และผู้ที่อยู่บริเวณโดยรอบสนามแข่งขัน ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองบุรีรัมย์ จนกระทั่งต่อมาได้มีการปรับยุทธศาสตร์การฉีดวัคซีนอีกหลายครั้ง โดยปัจจุบันได้เน้นไปที่การฉีดให้กับผู้สูงอายุ และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อลดการระบาดของเชื้อโควิด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการให้บริการวัคซีนโควิด ประจำวันที่ 19 ก.ค.2564 ณ เวลา 12.00 น. พบว่า จังหวัดบุรีรัมย์ ฉีดวัคซีนสะสม 360,866 เข็ม คิดเป็น 15.42% ของประชากร แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 244,653 ราย คิดเป็น 15.42% ของประชากร และเข็มที่ 2 จำนวน 116,213 ราย คิดเป็น 7.33% ของประชากร
วันเดียวกันนี้ สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือน ธ.ค.นี้ กระทรวงเตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทบทวนการเปิดพื้นที่นำรอง 10 จังหวัดที่จะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบเข้ามาในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีจังหวัดที่เปิดแน่นอนแล้ว 4 จังหวัด คือ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา ส่วนที่เหลือบางจังหวัดอาจจะยังเปิดไม่ได้ เพราะยังพบตัวเลขผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และหากเปิดไปแล้วอาจทำให้เกิดปัญหาตามมา โดยเฉพาะการเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่จากการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ประกาศเปิด 10 พื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาในประเทศ โดยที่เริ่มไปแล้วคือจังหวัดภูเก็ต ผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามมาด้วยเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ได้เปิดอีก 1 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานี ผ่านโครงการสมุย พลัส โมเดล ครอบคลุมเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า และเตรียมเปิดจังหวัดกระบี่ คือเกาะพีพี ไหง และไร่เลย์ และพังงา คือเขาหลัก และเกาะยาว ในเดือน ส.ค.นี้
ส่วนที่เหลือเดิมกำหนดเอาไว้ว่าจะเปิดในเดือน ต.ค. คือ เชียงใหม่ พัทยา บุรีรัมย์ กรุงเทพฯ เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์นั้น ล่าสุดยังรอความชัดเจนถึงการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการโมโตจีพี ว่าจะสามารถจัดได้หรือไม่ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าของลิขสิทธิ์จะหารือร่วมกันคาดว่า จะมีข้อสรุปในสัปดาห์นี้ ซึ่งแนวทางที่เหมาะสมที่สุดตอนนี้อาจมีความจำเป็นต้องเลื่อนการจัดการแข่งขันไปปีหน้า เพราะถือว่ามีความเหมาะสมที่สุด ทั้งความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ และความปลอดภัยของนักแข่งที่เข้ามาในประเทศไทย โดยที่ผ่านมาประเทศไทยเองได้เลื่อนมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อเดือน มี.ค.2563 เพราะเจอปัญหาการติดเชื้อโควิดในประเทศ
(อ้างอิงข่าว รมว.ท่องเที่ยวฯ จาก เดลินิวส์)
ข่าวประกอบ :
TDRI ประเมิน 'ประยุทธ์ 2’ : ผิดพลาดในการควบคุมโควิดระบาด-บริหารจัดการวัคซีน
TDRI ไขคำตอบ ไฉน’บุรีรัมย์’ได้รับการจัดสรรวัคซีนลำดับต้นๆของประเทศ
TDRI เสนอแผนจัดหา-กระจายวัคซีนโควิด : ตั้งเป้าที่ประสิทธิภาพ ไม่เน้นถูก คุ้มค่าแน่
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage