“…ถ้าพูดถึงโดยรวมความมั่นคงของรัฐบาล ผมคิดว่า รัฐบาลยังมีความมั่นคงและรัฐบาลน่าจะอยู่ครบวาระ ถ้าไม่ไปทำผิดจริยธรรม ไม่ไปทำผิดกฎหมาย…”
พลันที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ขยับตัวเข้าใกล้จังหวะก้าวจัดตั้ง ‘รัฐบาลแพทองธาร’ ก็โดน ‘นักร้องเรียน’ ยื่นตรวจสอบคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี - น.ส.แพทองธาร ชินวัตร คู่ขนาน พ่วง ‘ยุบพรรค’ กรณี ‘ครอบงำ’ คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย
‘นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ’ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ นักวิเคราะห์การเมือง ถอดรหัส ‘ครม.ครอบครัว’ ที่มีปมจริยธรรม เสมือน ‘ระเบิดเวลา’ ใน ‘รัฐบาลแพทองธาร’ กับสำนักข่าวอิศรา ( www.isranews.org )
อดีต สส.พัทลุง 8 สมัย-ขุนพลปักษ์ใต้ สังกัด ‘พรรคคู่ปรับเก่า’ กับ ‘ระบอบทักษิณ’ ใช้ประสบการณ์ 30 ปี ในยุทธจักรการเมือง พินิจชนวนระเบิดเวลา ว่า ‘เป็นเรื่องเฉพาะตัวของรัฐมนตรี’ ในองค์กรอิสระ ศาล เช่น ไปทำอะไรที่ฝ่าฝืนต่อจริยธรรม ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย หรือทุจริต
“ไม่ทำให้รัฐบาลล้มได้ อย่างมากก็แค่เปลี่ยนตัวรัฐมนตรี จากพี่ก็เอาน้องมา จากลูกก็เอาพ่อ จากพ่อก็เอาลูกมาได้ เปลี่ยนตัวได้ เพราะคนไม่ได้ถือสาเหมือนในอดีต เมื่อก่อนไม่ได้ (เรื่องทุจริต) อ่อนไหวมาก เดี๋ยวนี้ อารมณ์คนไม่ได้คำนึงถึงเรื่องพวกนี้”
‘นิพิฏฐ์’ ขยายความถึงเหตุผลที่ทำไมเรื่องคุณธรรม-จริยธรรมและข้อครหาเรื่องการทุจริต คนไม่อินเหมือนสมัยก่อน ว่า คนคิดถึงปากท้องมากกว่า ถ้าใครก็ตามถึงแม้ผิดจริยธรรม ผิดกฎหมาย ประชาชนก็พร้อมที่จะไม่ลงโทษ เพียงแต่ทำให้เขาอยู่ดีกินดีมากขึ้นได้ ซึ่งระบบนี้เปลี่ยนเป็นทั้งโลก
@ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ระเบิดเวลา
ถึงแม้ ‘นิพิฏฐ์’ จะมองว่า ชนักปักหลังของรัฐมนตรีใน ‘ครม.แพทองธาร’ แม้จะเป็นเรื่อง ‘เฉพาะตัว’ รัฐบาลสามารจัดสรรอำนาจภายในพรรคร่วมรัฐบาลและบริหารอารมณ์ของผู้คนที่อยู่ในช่วงซมพิษเศรษฐกิจ แต่เขาให้ ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ มัดรวมอยู่ในระเบิดเวลาใน ‘รัฐบาลแพทองธาร’ ด้วย
“อาจจะรวมถึงคดีของคุณทักษิณด้วย เพราะในความเป็นจริงในทางการเมือง คุณทักษิณมีสถานะเหมือน ‘ซุปเปอร์นายกฯ’ เพราะถ้าคุณทักษิณโดน เช่น เรื่อง ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ หรือคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รัฐบาลก็ต้องมีปัญหาไปด้วย”
ปัจจุบันศาลอาญาอยู่ระหว่างนัดนายทักษิณในฐานะจำเลยสืบพยานในเดือนกรกฎาคม 2568 ในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560
‘นิพิฏฐ์’ เดาใจ ‘ผู้มีอำนาจ’ หาก ‘เพลี้ยงพล้ำ’ จะ ‘ล้มกระดาน’ ด้วย ‘เงื่อนไข’ และ ‘ข้ออ้าง’ ในการ ‘ยุบสภา’ ให้ “ประชาชนตัดสิน” เพราะถ้าคุณทักษิณติดคุก หรือลงโทษคุณทักษิณ คล้าย ๆ ว่ายังมีอำนาจนอกระบบ อำนาจตุลาการภิวัฒน์ไปทำร้าย ไปทำลายนักการเมือง เขาก็จะให้พิสูจน์กันด้วยการเลือกตั้ง
“คนที่มีอำนาจ มีบารมี เป็นพรรคการเมืองหรือนักการเมืองที่มีชื่อเสียง มีเสียงเยอะ เวลามีปัญหาเขาก็จะใช้วิธีนี้ (วิธียุบสภา) ให้ประชาชนตัดสิน”
@ ม็อบ (ใหญ่) จุดไม่ติด
ในยุครัฐบาลทักษิณ-รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เคยใช้ ‘ท่าไม้ตาย’ ยุบสภา แต่สุดท้ายก็โดน ‘โรคแทรกซ้อน’ ม็อบเสื้อเหลือง-ม็อบนกหวีด นำไปสู่ ‘เดดล็อก’ และการรัฐประหาร แต่ ‘นิพิฏฐ์’ มองว่า ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย
ผมคิดว่า การเกิดม็อบใหญ่แบบนั้น ไม่น่าจะเกิดแล้ว แต่ถ้าเป็นการชุมนุม การทำกิจกรรมเพื่อรักษาอารมณ์ เพื่อดึงกระแสให้เห็นว่า รัฐบาลกำลังไปปกป้องการกระทำบางอย่างอยู่ที่ไม่ถูกต้องเพื่อรักษากระแสไว้ยังมีอยู่
‘นิพิฎฐ์’ แม้จะลา ‘จอการเมือง’ ไปเป็น ‘ผู้เล่น’ ที่ ‘ไร้สังกัด’ แต่เขาก็ยังขึ้น-ลง เวทีข้างทำเนียบรัฐบาลเป็นครั้งคราว เขาวิเคราะห์ ว่า ‘ม็อบจุดไม่ติด’
หนึ่ง คนที่ร่วมกิจกรรมเมื่อครั้ง กปปส. หรือ พันธมิตรฯ (ม็อบเสื้อเหลือง) ในขณะนั้น วันนี้ส่วนใหญ่แล้วอายุมากแล้ว ไม่สามารถนอนวันฝันคืนมาชุมนุมตามถนน ตามที่สาธารณะได้นานขนาดนั้นแล้ว
สอง คนที่มาจะมาทำกิจกรรมอย่างนั้นเดี๋ยวนี้ คนรุ่นใหม่จะไม่มา แต่จะติดต่อมีความเห็นกันเฉพาะกลุ่มในสื่อโซเชียลมีเดียลมากกว่า เพราะฉะนั้นม็อบที่เป็นประชาชนจริง ๆ ที่ลงมาเดินถนน ผมคิดว่า ไม่มีโอกาสเห็นม็อบใหญ่
@ เลี้ยงกระแส ชั้น 14 รพ.ตำรวจ
การ ‘ก่อม็อบ’ แม้จะไม่ได้หวังผลถึง ‘ล้มกระดาน’ แต่ ‘นิพิฏฐ์’ คาดหวังว่าจะยังคง ‘เลี้ยงกระแส’ เพื่อไปให้ถึงวันที่มีคำตัดสินขององค์กรอิสระ-ศาล
ผมว่ามีระดับนั้น เช่น ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งผมทำอยู่ทุกเดือน และวันที่ 18 ก.ย.67 ผมก็ต้องไปที่ ป.ป.ช. ไปตาม ป.ป.ช.ทุกเดือน กสม.เราก็ไป กสม.วินิจฉัยให้เรามาแล้ว เราทำทุกเดือน
“มันเลี้ยงกระแส เราต้องการให้มันยุติ พอ ป.ป.ช.วินิจฉัยมา ยังไงผมว่า กระทบกับรัฐบาล กระทบแน่ กระทบความเชื่อมั่นของประชาชน เพราะความเชื่อมั่นที่มีต่อนายกรัฐมนตรีมันผูกอยู่กับความเชื่อมั่นที่มีต่อคุณทักษิณ เราปฏิเสธไม่ได้ สมมุติคุณทักษิณติดคุกในมาตรา 112 กระทบถึงตัวนายกฯ แน่”
คดีของนายทักษิณคงจะพิจารณาและตัดสินปลายปี 68 ขณะนี้รัฐบาลก็คงออกกฎหมายนิรโทษกรรมออกมาให้ได้ ผมคิดว่าคุณทักษิณไม่กล้าที่จะไปเผชิญหน้ารับฟังคำพิพากษาในคดีมาตรา 112
“เราจะเห็นว่าในขณะนี้มีการวางแผนไว้เป็นขั้น ๆ เช่น การกำหนดสถานที่คุมขังนอกเรือนจำ อันนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยคุณทักษิณ ถ้าคุณทักษิณเกิดเพลี้ยงพล้ำขึ้นมา อันนี้จะช่วยคุณยิ่งลักษณ์ถ้าเกิดคุณยิ่งลักษณ์เดินทางกลับ ไม่ต้องไปคุมขังในเรือนจำ รองรับความพลาดพลั้งที่จะเกิดขึ้นจากคดีของคุณทักษิณกับคุณยิ่งลักษณ์”
@ อ่านใจ ‘นายกฯอิ๊งค์’ พา ‘ยิ่งลักษณ์’ กลับบ้าน
‘นิพิฏฐ์’ อ่านใจ ‘นายกฯ เลือดแท้ชินวัตร’ จะหาวิธีการใดพา ‘นายกฯผู้เป็นอา’ กลับบ้าน คือ “วิธีนิรโทษกรรม”
นิรโทษกรรมมีสองประเภท ความผิดทางการเมือง และความผิดต่อสถาบัน หลายพรรคบอกว่า เรื่องสถาบันเอามานิรโทษกรรมไม่ได้ แต่พรรคเพื่อไทยตอนหลังเสียงอ่อนลง โดยมีแรงหนุนจากพรรคประชาชน (อดีตพรรคก้าวไกล)
“ถ้าพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนจับมือกัน เอามาตรา 112 มานิรโทษกรรมด้วย คดีคุณทักษิณก็จบ ไม่ต้องพิจารณา จำหน่ายคดีไปเลย ส่วนของคุณยิ่งลักษณ์ เราจะเห็นว่าจะให้มีคณะกรรมการพิจารณา จะบอกว่า สืบเนื่องมาจากการเมือง”
“โอกาสที่จะช่วยคุณทักษิณกับโอกาสที่จะช่วยคุณยิ่งลักษณ์ นาทีนี้ ปีนี้ จังหวะนี้ เป็นจังหวะที่ดีที่สุดของคุณอุ๊งอิ๊งค์ ของพรรคเพื่อไทยแล้ว
หลุดจากนี้ไม่สามารถรับรองได้ว่า พรรคเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาลอีกหรือไม่ ต้องทำตอนที่มีอำนาจอยู่ในขณะนี้ ทำหลังจากนี้โอกาสมีน้อยกว่าวันนี้”
@ รัฐบาลอยู่ครบวาระ
นักเลือกตั้ง-นักสังเกตการณ์ทางการเมืองหลายคน ประเมินอายุขัยของ ‘รัฐบาลนายกฯอายุน้อย’ จะอยู่บริหารราชการแผ่นดินหลักเดือน-ไม่ครบวาระ แต่ ‘นิพิฏฐ์’ เห็นต่าง
สมมุติว่ามีพรรคใดพรรคหนึ่งมีปัญหาถอนตัวออกมาก็มีคนที่จะเข้าไปเป็นรัฐบาลเสียบอยู่ตลอดเวลา อย่างน้อยพลังประชารัฐอีกครึ่งพรรค เพราะนักการเมือง หรือพรรคการเมืองไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน
“ถ้าพูดถึงโดยรวมความมั่นคงของรัฐบาล ผมคิดว่า รัฐบาลยังมีความมั่นคงและรัฐบาลน่าจะอยู่ครบวาระ ถ้าไม่ไปทำผิดจริยธรรม ไม่ไปทำผิดกฎหมาย”