"...ทั้งกลไกของ soft loans และกองทุน BSF ไม่ใช่การกู้เงิน 900,000 ล้านบาทมาใช้จ่าย หรืออีกนัยหนึ่ง ไม่ได้สร้างภาระการคลัง 900,000 ล้านบาท หรือไม่ได้สร้างภาระภาษี 900,000 ล้านบาทให้ลูกหลานเหมือนกับที่หลายท่านกังวล..."
ได้ยินหลายท่านอภิปรายในสภาฯว่า รัฐบาลเสนอ พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ รวม 1.9 ล้านล้านบาท
ขอเรียนยืนยันอีกครั้งว่า พ.ร.ก.ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอ 'ไม่' ควรเรียกว่าเป็น พ.ร.ก.กู้เงิน เพราะหัวใจของ พ.ร.ก. ทั้งสองฉบับคือการให้อำนาจ ธปท. เข้าไปบริหารจัดการสภาพคล่องได้ตรงจุด
เมื่อครบเวลาสองปี เงินที่ ธปท. ปล่อย soft loans ผ่านสถาบันการเงินไปให้ SMEs สถาบันการเงินก็ต้องเอากลับมาคืน ธปท.
ส่วนเงินที่ ธปท. จะลงทุน ผ่านกองทุน BSF เป็นการให้ bridge financing ชั่วคราว เมื่อครบกำหนดก็เอาเงินกลับมาคืน ธปท. (ธปท.ถึงต้องเน้นเรื่องคุณภาพของตราสารที่กองทุน BSF เข้าไปลงทุน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย)
ทั้งกลไกของ soft loans และกองทุน BSF ไม่ใช่การกู้เงิน 900,000 ล้านบาทมาใช้จ่าย หรืออีกนัยหนึ่ง ไม่ได้สร้างภาระการคลัง 900,000 ล้านบาท หรือไม่ได้สร้างภาระภาษี 900,000 ล้านบาท ให้ลูกหลานเหมือนกับที่หลายท่านกังวล
ทั้งสองกลไกอาจจะสร้างภาระการคลังในอนาคตได้บ้าง ถ้าสินเชื่อ soft loans ที่ปล่อยให้ SMEs จำนวนมากเกิดกลายเป็นหนี้เสีย หรือตราสารหนี้ที่กองทุน BSF เข้าไปลงทุนไม่ได้รับชำระหนี้คืน ซึ่งตาม พรก. แล้วรัฐบาลจะชดเชยความเสียหายให้เพียงบางส่วนเท่านั้น
ธปท.ตระหนักดีว่าทั้งสองกลไกที่ ธปท. เสนอไม่พึงสร้างภาระการคลังให้กับคนไทยในอนาคต จึงต้องมีเงื่อนไขด้านคุณภาพอย่างรัดกุมทั้งการปล่อยสินเชื่อผ่าน soft loans และการลงทุนผ่านกองทุน BSF
วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
อ่านประกอบ :
2 อดีตผู้ว่าฯธปท. ประสานเสียง 'วิรไท' : กองทุนหุ้นกู้ดับไฟก่อนลุกลามภาคการเงิน
ไข10คำถามซอฟท์โลน5 แสนล.! ธปท.ยันยังไม่เต็ม ห้ามแบงก์บังคับทำประกัน-เก็บค่าธรรมเนียม
'ธปท.' แจงตั้งกองทุน ‘BSF’ ซื้อตราสารหนี้เอกชน ไม่เอื้อประโยชน์บางธุรกิจ
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage