"...การก่อตัวของ “กลุ่มเซลล์สมอง” เพื่อพัฒนานโยบายและยุทธศาสตร์ยกระดับสมรรถนะของชาติ บุคคลที่สนใจและเข้าใจความสำคัญของการยกระดับสมรรถนะของชาติ ควรก่อตัว (Self-organized) ขึ้นก่อน เพื่อรวมตัวร่วมคิดร่วมทำในเรื่องนี้ เมื่อปรากฏว่าเป็นของจริงและแน่นแฟ้น จึงพัฒนาไปเป็นองค์กร เช่น “สถาบันพัฒนานโยบายและยุทธศาสตร์ ส่งเสริมสมรรถนะของชาติ” สังกัดกระทรวงอว.ก็ได้ แต่เป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ เพื่อทำงานทางนโยบายและยุทธศาสตร์ เพื่อยกระดับสมรรถนะของชาติให้สูงที่สุด..."
....................................
วิกฤตโควิดแสดงให้เห็นปัญหาที่เชื่อมโยงยาวไกลหลายมิติซับซ้อน เป็นวิกฤตความซับซ้อน (Complexity crisis) ที่บริหารจัดการยาก ในปัญหาที่ซับซ้อนและยาก การใช้อำนาจโดยไม่มีความรู้ไม่ได้ผล นักการเมืองที่มีแต่วาทกรรมแต่ปราศจากความรู้ในบริบทของปัญหา จะทำอะไรไม่ถูกและเป็นอันตราย ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงนักการเมือง จากเพียงแต่หาเสียงเก่ง มาเป็นผู้นำที่มีสมรรถนะสูง
แต่วิกฤตโควิดก็แสดงให้เห็นว่า ลำพังแต่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเก่งอยู่กลุ่มเดียวก็แก้วิกฤตไม่ได้ แต่คนไทยทั้งหมดต้องเก่ง และเก่งร่วมกันจึงจะเอาอยู่
การยกระดับสมรรถนะของชาติให้สูงสุด จึงควรเป็นระเบียบวาระเร่งด่วนแห่งชาติ
สมรรถนะนิยามสั้นๆ ว่า รอบรู้ รู้รอบ ทำเป็น คิดเป็น จัดการเป็น อาจเรียกว่าสมรรถนะ 4 คือ รอบรู้ ทำเป็น คิดเป็น จัดการเป็น ส่วนจะบวกอีก 1 หรือ 2 หรือ 3 -4 ก็ได้ เป็นสมรรถนะ 4 + 1 หรือ 2, 3, 4
ในการนี้มีเรื่องที่น่าจะคำนึงถึง ดังต่อไปนี้
1. ปฏิรูปการเรียนรู้ในระบบการศึกษาทั้งหมดทุกระดับ เพราะระบบการศึกษาไทยที่ทำมา 100 กว่าปี เน้นที่การ “ท่อง” ไม่ได้เน้นที่การ “ทำ” จึงสร้างคนที่ ทำไม่เป็น คิดไม่เป็น จัดการไม่เป็น ขึ้นมาเต็มประเทศ ทำให้สมรรถนะของชาติโดยรวมต่ำ ควรส่งเสริมให้ภาคธุรกิจจัดการศึกษาที่มีฐานอยู่ในการทำงาน (Work Based Education) ให้มากที่สุด
2. สำรวจทำแผนที่ (mapping) ว่ามีคนไทยที่เก่งๆ เรื่องอะไร อยู่ที่ไหนบ้าง และส่งเสริมให้มีบทบาทที่ฝึกอบรมสร้างคนเก่งในรูปต่างๆ คนเก่งต้องเรียนรู้และฝึกกับคนเก่ง ทุกวันนี้นักเรียนเรียนกับคนทำอะไรไม่เป็นเป็นส่วนใหญ่ ข้อ 2 นี้จะเสริมกับข้อ 1 ข้างบน
3. สร้างสถาบันพัฒนาผู้นำที่เก่งๆ จำนวนมาก มหาวิทยาลัยทั้งหมดควรมีสถาบันพัฒนาผู้นำ ควรศึกษาหาความรู้จากทั้งโลก ว่าหลักสูตรสร้างผู้นำที่เก่งนั้นควรเป็นอย่างไร กระทรวงอว.ควรมีนโยบายและยุทธศาสตร์ในเรื่องนี้
ภาคธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสูง อย่างน้อย 100 บริษัท ควรมีสถาบันพัฒนาผู้นำ ทำให้ดีที่สุดในโลก สร้างคนไทยที่เก่งๆ
คนไทยที่มีศักยภาพและมูลนิธิที่มีพลัง ควรก่อตัวเองสร้างสถาบันพัฒนาผู้นำที่เก่งๆ ในด้านต่างๆ
องค์กรของรัฐที่มีความสามารถ ควรสร้างสถาบันพัฒนาผู้นำอย่างมีเนื้อหาสาระ ไม่ใช่เพียงแต่เป็นหลักสูตรให้ผู้คนมาสร้าง connection แต่ขาดสมรรถนะจริงๆ
4. ส่งเสริมสื่อมวลชนจำนวนมาก พอสมควรให้มีสมรรถนะสูงในการรอบรู้ประเด็นสำคัญของประเทศ และพัฒนาการสื่อสารที่สนับสนุนการยกระดับสมรรถนะของชาติ
5. พัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อยกระดับสมรรถนะของคนทั้งประเทศ ผู้เชี่ยวชาญระบบดิจิทัล กสทช.และผู้เข้าใจการพัฒนาสมรรถนะ ควรร่วมกันทำงานเรื่องนี้อย่างรีบด่วน
6. การก่อตัวของ “กลุ่มเซลล์สมอง” เพื่อพัฒนานโยบายและยุทธศาสตร์ยกระดับสมรรถนะของชาติ บุคคลที่สนใจและเข้าใจความสำคัญของการยกระดับสมรรถนะของชาติ ควรก่อตัว (Self-organized) ขึ้นก่อน เพื่อรวมตัวร่วมคิดร่วมทำในเรื่องนี้ เมื่อปรากฏว่าเป็นของจริงและแน่นแฟ้น จึงพัฒนาไปเป็นองค์กร เช่น “สถาบันพัฒนานโยบายและยุทธศาสตร์ ส่งเสริมสมรรถนะของชาติ” สังกัดกระทรวงอว.ก็ได้ แต่เป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ เพื่อทำงานทางนโยบายและยุทธศาสตร์ เพื่อยกระดับสมรรถนะของชาติให้สูงที่สุด