"...ตั้งแต่เกิดมาจะ 66 ปีแล้ว มีช่วงดี ช่วงไม่ดี ตามธรรมชาติ แต่ก็มีความสุขมากกับการเป็นคนไทย มีพระมหากษัตริย์ที่ประเสริฐ .... แต่ขณะนี้ข้าพเจ้ารู้สึกสิ้นหวังกับประเทศแล้ว เพราะแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ที่เคยเกิดและอยู่อาศัยอย่างภาคภูมิใจมาเกินครึ่งชีวิต กำลังถูกเปลี่ยนให้เป็นแผ่นดินที่เลวร้าย น่าอับอายลงไปทุกวัน..."
................................
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด และอดีตประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุกส่วนตัว ชื่อว่า วรวรรณ ธาราภูมิ ในช่วงค่ำวันที่ 5 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา
....................................
ข้าพเจ้าไม่ใช่คนที่ต้องถือหางข้างไหนข้างหนึ่ง แต่ผิดถูก ก็ว่าไปตามแต่ละเรื่อง เรื่องดีต่อส่วนรวมก็ชม เรื่องเลวต่อส่วนรวมก็ตำหนิได้
ใครไม่พอใจเพราะต้องการให้ข้าพเจ้าเชียร์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างไม่ลืมหูลืมตา ก็ unfreind ไม่ต้องมาอ่าน เพราะข้าพเจ้าละอายใจที่จะเป็นแบบท่าน และจะไม่โกรธท่านด้วย ข้าพเจ้าเพียงต้องการมีเพื่อนที่มีจิตสำนึกมั่นคง ยืนตรง มีศักดิ์ศรีในความเป็นผู้เจริญ และมีจิตใจเปิดกว้างไม่คับแคบ
ในเมื่อเกิดมาก็ยืนบนขาตนเอง ไม่โลภ ไม่ขี้เกียจ รู้จักพอ แล้วจะไปกลัวอะไรกับการยืนให้ตรงอย่างกล้าหาญ โดยไม่ต้องเลียขาเลียแข้งใคร
ข้าพเจ้านั้นไม่สนใจเลยว่าจะเป็นประชาธิปไตยหรือเผด็จการ หรือจะระบอบอะไร ตราบใดที่ระบอบนั้นมันดีต่อส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง .... แมวจะสีอะไรถ้าจับหนูได้ ก็ใช้ได้แล้ว (อย่าแอบฉกหนูไปกินกันเองแล้วกัน)
ตอนนี้ขอบอกเลยว่าตั้งแต่เกิดมาจะ 66 ปีแล้ว มีช่วงดี ช่วงไม่ดี ตามธรรมชาติ แต่ก็มีความสุขมากกับการเป็นคนไทย มีพระมหากษัตริย์ที่ประเสริฐ .... แต่ขณะนี้ข้าพเจ้ารู้สึกสิ้นหวังกับประเทศแล้ว เพราะแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง ที่เคยเกิดและอยู่อาศัยอย่างภาคภูมิใจมาเกินครึ่งชีวิต กำลังถูกเปลี่ยนให้เป็นแผ่นดินที่เลวร้าย น่าอับอายลงไปทุกวัน
การเมืองจะสาดโคลนกันยังไงก็การเมือง ไม่ว่ากัน แต่ถ้าเสาหลักสุดท้ายคือความยุติธรรมไม่ยึดหลักที่ควรจะเป็น บ้านเมืองก็หมดหวัง
หรือจะจริงที่มีคนกล่าวว่า “ไม่ว่าใคร พวกไหน จะมามีอำนาจ ในที่สุดก็ล้วนแต่ไม่คำนึงถึงกฏหมาย ไม่มีจริยธรรม เอาแต่ผลประโยชน์พวกตน ส่วนประชาชนก็แค่หมาขี้เรื้อน”
วรวรรณ ธาราภูมิ
5 พฤษภาคม 2564
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage