
"...จากข้อมูลและข่าวที่ปรากฏ... หากผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขคิดจะเอาผิดให้ได้ ก็ต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่า นพ. สุภัทร ได้รับสินบนหรือเจตนาเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนรายใด หรือแอบนำ ATK ไปใช้นอกราชการ หรืองัดกฎระเบียบของ ก.สาธารณสุข มาเล่นครับ..."
เอกสารของกรมบัญชีกลาง 3 ฉบับ และกระทรวงสาธารณสุข 1 ฉบับ ที่ช่วยอธิบายว่า การจัดซื้อ ATK โดย นพ. สุภัทร ในช่วงต้นของการระบาดโควิด เกิดขึ้นภายใต้การยกเว้นกฎระเบียบเกี่ยวกับการจัดซื้อฯ รวมทั้งเงื่อนไข ราคากลาง การแบ่งซื้อแบ่งจ้าง การขออนุญาต ฯลฯ
อย่าลืมว่า การจัดซื้อ ATK ครั้งนี้ได้ราคา 230 บาท ถูกกว่าราคาที่กรมการค้าภายในควบคุมที่ 350 บาท
จากข้อมูลและข่าวที่ปรากฏ... หากผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขคิดจะเอาผิดให้ได้ ก็ต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ว่า นพ. สุภัทร ได้รับสินบนหรือเจตนาเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนรายใด หรือแอบนำ ATK ไปใช้นอกราชการ หรืองัดกฎระเบียบของ ก.สาธารณสุข มาเล่นครับ
1. หนังสือ ว. 115 วันที่ 27 มีนาคม 2563
ระบุว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ เพราะการระบาดของโควิด จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดซื้อจัดจ้างยาและเวชภัณฑ์ .... หากล่าช้าจะเสียหายต่อสาธารณะและระบบเศรษฐกิจโดยรวม
จึงให้ถือว่าการจัดซื้อแต่ละครั้ง ทุกวงเงิน เป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วน ให้ยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวง การกำหนดวงเงินการจัดซื้อฯ โดยวิธีเฉพาะเจาะจง วงเงินที่ไม่ต้องทำข้อตกลงเป็นหนังสือ วงเงินแต่งตั้งผู้ตรวจรับพัสดุ และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ ที่เกี่ยวข้อง ...
ทั้งนี้ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้รับผิดชอบการปฏิบัติงานดำเนินการไปก่อนแล้วรีบรายงานของความเห็นชอบต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ หากจำเป็นต้องจ่ายเงินล่วงหน้าก็ให้จ่าย และยกเว้นไม่ต้องวางหลักประกันการรับเงินล่วงหน้า..


2. หนังสือ ว. 120 วันที่ 31 มีนาคม 2563
ย้ำและเพิ่มเติมอีกว่า “ในการอ้างอิงราคากลาง หน่วยงานรัฐสามารถใช้วงเงินในการจัดซื้อฯ ในแต่ละครั้งเป็นราคากลาง” ภายใต้หลักเกณฑ์ตามนัย มาตรา 4 พ.ร.บ. จัดซื้อฯ
และการเผยแพร่การดำเนินการจัดซื้อฯ ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับจากวันที่มีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน


3. กค. 0405.4/2757 วันที่ 21 มกราคม 2567
อธิบายระเบียบกระทรวงการคลังฯ ข้อ 20 ว่า “การแบ่งซื้อหรือแบ่งจ้างโดยลดวงเงินที่จะจัดซื้อหรือจ้างในครั้งเดียวกัน เพื่อให้วิธีการซื้อหรืออำนาจในการสั่งซื้อสั่งจ้างเปลี่ยนแปลงไป จะกระทำมิได้”
และวรรคสองกำหนดว่า “กรณีใดจะเป็นการแบ่งซื้อหรือแบ่งจ้างให้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์ในการซื้อหรือจ้างครั้งนั้น และความคุ้มค่าของทางราชการเป็นสำคัญ”
จุดนี้ผมต้องการเน้นคำว่า ให้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์และความคุ้มค่าของการจัดซื้อครั้งนั้นๆ


4. ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2567 ระบุว่า การจัดซื้อฯ เกี่ยวกับโควิด สามารถดำเนินการได้เป็นปรกติแล้ว ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. จัดซื้อฯ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา