“...การจะทำให้ค่าคะแนน CPI ถึง 50 คะแนนนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แต่ก็เป็นความฝันที่ยังเป็นไปได้ ปัจจุบันค่าคะแนน CPI ของประเทศไทยอยู่ที่ 36 คะแนน สะท้อนว่าประเทศไทยกำลังป่วยจากเชื้อโรคทุจริต การจะลดการทุจริตได้ต้นทางสายหลักคือการทำให้คนไทยรับรู้เกี่ยวกับผลเสียจากเชื้อโรคทุจริต และแยกแยกผลประโยชน์ส่วนรวมและผลประโยชน์ส่วนตัวออกจากกันได้โดยอัตโนมัติ สร้างสังคมที่รับรู้เรื่องการทุจริตในทุกระดับ...”
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดโครงการประชุมสัมมนาคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนและหน่วยงานของรัฐมีส่วนร่วมในโครงการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (สปท.) โดย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. บรรยายพิเศษเรื่อง ‘นโยบายการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประจำปี 2563’ ตอนหนึ่ง ดังนี้
----
การตั้งอนุกรรมการ สปท.จะทำให้การป้องกันการทุจริตเป็นรูปธรรมมากขึ้น และจะเป็นการขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันการทุจริตอย่างแท้จริง ที่ผ่านมา ป.ป.ช. ถูกมองว่าทำงานด้านการปราบปรามการทุจริต แต่สิ่งสำคัญที่จะแก้ปัญหาการทุจริตได้คือการป้องกันการทุจริต การสร้างสังคมไม่ทนต่อการทุจริต ซึ่งตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 - 2564) มีเป้าหมายที่จะให้การทุจริตลดลง ประเทศไทยมีความโปร่งใสมากขึ้น โดยเน้นความร่วมมือและการบูรณาการของทุกภาคส่วน และมีเป้าหมายที่จะให้ค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของประเทศไทยได้คะแนนมากกว่า 50 คะแนน ภายในปี 2564
“การจะทำให้ค่าคะแนน CPI ถึง 50 คะแนนนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แต่ก็เป็นความฝันที่ยังเป็นไปได้”
ปัจจุบันค่าคะแนน CPI ของประเทศไทยอยู่ที่ 36 คะแนน สะท้อนว่าประเทศไทยกำลังป่วยจากเชื้อโรคทุจริต การจะลดการทุจริตได้ต้นทางสายหลักคือการทำให้คนไทยรับรู้เกี่ยวกับผลเสียจากเชื้อโรคทุจริต และแยกแยกผลประโยชน์ส่วนรวมและผลประโยชน์ส่วนตัวออกจากกันได้โดยอัตโนมัติ สร้างสังคมที่รับรู้เรื่องการทุจริตในทุกระดับ
ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีการออกมาเปิดโปงการทุจริตมากยิ่งขึ้น อย่างกรณีโกงเงินคนพิการ กรณีอาหารกลางวันเด็ก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยกำลังเริ่มไม่ทนต่อการทุจริตแล้ว สำหรับงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปี พ.ศ.2563 ของแผนบูรณาการการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้รับการจัดสรรงบประมาณรวมวงเงิน 957 ล้านบาท โดยมีหน่วยงานที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น 25 หน่วยงาน ยังถือว่าเป็นงบประมาณที่น้อยเมื่อเทียบกับตัวเลขความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตในแต่ละปี
----
สำหรับงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ของแผนบูรณาการการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมวงเงิน 957 ล้านบาท มีการแบ่งการดำเนินการออกเป็น 3 แนวทาง คือแนวทางที่ 1 ปลูกฝังวิธีคิด ปลุกจิตสำนึกให้มีวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต งบประมาณ 491 ล้านบาท แนวทางที่ 2 ป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ 296 ล้านบาท และแนวทางที่ 3 ปราบปรามการทุจริต 169 ล้านบาท โดยมีหน่วยงานที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น 25 หน่วยงาน
หน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในแผนบูรณาการการต่อต้านการทุจริตสูงสุดคือ สำนักงาน ป.ป.ช. จำนวน 433 ล้านบาท รองลงมาคือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) จำนวน 146 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จำนวน 49 ล้านบาท สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 49 ล้านบาท เป็นต้น
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/