ย้อนอดีตราชสำนักสยาม เกี่ยวกับเจ้าคุณพระ ตำแหน่งสนมเอกชั้นหนึ่ง ‘เจ้าคุณพระประยุรวงศ์’ ในรัชกาลที่ 5 คู่ทุกข์คู่ยาก
ในหนังสือ “สัมภาษณ์ ม.จ.จงจิตรถนอม ดิศกุล” โดย ส.ศิวรักษ์ ตีพิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2555 โดยสำนักพิมพ์ศยาม ได้เรียบเรียงเสียงสัมภาษณ์ของ ม.จ.จงจิตรถนอม จากที่อัดเทปไว้ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวในราชสำนักสยามผ่านห้วงชีวิตตลอดล่วง 80 ปี
ในเชิงอรรถของหนังสือเล่มนี้ได้อธิบายถึงประวัติเจ้าคุณพระประยุรวงศ์ สนมเอกชั้นหนึ่ง
เจ้าคุณพระประยุรวงศ์ หรือเจ้าคุณจอมมารดาแพ เป็นพระสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ธิดาเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) และท่านผู้หญิงอิ่ม
นับได้ว่า เจ้าคุณพระประยุรวงศ์เป็นพระสนมเอก ‘คู่ทุกข์คู่ยาก’ รัชกาลที่ 5 แต่ยังทรงดำรงพระยศสมเด็จฯ พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้า โดยเมื่อต้นรัชกาลที่ 5 ปู่ของท่าน คือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและเป็นผู้ประคับประคองพระบรมราชวงศ์มาแต่ในรัชกาลที่ 3 และรัชกาลที่ 4
ส่วนเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ก็เป็นสมุหพระกลาโหมในรัชกาลที่ 5
ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดท่าน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ต้องทรงสู่ขอจากปู่และบิดาของท่านและทรงรับเป็นสะใภ้หลวง
หากแต่โบราณราชประเพณีมิได้มีกฏมณเฑียรบาลตราเอาไว้ เจ้าคุณพระประยุรวงศ์ก็อาจจะได้ดำรงพระยศเป็นพระมเหสีด้วย
ในหนังสือเล่มนี้ยังเรียบเรียงไว้ว่า เจ้าคุณพระประยุรวงศ์เป็นผู้มีความสำคัญในราชสำนัก โดยอายุของท่านมากเกือบเท่าพระชนมายุรัชกาลที่ 5 จึงเป็นที่นับถือของเจ้านายที่ทรงเป็นพระภรรยาเจ้าและพระเจ้าน้องยาเธอ ซึ่งตรัสเรียกท่านว่า “คุณพี่” ทุกพระองค์
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่ากันมาว่า ท่านเป็นคนแข็งและเป็นคนกล้า แม้แต่ขัดพระราชหฤทัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งรัชกาลที่ 5 ก็ยังทรงเกรงใจ
ดังที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเล่าไว้ในประวัติของพระองค์ตอนหนึ่งว่า ครั้งหนึ่งท่าน “งอน” รัชกาลที่ 5 ท่านว่า “ต่อไปนี้จะไม่เหยียบแผ่นดินพระจุลจอมเกล้า” ดังนั้น เมื่อท่านจะลงจากตำหนักไปที่ใดในพระบรมมหาราชวัง ท่านก็ขึ้นนั่งเก้าอี้ให้คนหามไป ท่านทำดังนี้อยู่พักใหญ่ จนหายงอน
ขณะที่นิตยสารศิลปวัฒนธรรม อธิบายไว้ว่า เจ้าคุณจอมมารดาเเพ ได้เลื่อนเป็นเจ้าคุณพระประยุรวงศ์ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/