"...สถิติจากการเฝ้าสังเกตของทีมลำปางพบว่า เมื่อใดที่เป็นช่วงวันหยุดราชการ วันนั้นจะมีการเผาใหม่ๆเกิดขึ้นมากกว่าปกติ เพราะผู้จุดไฟจะเชื่อว่าวันนั้น ผู้บริหารหลักของพื้นที่ไม่ได้อยู่ในที่ทำงานตามปกติ..."
..............................................
จากที่ผมได้ติดตามคณะอนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม ที่มี สว.ดร.บุญส่ง ไข่เกษ เป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปประชุมสรุปข้อคิดจากการเข้าพื้นที่ติดตามประเด็นเรื่อง ฝุ่นจากการเผาในที่โล่ง ของทีมจังหวัดลำปาง ภายใต้การนำของผู้ว่าฯหมูป่า ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากรที่จังหวัดลำปางต้นเดือนมีนาคม 2564นี้
ผมเห็นเองว่า ฝุ่นของลำปางปีนี้ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
ทั้งที่ลำปางเป็นแอ่งขนาดใหญ่ในภาคเหนือ เหมือนแอ่งเชียงใหม่-ลำพูน
ต่อให้มีไฟน้อย มีควันน้อย แต่ควันจะอ้อยอิ่งติดอยู่ในแอ่ง เพราะลมภายนอกพัดเข้ามาไม่ได้ถนัด
แต่ปีนี้สภาพฝุ่นควันในลำปาง ดีขึ้น
เพราะผู้นำระดับท้องถิ่นเข้มแข็ง
และผู้นำระดับจังหวัด เข้มข้นร่วมมือทำงานด้วยกันได้กลมเกลียว
จัดให้มีรองผู้ว่าด้านสิ่งแวดล้อมเป็นผู้เชื่อมกับทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหารตำรวจและฝ่ายป่าไม้ รวมทั้งฝ่ายท้องถิ่น
เป้าที่ตั้งในเรื่องฝุ่นควันของจังหวัดลำปางนั้น ถูกตั้งไว้สามประการคือ
หนึ่งลดผู้ป่วยจากการรับผลกระทบเรื่องฝุ่นควันลงให้ได้ 50%จากปีก่อนหน้า
สอง ลดจำนวน hot spots ลงให้ได้ถึง70% จากปีก่อนหน้า
และสาม ต้องพยายามจัดการให้วันที่ค่าฝุ่นสูงไม่ค้างนานติดๆกันหลายๆวัน
ตอนนี้จังหวัดลำปางสามารถเข้าสู่เป้าหมายนี้ได้สำเร็จเกือบครบแล้ว
อย่างไรก็ดี ฤดูเฝ้าระวังไฟและควันยังต้องดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้นต่อจนกว่าจะเริ่มฤดูฝนหลังพ.ค.
จากการประชุมสนทนาหาข้อมูลที่ศาลากลางและเดินทางต่อไปศึกษาในอีกหลายพื้นที่แวะพักสังเกตอีกหลายๆจุด ผมมีข้อสังเกตที่ได้จากคนที่สู้ฝุ่นอยู่หน้างานควัน งานดับไฟ และงานเฝ้าลาดตระเวนป่า มาชวนสังคม''ขบคิด ''ต่อ
ผู้ว่าณรงค์ศักดิ์จบวิศวะมา จึงมีระบบคิดและมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นฐาน แต่ด้วยท่านมีทักษะการบริหารใจคนและทักษะการสื่อสารสังคมที่ทรงพลังเสมอ จริงอยู่ว่าท่านเป็นข้าราชการประจำ ย่อมมีวาระที่จะต้องขยับเลื่อนย้ายในทางราชการ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
สิ่งที่ท่านทำจึงเป็นระบบที่น่าศึกษาและถอดแบบไว้พัฒนา
ในขณะที่ผู้นำชุมชนตัวอย่าง ที่ปลอดการเผามาได้เป็น10ปี อย่างนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านต้นต้อง คุณมานิต อุ่นเครือ มีมรณานุสติที่มั่นคง จากมะเร็งที่จู่ๆเคยโผล่มาคุกคามท่าน หมอบอกว่าท่านอยู่ต่อได้อีกแค่ปีเดียว ท่านจึงยิ่งรวมพลังภายในให้สมาชิกของชุมชนมีใจรักป่า มีความสนใจในการรักษาความชื้นให้ดิน และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่สรรพสัตว์และผู้เข้ามาหาของป่าในพื้นที่ โดยเลี่ยงการสร้างความหมางใจมาได้โดยตลอด นับสิบปี และบัดนี้ ที่นี่เป็นศูนย์เรียนรู้ที่อยากแนะให้ชุมชนที่สนใจไปเรียนรู้ และนำออกมาขยายผลในพื้นที่อื่น
บทบาทของแกนนำ2ท่านที่ลำปางนี้ มีอะไรให้ศึกษาถอดบทเรียนมากมาย
แม้ท่านมีความเชื่อทางตรรกะและปรัชญาอาจไม่เหมือนกันเปี้ยบ
แต่เป้าหมายท่านคล้ายกันและต่างก็ทำได้อย่างน่าประทับใจในระดับพื้นที่ตามบทบาทของท่าน
ผมจึงเห็นเป็นปฐมว่า
การสร้าง''คนช่างสังเกต'' น่าจะสำคัญยิ่งกว่าการใช้กฏหมายเพียวๆ
ขอแค่เราในสังคมเข้าใจและสนับสนุนระบบงานที่ท่านสร้างให้เป็น
ผมมีข้อสังเกต9ข้อ ที่ถอดบทเรียนจากทีมราชการที่ลำปางดังนี้
1. น่ายินดีที่จังหวัดมุ่งเป้าที่สุขภาพผู้หายใจเป็นสำคัญที่สุด จึงได้เชิญทีมสาธารณสุขในจังหวัดมาประกอบการทำงานของทีมใหญ่อย่างใกล้ชิดสม่ำเสมอ
กล่าวคือ ทีมใหญ่ไม่ดูแค่เพียงว่าจุดความร้อนจากดาวเทียมลดหรือเพิ่ม แต่ดูว่าสุขภาพของคนเป็นเช่นไรแล้วบ้าง
2. ผู้ว่าณรงค์ศักดิ์กำลังพัฒนาให้จังหวัดเลือกใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียมค้นจุดความร้อน ท่านชี้ว่าเราควรเลือกหาภาพสดจากดาวเทียมที่เคลื่อนวงโคจรผ่านภาคเหนือของไทยในช่วงใกล้รุ่งให้มากที่สุด เพราะภาพนั้นจะเป็นประโยชน์ที่สุดแก่ทีมดับไฟที่จะออกปฏิบัติการจากฐานที่ตั้งในเช้าวันนั้น
ภาพยิ่งอัพเดทได้มากจะยิ่งให้ประโยชน์ยิ่งกว่าภาพถ่ายจากดาวเทียมที่อาจจะโคจรผ่านภาคเหนือของไทยไปแล้วตอนหัวค่ำ เพราะเวลาที่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง แต่รูปแบบ ทิศทางและขนาดของไฟที่ลามบนเขา หรือในป่าทึบจะต่างไปได้มาก
3. การชิงเก็บใบไม้แห้งออกมาจากป่าใส่เสวียน(รั้วไม้ไผ่ขนาดใหญ่ที่สานไว้)จากนั้นจะนำไปอัดแท่งเป็นก้อนเชื้อเพลิง หรือนำใบไม้แห้งผสมกับมูลวัวทำปุ๋ยหมัก เป็นเรื่องดีที่น่าทำ หากแต่การจะใช้วิธีนี้จัดการกับพื้นที่ป่าที่กินบริเวณถึง70%ของจังหวัด คงต้องใช้เวลา สร้างคน กระจายความรู้ กระจายทักษะ และเติมระบบสนับสนุนอีกมาก ต้องไม่ปล่อยให้กรมป่าไม้ กรมอุทยานพยายามทำเรื่องนี้ไปแต่เพียงลำพัง เพราะจำนวนเจ้าหน้าที่แต่ละป่าก็มีปริมาณน้อยเกินไปเมื่อเทียบสัดส่วนกับความกว้างใหญ่ของป่าที่ต้องดูแล
เวลานี้ กิจกรรมอัดก้อนเชื้อเพลิงจากใบไม้แห้งจึงสามารถทำได้เฉพาะตามตะเข็บชายป่าบางจุด เพราะหากลึกเข้าไปกว่านั้น การขนส่งลำเลียงใดๆจะต้องปีนป่ายไต่เดิน ด้วยสองมือสองเท้าเอาเองแทบทั้งนั้น
วัสดุใบไม้นับ''แสนตัน ''ทุกปีในบรรดาป่าของแต่ละเขต จึงอาจถูกขนย้ายออกได้เพียงหลักร้อยหลักพันตันต่อปีเท่านั้น
อีกทั้งในเรื่องนี้ ยังต้องช่วยกันเร่งให้กรมส่วนกลางต้นสังกัดออกระเบียบตามกฏหมาย ไม่ว่าตามกฏหมายอุทยาน หรือกฏหมายป่าสงวน ที่ต้องยอมให้สามารถนำใบไม้แห้งเหล่านี้ออกจากป่าผลัดใบของประเทศด้วย มิเช่นนั้น ก็จะมีข้อเปราะบางตามตัวบทกฏหมาย ที่ห้ามผู้ใด รวมเจ้าหน้าที่มิให้นำของใดออกจากป่า ยกเว้นจะเป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดซึ่งต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการตามกฏหมายป่าไม้แล้ว และเวลานี้ ยังไม่มีระเบียบดังกล่าวออกมาคุ้มครองคนที่เอาเชื้อไฟออกจากป่า
4.สถิติจากการเฝ้าสังเกตของทีมลำปางพบว่า เมื่อใดที่เป็นช่วงวันหยุดราชการ วันนั้นจะมีการเผาใหม่ๆเกิดขึ้นมากกว่าปกติ เพราะผู้จุดไฟจะเชื่อว่าวันนั้น ผู้บริหารหลักของพื้นที่ไม่ได้อยู่ในที่ทำงานตามปกติ
ดังนั้น จึงมีนโยบายของจังหวัดลำปาง ที่ขอให้ผู้บริหารไม่ออกจากพื้นที่ในช่วงวันหยุดในช่วงฤดูที่มีความชุกของการเผา และให้ยิ่งออกตรวจตราเพิ่มในพื้นที่ ซึ่งปรากฏว่าได้ผลดีขึ้นอย่างมีนัยะสำคัญ
5. ในเมื่อสถิติด้านสุขภาพ สามารถอนุมานได้ว่า เมื่อหายใจเอาฝุ่นและอากาศคุณภาพไม่ดีเข้าร่างกายไปมากๆนั้น การเจ็บป่วยของระบบทางเดินหายใจจะปรากฏก่อน แล้วจึงจะพัฒนาไปสู่การเจ็บป่วยในทางเดินโลหิต แล้วทีนี้ก็จะเจ็บป่วยตามอวัยวะภายในต่างๆ
ดังนั้นท่านผู้ว่าหมูป่า จึงวางนโยบายการบริหารคุณภาพอากาศในแต่ละเดือนของลำปาง ต้องลงรายละเอียดอย่างมีเป้าหมาย มิให้เกิดวันคุณภาพอากาศต่ำอยู่ติดๆกันเกิน4-5วันเด็ดขาด เพื่อให้ร่างกายของประชาชนมีโอกาสได้วันอากาศดีแทรกเข้ามาเป็นช่วงๆได้
6. ในช่วงฤดูห้ามเผาในจังหวัด ผู้ว่าณรงค์ศักดิ์อธิบายว่า อย่างเสมอหน้า คือทั้งห้ามประชาชนเผา และห้ามหน่วยงานของรัฐทุกประเภทด้วย
กติกานี้ต้องทั่วถึงและเท่าเทียม จึงจะได้รับการยอมรับและเคารพจากประชาชน
แม้แต่เตาเผามูลฝอยของโรงพยาบาลก็ยอมอยู่ใต้กติกาเดียวกันนี้มาเสมอ
7. การมีจุดความร้อนปรากฏบนจอดาวเทียมน้อยลงในพื้นที่รับผิดชอบ
ก็ เป็นเพียงตัวชี้วัดเบื้องต้นที่ช่วยให้เกิดกำลังใจต่อเราว่าอาจมีควันน้อยลงเท่านั้น
แต่ในความจริง อาจมีควันที่ยังคงลอยมาตามลมจากพื้นที่อื่นเข้ามาอยู่อีกด้วย การปรากฏจุดความร้อนน้อยลง จึงอาจไม่เกี่ยวกับสุขภาพทางเดินหายใจที่จะปลอดภัยโดยอัตโนมัติของประชาชนในพื้นที่อยู่นั่นเอง
8.อย่าตื่นตระหนกกับค่าความแตกต่างระหว่างเครื่องวัดคุณภาพอากาศของหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ตรวจวัด กับผลการวัดคุณภาพอากาศจากเครื่องมือทั่วไปที่ประชาชนเข้าถึง
เพราะการตรวจวัดด้วยเครื่องมือมาตรฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีราคาสูงนั้น จะมีระบบการตัดค่าชี้วัดเทียมที่เกิดจากความชื้นในอากาศ การกระเจิงของแสง มีการ recalibration ของเครื่องมือ โดยหน่วยอิสระจากภายนอกที่เป็นผู้ติดตามประเมินทุกเดือน ตามมาตรฐานที่เครื่องมือแต่ละชิ้นถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ออกจากโรงงานผลิต
จึงให้ถือว่า ค่าชี้วัดคุณภาพอากาศที่ไม่ว่าจะวัดโดยกลุ่มไหนในสังคม ก็ให้น้อมรับฟังเป็นข้อมูลด้วยความสุภาพก่อน และมุ่งทำงานแก้ไขให้ตรงกับเป้าหมายด้านสุขภาพประชาชนก่อนเสมอ
หากท่านเหล่านั้นสนใจ ก็ไม่พึงพลาดโอกาสที่จะให้ท่านได้มาเข้าชมระบบมาตรฐานของเครื่องมือที่รัฐใช้ แล้วแลกเปลี่ยนความรู้กันต่อ
9. พึงพัฒนาความรู้วิทยาศาสตร์กายภาพให้ทุกฝ่ายเสมอ เพื่อให้ตระหนักรู้ ว่า ต่อให้เป็นพื้นที่นอกแอ่งภูเขา แม้เป็นที่ราบโล่ง แต่ถ้าเป็นช่วงความกดอากาศสูงเคลื่อนเข้ามาถึง บรรดาฝุ่นในธรรมชาติที่เคยลอยตัวอยู่ในชั้นบรรยากาศสูงๆ ก็จะถูกอัดรวมลงมาสู่ชั้นอากาศผิวพื้น
แปลว่าแม้จะไม่มีการเผาเลย ก็จะมีค่าฝุ่นที่หนาแน่นขึ้นในอากาศที่ประชาชนต้องใช้หายใจ ดังนั้น การช่วยให้ประชาชนเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล หรือให้รู้ว่ามีห้องควบคุมที่ปลอดภัยมีอากาศสะอาดให้ประชาชนในเขตใกล้เคียงรับทราบและขอมาหลบภัยในเวลาฉุกเฉินได้ที่ไหนด้วย
10.การตามดับไฟป่า ย่อมใช้สรรพกำลังเข้าเสี่ยงชีวิตและสิ้นเปลืองทรัพยากรสูงกว่าการป้องกันไฟมาก
เมื่อคราวที่ผู้ว่าณรงค์ศักดิ์เคยบริหารราชการที่เชียงรายพบว่า เอาเข้าจริง ราษฎร์ที่มีอาชีพแท้ๆในการหาของป่าออกมาขาย หรือล่าสัตว์ในป่า มีจำนวนที่ไม่เกินหลักร้อยหลักพันคนต่อจังหวัดหรอก
หากรัฐจัดงบว่าจ้างผู้มีทะเบียนอาชีพเป็นผู้หาประโยชน์จากป่า จ้างมาเป็นผู้พิทักษ์และลาดตระเวณในป่าในฤดูระวังการเผานั้น นอกจากสังคมจะได้คนพื้นที่ๆมีความชำนาญกับป่าแล้ว ยังจะได้ความไว้ใจผูกพันระหว่างกัน กับนโยบายรักษาอากาศสะอาดเพื่อส่วนรวมด้วย
คนเดินป่าเองก็จะมีรายได้เพียงพอที่จะเป็นผู้คุ้มครองป้องกันไฟป่าได้อย่างรู้เท่ารู้ทันอีกต่างหาก
แต่เรื่องอย่างนี้ หน่วยนโยบายต้องเห็นประโยชน์และสนับสนุนงบจ้าง ซึ่งจะถูกราคากว่าการหาคนไปดับไฟในป่าอย่างมากเสียอีก
นี่เป็นข้อคิดน่าฟังจากประสบการณ์ของคนนำในระบบราชการที่ลำปาง
บทความหน้าจะสาธยายความน่าทึ่งของคนท้องถิ่นที่ลำปางมาให้ทราบครับ
วีระศักดิ์ โควสุรัตน์
สมาชิกวุฒิสภา
รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ของวุฒิสภา