"...มองในอีกแง่หนึ่งผู้รับผิดชอบหลัก อาจจะคิดว่า “เอาอยู่” แต่คำพูดนี้ เป็นคำพูดที่ คนไทยฟังแล้ว รู้สึกว่า “เจ็บแล้วไม่จำ” ถ้าคิดว่า “เอาอยู่” คือ สุดท้าย ก็ “เอาไม่อยู่” เหมือนปี 54 ที่น้ำท่วม เราไม่ควรไปเหนื่อยแรง เสียทรัพยากร กับ การ “กั้นน้ำ” ควรปล่อยให้น้ำไหลผ่านไป จะมีน้ำท่วมแค่ หัวเข่า ไม่ใช่ ท่วมหลังคา ประสบการณ์ และ ประวัติศาสตร์ สอนเราแล้ว อยู่ที่เราจะเรียนรู้ และ นำมาใช้ได้หรือไม่เท่านั้นครับ..."
-covid19 phase3 จะประกาศหรือไม่ประกาศ คนที่รับผิดชอบก็จะดูแลตัวเอง ไม่ให้เป็นภาระของคนอื่น ไม่ให้เป็นภาระของประเทศ.... แต่ถ้าไม่ประกาศ คนที่ไม่รับผิดชอบ ก็จะทำอะไรก็ได้ตามใจ(คือไทยแท้) เพราะถือว่า ยังไม่มีการบังคับ
-การประกาศ phase3 เพื่อหยุดยั้งการแพร่ของโรค จะทำในกรณีที่เห็นว่า โรคมีแนวโน้มที่จะกระจายตัว ... ประกาศเร็ว โรคก็สงบเร็ว ประกาศช้า 1 วัน ทำงานยากขึ้น 10 เท่า ประกาศช้า 2 วัน ทำงานยากขึ้น 50 เท่า ประกาศช้า 3 วัน ทำงานยากขึ้น 1,000 เท่า
-วันที่เห็นคนป่วย(ยืนยันว่าติดเชื้อ) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ เขาเพิ่งได้รับเชื้อ เขาได้รับเชื้อมาหลายวันแล้ว นั่นหมายความว่า คนที่มีเชื้ออยู่ในตัว ไม่ใช่เท่าที่รายงาน เพียงแต่ไม่ได้ถูกพิสูจน์ และ ไม่ได้ถูกรายงาน ...คน.เขาเหล่านั้น จะถูกรายงานในวันถัดๆไป ... วันที่เห็นคนป่วย(รายงาน) 40 คน คือมีคนติดเชื้อแล้ว นับ 100 ... วันที่มีรายงานคนป่วย 60 คน คือวันที่มีคนป่วยแล้ว หลัก 500… ทายได้เลยว่า วันถัดไป จะมีรายงานคนป่วย หลัก 100 คน ซึ่งแปลว่า มีคนติดเชื้อแล้ว หลัก พันคน
-คนป่วยถ้ามีมาก ต้องใช้ทรัพยากรทางการแพทย์มาก ต้องใช้ห้องแยกโรคเพื่อ admit ผู้ป่วยมาก ต้องใช้บุคลากร แพทย์ พยาบาล จำนวนมาก ต้องใช้ยาจำนวนมาก ใช้อุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคจำนวนมาก และใช้เครื่องช่วยหายใจจำนวนมาก ... วันที่รายงานผู้ป่วย 100 คน แสดงว่า จะต้องใช้ทรัพยากร สำหรับ ผู้ป่วยหลักพันคน (ซึ่งจะแสดงอาการในวันถัดๆ ไป) ... ดังนั้น ประกาศ phase3 ยิ่งเร็ว ปัญหาก็จะได้รับการควบคุมเร็ว ไม่ประกาศ คนที่คิดว่า ไม่ป่วย ก็จะแพร่เชื้อต่อไปเรื่อยๆ ... เราจะเหมือนประเทศอื่นๆ ไหม
-มองในอีกแง่หนึ่ง .... ผู้รับผิดชอบหลัก อาจจะคิดว่า “เอาอยู่” แต่คำพูดนี้ เป็นคำพูดที่ คนไทยฟังแล้ว รู้สึกว่า “เจ็บแล้วไม่จำ” ถ้าคิดว่า “เอาอยู่” คือ สุดท้าย ก็ “เอาไม่อยู่” เหมือนปี 54 ที่น้ำท่วม ... เราไม่ควรไปเหนื่อยแรง เสียทรัพยากร กับ การ “กั้นน้ำ” ควรปล่อยให้น้ำไหลผ่านไป จะมีน้ำท่วมแค่ หัวเข่า ไม่ใช่ ท่วมหลังคา ... ประสบการณ์ และ ประวัติศาสตร์ สอนเราแล้ว อยู่ที่เราจะเรียนรู้ และ นำมาใช้ได้หรือไม่เท่านั้นครับ
-ความจริงย่อมเป็นความจริง สถานการณ์ ตาม ข้อบ่งชี้ ที่ใช้กันทั่วโลก แสดงถึงแนวโน้มของการแพร่กระจายของโรคแล้วครับ เพราะตัวเลข คือ เกิน 100 และ พุ่งขึ้นเรื่อยๆ
... โปรดพิจารณา ...รายพื้นที่ก่อนก็ได้ครับ... นี่เป็นความเห็นส่วนบุคคลนะครับ ไม่เกี่ยวข้อง กับสถาบันที่ผมทำงานนะครับ
รศ.นพ.อดุลย์ รัตนวิจิตราศิลป์ รองคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก https://www.thaihealth.or.th/