"...แม้ว่าจะต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับปริมาณนิโคตินที่ร่างกายได้รับจากบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับบุหรี่มวน แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ เด็กที่ไม่เคยสูบบุหรี่มวนมาก่อน แต่เริ่มต้นด้วยบุหรี่ไฟฟ้า จะได้รับปริมาณนิโคตินในระดับสูงจากการพัฟฟ์ต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะติดนิโคตินรุนแรงโดยที่ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ที่จะช่วยลดการเสพติด..."
ในขณะที่สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านบริการสุขภาพอย่างมาก แต่กลับต้องเผชิญกับปัญหาการติดบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ จนต้องมีการตั้งคลินิกเฉพาะสำหรับเด็กที่ติดบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีการขยายบริการและส่งต่อผู้ป่วย ปรากฏการณ์นี้สะท้อนถึงปัญหาที่ใหญ่ขึ้น: อังกฤษมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
ปรากฏการณ์ที่เป็นสัญญาณเตือนสำหรับทั่วโลก
สถานการณ์ในอังกฤษอาจถือเป็นสัญญาณ (signal) สำหรับประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ที่ต้องตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งอาจถูกมองว่าเป็น “อาวุธอันตราย” (Hazardous Weapon) ที่ต้องได้รับ “การจัดลำดับความสำคัญ” (Priority) และถือเป็น “ศัตรูเป้าหมาย” (Target Enemy) ที่ต้องมีการบูรณาการสรรพกำลัง วางกลยุทธ์ และเร่งดำเนินมาตรการเพื่อต่อสู้กับปัญหานี้ก่อนที่มันจะลุกลามจนควบคุมไม่ได้
ความเข้าใจที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า
แม้แต่ สำนักงานระบบสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ของอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข ก็ยังคงให้ข้อมูลว่า “บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนอย่างมีนัยสำคัญ” (Substantially less harmful than smoking) อย่างไรก็ตาม คำกล่าวนี้อาจนำไปสู่การเข้าใจผิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัย และอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในเด็ก
มุมมองจากแพทย์ในแมนเชสเตอร์: บุหรี่มวนอาจมีช่วงพักจากการสูบ แต่บุหรี่ไฟฟ้าทำให้เสพต่อเนื่อง
แพทย์จากเมืองแมนเชสเตอร์ได้ให้ข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้า:
• การสูบบุหรี่มวน ผู้สูบต้อง ออกไปสูบภายนอกอาคาร และสูบทีละมวน
• กระบวนการเปลี่ยนมวนใหม่ การจุดไฟ และการหมดมวนแล้วต้องจุดใหม่ ทำให้เกิด “ช่วงพัก” (disruption) ตามธรรมชาติ ซึ่งอาจช่วยลดปริมาณนิโคตินที่เข้าสู่ร่างกาย
• แต่บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีช่วงหยุดแบบนี้ ผู้สูบสามารถ สูบได้ต่อเนื่องโดยไม่มีอะไรมาขัดจังหวะ ไม่ต้องจุดไฟ ไม่ต้องเปลี่ยนมวน ไม่ต้องออกไปนอกห้อง
พฤติกรรมนี้อาจนำไปสู่การได้รับปริมาณนิโคตินที่สูงกว่าบุหรี่มวนโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เด็กติดบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น
บุหรี่ไฟฟ้า: รูปรสกลิ่นเสียงที่ทำให้เด็กติดโดยไม่มีข้อจำกัด
แม้ว่าจะต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับปริมาณนิโคตินที่ร่างกายได้รับจากบุหรี่ไฟฟ้าเมื่อเทียบกับบุหรี่มวน แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ เด็กที่ไม่เคยสูบบุหรี่มวนมาก่อน แต่เริ่มต้นด้วยบุหรี่ไฟฟ้า จะได้รับปริมาณนิโคตินในระดับสูงจากการพัฟฟ์ต่อเนื่อง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะติดนิโคตินรุนแรงโดยที่ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ที่จะช่วยลดการเสพติด
ที่สำคัญ บุหรี่ไฟฟ้าถูกออกแบบมาให้มี รูปรสกลิ่นเสียงที่ดึงดูดใจ ทำให้เด็กสนุกกับการใช้ โดยไม่มีปัจจัยขัดขวางการได้รับนิโคติน เช่น การต้องออกไปสูบนอกห้อง หรือการที่มวนหมดแล้วต้องจุดใหม่ สิ่งเหล่านี้ทำให้การติดบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กเป็นปัญหาที่รุนแรงขึ้น และเป็นที่น่ากังวลว่า ประเทศไทยอาจกำลังเดินเข้าสู่สถานการณ์เดียวกับอังกฤษ ซึ่งในอนาคตอาจต้องจัดตั้งคลินิกเฉพาะเพื่อรักษาเด็กที่ติดบุหรี่ไฟฟ้าเช่นกัน
ข้อสรุป
การที่อังกฤษต้องตั้งคลินิกพิเศษเพื่อรักษาเด็กติดบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ใช่เพียงแค่ปรากฏการณ์เฉพาะของประเทศนี้ แต่เป็นสัญญาณเตือนสำหรับทั่วโลกว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัย โดยเฉพาะสำหรับเยาวชน หากไม่มีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด ปัญหานี้อาจลุกลามจนกลายเป็นภาระทางสาธารณสุขที่ยากจะแก้ไขในระยะยาว
อ้างอิง :
https://www.liverpoolecho.co.uk/news/liverpool-news/inside-uks-first-childrens-vaping-31202372
https://www.liverpoolecho.co.uk/news/uk-world-news/vaping-horror-deadly-side-effects-31062831
วิทยา กุลสมบูรณ์
มูลนิธิเภสัชชนบท
18 มีนาคม 2568