
“...ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า ความต้องการของท่านจริงๆแล้ว ต้องการคะแนนนิยมภายในประเทศของท่านเอง โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร การที่ท่านจะมีความนิยมทางการเมืองในประเทศของท่าน ซึ่งท่านนายกฯ (ฮุนมาเนต บุตรชายสมเด็จฮุนเซน) ก็เคยบอกดิฉันว่า ความนิยมเริ่มตก อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อยากจะเรียกพลังตรงนี้ ดิฉันก็หวังว่า ท่านจะได้คะแนนนิยมเพิ่มและอยู่ในสานตาของโลกที่จับตามองอยู่ว่า เมื่อผู้นำทั้งสองท่านคุยกันส่วนตัว แต่มีการอัดคลิปและปล่อยออกมาแบบนี้ แน่นอนว่า ดิฉันไม่ได้ปล่อย จะได้เข้าใจจุดประสงค์ว่าจริงๆ เราเจรจาให้เกิดสันติภาพ ไม่ทราบว่า เป็นหนึ่งที่ทำให้ความนิยมท่านขึ้น ก็ไม่เป็นไร ตามนั้น…”
หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังมีการเผยแพร่คลิปสนทนากับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยยืนยันว่าเป็นคลิปจริงที่คุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีเนื้อหาดังนี้
@โบ้ยแม่ทัพภาค 2 เป็นเทคนิคในการคุยกัน
ดิฉันทราบข้อมูลมาจากคนที่แปล (ล่าม) ว่า ทางกัมพูชา ทางท่านฮุนเซนเอง โกรธแม่ทัพภาคสอง (พล.ท.พุนสิน พาดกลาง) ที่ได้พูด ที่คลิปออกมาก่อนหน้านั้น โกรธ ดิฉันเข้าใจ พอคุยกันดิฉันก็บอกว่า ในเมื่อทางแม่ทัพภาคสองพูดแบบนี้ ในเมื่อเรา ทั้งไทยและกัมพูชาก็เป็นฝั่งตรงข้ามกัน ปะทะกันอยู่แล้ว ตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้แหละ เราอย่าไปถือสาเลย อย่าไปคิดเลย พยายามทำความเข้าใจก่อนว่า เขาโกรธเรื่องนี้นะ เป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์ หลังบ้าน ที่เป็นการพูดแบบเป็นการส่วนตัว คุยโทรศัพท์กัน มันก็ไม่ควรจะเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการคุยกัน การเจรจาต่อรอง
ดิฉันก็รู้สึกว่า ดิฉันทำตามสิ่งที่เรียกว่า มีจุดมุ่งหมาย มีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมือง และรักษาอธิปไตยของเราไว้ และประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติ ของพี่น้องประชาชน
“ดิฉันก็คุยด้วยความนุ่มนวล เวลาคุยกันส่วนตัว แน่นอนว่า เรียก uncle เรียกหลาน ก็เหมือนคนในครม. ทำงานกันมาตั้งแต่รุ่นของคุณพ่อ เรียกอา เรียกลุง เป็นปกติ”

@ล็อบบี้เปิดด่านพร้อมกัน แต่โดนเฟซบุ๊ก ‘ฮุนเซน’ ขู่ก่อน
ระหว่างคุยกันสักพัก ดิฉันก็ไม่มั่นใจในเรื่องของไทม์ไลน์ ว่า ของกองทัพเป็นอย่างไร ดิฉันก็บอกว่า ... เขาก็บอกว่า ให้เปิดด่าน ดิฉันก็บอกว่า ได้เลย (เสียงสูง) เปิดพร้อมกันไหม จะได้เหมือนกับเป็นการแสดงความสันติภาพว่า พอจับมือปุ๊บ แล้วเปิดพร้อมกัน เขาบอกไม่ยอม ก็บอกว่า ไม่ยอมได้อย่างไร ไทยก็ยอมแล้วนะ ไม่ได้ต่อสู้ ไม่ได้ฮึดฮัดอะไรสักหน่อย พูดให้เขารู้สึกว่า เราไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมเขาถึงบอกว่า ไม่ได้ ต้องไทยเปิดก่อน เดี๋ยวรอ 5 ชั่วโมง แล้วค่อยถึงจะเปิดตาม เขาเป็นลูกผู้ชายนะ เขาบอก เขาคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว ดิฉันก็ไม่แน่ใจ ฉันดิฉันก็บอกว่า ขออนุญาตปรึกษากับทีมทางกลาโหมก่อน เพื่อที่จะให้คำตอบพรุ่งนี้ คือ วันที่มีการประชุมที่บ้านพิษณุโลก
พอประชุม ยังไม่ทันเลิกเลยก็มีเฟซบุ๊กออกมา ท่านฮุนเซนเฟสบุ๊กออกมาว่า ถ้าประเทศไทยไม่เปิดด่านภายใน 24 ชั่วโมง จะปิดด่านหมดเลย อันนี้แหละที่ดิฉันรู้สึกว่า เอ้า ทำไมไม่เหมือนกับที่คุยกันไว้
“ดิฉันพยายามพูดด้วยความใจเย็น เพื่อที่จะอยากทราบจริงๆว่า เขาต้องการอะไร ว่าอะไรบ้างที่เราอยากจะทำเพิ่มเติมให้ไหม หรือยังไง หรือจะคุยกันยังไงดีให้เกิดการต่อรองและเกิดสันติภาพไม่ต้องมีการเสียเลือดเสียเนื้อกัน อันนี้คือความตั้งใจ เสร็จแล้วท่านก็ย้ำถึงเรื่องการเปิดด่านอย่างเดียว ดิฉันก็ไม่กล้ารับปากเพราะว่าไม่แน่ใจว่ากองทัพพร้อมหรือไม่ ก็เลยไม่รับปาก แล้วก็บอกว่าขอคุยพรุ่งนี้เสร็จแล้วจะบอก”
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า ความต้องการของท่านจริงๆแล้ว ต้องการคะแนนนิยมภายในประเทศของท่านเอง โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร การที่ท่านจะมีความนิยมทางการเมืองในประเทศของท่าน ซึ่งท่านนายกฯ (ฮุนมาเนต บุตรชายสมเด็จฮุนเซน) ก็เคยบอกดิฉันว่า ความนิยมเริ่มตก อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อยากจะเรียกพลังตรงนี้ ดิฉันก็หวังว่า ท่านจะได้คะแนนนิยมเพิ่มและอยู่ในสานตาของโลกที่จับตามองอยู่ว่า เมื่อผู้นำทั้งสองท่านคุยกันส่วนตัว แต่มีการอัดคลิปและปล่อยออกมาแบบนี้ แน่นอนว่า ดิฉันไม่ได้ปล่อย จะได้เข้าใจจุดประสงค์ว่าจริงๆ เราเจรจาให้เกิดสันติภาพ ไม่ทราบว่า เป็นหนึ่งที่ทำให้ความนิยมท่านขึ้น ก็ไม่เป็นไร ตามนั้น


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา