
"...ทั้งในแง่หลักการ อุดมการณ์ และยุทธศาสตร์การเมือง พรรคร่วม ปชป. รทสช. ภท. ควรรีบยื่นเงื่อนไขให้นายกฯลาออก ถ้านายกฯไม่ยอม พรรคร่วมควรถอนตัวจากรัฐบาล กรณีคลิปเสียงนี้ผมว่าเกินเยียวยา ในสถานการณ์ปัจจุบันสิ่งที่นายกฯพูดเข้าข่าย ‘treason’ คือการทรยศตำแหน่งของตน และทรยศแผ่นดิน หากแม้ว่าในใจท่านไม่ได้คิดทรยศประเทศ แต่แค่พูดออกมาก็ผิดแล้ว การขอโทษและลาออกยังจะรักษาความสง่างามไว้ได้บ้าง ในระบอบประชาธิปไตยนั้น ความชอบธรรมสำคัญ พรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลอยู่ไม่ควรลังเลที่จะแสดงตน..."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : สืบเนื่องการแชร์คลิปเสียงบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับการสนทนาระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งพื้นที่ระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งคลิปนี้มีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กชาวกัมพูชารายหนึ่ง ความยาวประมาณ 17 นาที 6 วินาที แต่แชร์คลิปสู่สาธารณะความยาวประมาณ 9 นาที
ขณะที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวยืนยันว่าเป็นคลิปจริง ที่คุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่าเนื้อหาการสนทนาเป็นเทคนิคในการคุยกัน โดยเฉพาะการอ้างถึงท่าทีของแม่ทัพภาคที่ 2 ว่าเป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลย ก็ไม่อยากให้ทางฝั่งนายฮุนเซนฟังแล้วรู้สึกโกรธ ไม่ชอบใจเพราะไม่ใช่ความตั้งใจของเรา

- อยากได้อะไร...เดี๋ยวจัดการให้! สรุปคลิปเสียง 9 นาที แพทองธาร-ฮุนเซน' เจรจาเปิดด่านชายแดน
- ส่งแชร์ต่อเพียบ! คลิปเสียงหลุด 'แพทองธาร' คุย ฮุน เซน 17 น. 6 วิ. แก้ขัดแย้งพื้นที่ 2 ปท.
- คำต่อคำ ‘แพทองธาร’ แจงคลิปหลุด คุยลับ ‘ฮุนเซน’
จากกรณีดังทำให้นักวิชาการ นักการเมือง และประชาชนจำนวนมากแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ น.ส.แพทองธาร โดยความเห็นส่วนใหญ่เรียกร้องให้น.ส.แพทองธาร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี บางส่วนก็แสดงความเห็นใจและให้กำลังใจน.ส.แพทองธาร
สำนักข่าวอิศรารวบรวมความเห็นที่น่าสนใจมานำเสนอ ดังนี้

น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า ฟังคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกแพทองธาร กับฮุน เซน ขอสรุปว่า นายกต้องรับผิดชอบด้วยการยุบสภา ด้วยเหตุผลดังนี้
1. ไม่รักษาเกียรติภูมิผู้นำประเทศ ด้วยการแสดงความสนิทสนมกับผู้นำประเทศอื่นในฐานะหลานสาว
2. ยอมรับกับผู้นำต่างชาติ ว่ารัฐบาลกับกองทัพไม่เป็นเอกภาพกัน
3. ไม่มีความพยายามในการชี้แจงประเด็นสำคัญอันเป็นหัวใจของการคลี่คลายความขัดแย้งไทย-กัมพูชา คือการโน้มน้าวให้กัมพูชาหันมาเจรจาทวิภาคี แทนการขึ้นศาลโลก
4. ในทางตรงกันข้าม กลับมุ่งแต่แก้ปัญหาการเมืองภายในของตนเอง ด้วยการยอมรับว่าขณะนี้ตนโดนวิจารณ์หนัก
ย้ำอีกครั้งว่า trust คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับนักการเมือง และยิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำประเทศ ดิฉันเตือนท่านหลายครั้งว่าท่านกำลังสูญเสีย trust อย่างร้ายแรงจากกรณีไทย-กัมพูชา
วันนี้ ดิฉันเชื่อว่า trust ที่ประชาชนมีต่อท่าน ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิงแล้ว
#ยุบสภา เป็นทางออกเดียว หากท่านยังเคารพประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ
ปล. “พี่ฮวด” ในคลิป เป็นคนเดียวกับที่อยู่กับต้าร์ วันเฉลิม ในวันที่เขาถูกอุ้มหายที่กัมพูชา และปรากฏตัวในภาพที่ทักษิณอยู่กับฮุนเซนหลายต่อหลายครั้ง

นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า ทั้งในแง่หลักการ อุดมการณ์ และยุทธศาสตร์การเมือง พรรคร่วม ปชป. รทสช. ภท. ควรรีบยื่นเงื่อนไขให้นายกฯลาออก ถ้านายกฯไม่ยอม พรรคร่วมควรถอนตัวจากรัฐบาล กรณีคลิปเสียงนี้ผมว่าเกินเยียวยา ในสถานการณ์ปัจจุบันสิ่งที่นายกฯพูดเข้าข่าย ‘treason’ คือการทรยศตำแหน่งของตน และทรยศแผ่นดิน หากแม้ว่าในใจท่านไม่ได้คิดทรยศประเทศ แต่แค่พูดออกมาก็ผิดแล้ว การขอโทษและลาออกยังจะรักษาความสง่างามไว้ได้บ้าง
ในระบอบประชาธิปไตยนั้น ความชอบธรรมสำคัญ พรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลอยู่ไม่ควรลังเลที่จะแสดงตน

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์เฟซบุ๊กว่า พรุ่งนี้ ไม่ต้องคุยเรื่องปรับ ครม. แล้ว หลังคลิป นายก คุย กับฮุนเซ็น หลุด เหลือเรื่องเดียว คือ นายกจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกกี่โมง

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ความเห็นต่อคลิปเสียงบทสนทนาของผู้นำไทย-กัมพูชา และข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร จากกรณีคลิปเสียงสนทนาบางส่วนระหว่างคุณแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย กับนายฮุน เซน ประธานองคมนตรีและประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่เผยแพร่ออกมาวันนี้ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาชน ผมมีความเห็นและข้อเรียกร้องต่อคุณแพทองธาร ชินวัตร ดังนี้
(1) ผมเห็นเช่นเดียวกับท่านนายกรัฐมนตรีว่า เป้าหมายในการบริหารจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คือ การกลับสู่ภาวะปกติและสันติภาพระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ขยายความขัดแย้งจนกระทบต่อพี่น้องประชาชนของทั้งสองประเทศ
(2) การเจรจาพูดคุยเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ สามารถทำได้ทั้งผ่านช่องทางที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ แต่ผมก็คาดหวังว่า คุณแพทองธารจะสื่อสารกับผู้นำของประเทศเพื่อนบ้านอย่างมีวุฒิภาวะและมีเกียรติภูมิในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาของส่วนรวม ไม่ใช่สื่อสารในฐานะหลานสาวของผู้นำประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ไขปัญหาการเมืองส่วนตัว
(3) การแสวงหาความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชาเพื่อลดความตึงเครียดตามแนวชายแดนและคืนชีวิตความเป็นอยู่อันปกติสุขให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศเป็นสิ่งที่ดี โดยหากคุณแพทองธารไม่ต้องการแค่ลดแรงกดดันทางการเมืองต่อตัวเองเฉพาะหน้าเท่านั้น สิ่งที่ผมคาดหวังจะได้ยินจากนายกรัฐมนตรีไทยในการพูดคุยกับผู้นำของกัมพูชาด้วย แต่กลับไม่ได้ยิน คือการโน้มน้าวให้ผู้นำกัมพูชาเห็นว่า การนำข้อพิพาทเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชาไปสู่ศาลโลกนั้น ไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุดในการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศเพื่อนบ้านโดยยังรักษาความรู้สึกที่ดีต่อกัน ดังนั้น ควรใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่แล้ว และช่วยกันลดบรรยากาศที่อาจทำให้ประชาชนของทั้งสองประเทศเกลียดชังต่อกัน
(4) ส่วนสิ่งที่ไม่ควรออกจากปากผู้นำไทยคือการสื่อสารกับผู้นำของประเทศเพื่อนบ้านว่ากองทัพไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามทั้งกับรัฐบาลไทยและกัมพูชา ทั้งๆ ที่คุณแพทองธารเป็นคนแถลงต่อสาธารณะเองหลายครั้งว่ารัฐบาลมอบหมายให้กองทัพตัดสินใจเกี่ยวกับมาตรการเปิดปิดด่าน และไม่มีความแตกแยกระหว่างกองทัพกับรัฐบาล
(5) ผมตระหนักดีว่า มีบุคคลบางกลุ่มต้องการขยายความขัดแย้งและฉวยใช้สถานการณ์ข้อพิพาทไทย-กัมพูชาเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองทั้งในไทยและในกัมพูชา ผมไม่อยากเห็นฝ่ายใดฉวยโอกาสนี้ไปทำให้กองทัพมีอำนาจเหนือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รวมทั้งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองด้วยวิถีทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ คือนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลต้องแสดงบทบาทนำในการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาให้ได้โดยเร็ว โดยจำกัดบทบาทของกองทัพให้ปฏิบัติหน้าที่และสื่อสารเฉพาะที่รัฐบาลสั่งการเท่านั้น
(6) นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะมีบทบาทนำในการคลี่คลายสถานการณ์ไทย-กัมพูชาได้ ก็ต้องดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ เท่าทันสถานการณ์ และแสดงออกให้ประชาชนเชื่อมั่นหรือไว้วางใจ แต่บทสนทนาที่ปรากฏในคลิปเสียงระหว่างคุณแพทองธารกับนายฮุน เซน กลับยิ่งทำลายความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของพี่น้องประชาชนต่อนายกรัฐมนตรีของพวกเขาลงอย่างสิ้นเชิง
หากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของประชาชนไทยให้กลับมาได้โดยเร็ว ผมขอเรียกร้องให้คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยด้วยการยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้แก่ประชาชน และเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลบางกลุ่มปลุกปั่นความผิดพลาดของคุณแพทองธารให้บานปลายจนนำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่เป็นผลดีต่อระบอบประชาธิปไตยของเรา

นายอิราวัต อารีกิจ Voter พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า การเจรจาเรื่องความมั่นคง เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่แปลก ที่จะมีการเจรจาทั้งแบบ “เป็นทางการ” และแบบ “ไม่เป็นทางการ” แต่บรรทัดสุดท้าย ผลของการเจรจานั้น ทางออกที่ดีที่สุด คือ “สันติภาพชายแดน” ชีวิตผู้คน ชีวิตประชาชนที่เกี่ยวข้อง เราจะรบ “เมื่อจำเป็นต้องรบ” เท่านั้น นายกฯ Ing Shinawatra มีความสัมพันธ์กับผู้นำกัมพูชา แบบยกหูคุยได้ และแน่นอน ว่าต่างฝ่ายต่างเคยช่วยเหลือกัน ครั้งที่ถูก “การเมืองภายในประเทศ” กลั่นแกล้ง การใช้การเจรจา แบบ “ส่วนตัว” จึงเป็นหนึ่งในทางเลือก คุยแบบครอบครัว เจรจาแบบคนเคยเป็นมิตรสหาย เคยช่วยเหลือกัน
มันจึงไม่แปลกที่ฝั่งเรา จะเจรจาแบบอ่อนน้อมเพราะคิดถึงชีวิต คิดถึงความปลอดภัยของประชาชน เป็นที่ตั้ง เลี่ยงการปะทะ แบบเสียเลือดเนื้อและก็ไม่แปลก ที่นายกฯอิ๊ง แพทองธาร จะยังไม่ไว้ใจกำลังทหาร แบบ 100% เพราะจากประวัติศาสตร์ พ่อ และอา รวมถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนเลือกมาถูกกระทำ “โดยกำลังทหาร” ที่เคยไว้ใจ การเจรจา เพื่อลดความรุนแรงจากวาทกรรม ของประชาชนฝ่าย “คลั่งชาติ” ของฝ่ายที่ต้องการล้มรัฐบาลเพื่อไทย
ฝ่ายที่คอยล้มกระดาน ยุแยง สุมไฟ เสี้ยมให้เกิดการปะทะรายวันจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องแสดงออกว่าความเห็นเหล่านั้น ไม่ใช่จากประชาชนไทยทั้งหมดด้วยคนไทยในประเทศ ยังแตกฝั่งฝ่าย ทำลายกันเองเรื่องนี้ ควรจบด้วยสันติวิธี อย่างถึงที่สุดแต่ก็แน่นอน..หากจำเป็นต้องรบ เราก็ต้องรบไม่ปฎิเสธ ว่า “ทหาร” ก็มีกลุ่ม มีฝั่ง มีความคิดที่อาจไม่ตรงกับรัฐบาลจากประชาชน เรื่องนี้ สิ่งที่ผิดมีสิ่งเดียว คือ ความไว้วางใจ และ การให้เกียรติกันที่ฝั่งผู้นำกัมพูชา..ไม่มีให้เรา กลับพร้อมทำการตลาด สร้างคะแนนนิยมจากความคลั่งชาติ และการบาดหมางกันระหว่างประเทศ..
ในฐานะ Voter พรรคเพื่อไทย ผมเข้าใจเจตนาของนายกฯแพทองธารและขอให้เดินหน้า ทำเพื่อแผ่นดิน เพื่อประชาชนอย่าหลงกระแส การทำลายล้างภายในของคนที่ชังการยุบสภาฯ การทำรัฐประหาร ไม่ใช่คำตอบแต่เป็นเป้าหมายของกลุ่มที่เกลียดชังรัฐบาลที่จะทำทุกวิธีทาง แม้แต่การชักศึกเข้าบ้าน เพื่อให้ตนและพวก ขึ้นมามีอำนาจ ผมเชื่อว่าประชาชน และโหวตเตอร์แบบผมไม่น้อยที่มีตัวตน ไม่ใช่ iO ปั่นกระแส ไม่ใช่เพจจัดตั้งเข้าใจ ยังคงให้กำลังใจ และยิ่งต้องให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ในนาทีนี้

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา