"...อย่าโค้นต้นไม้ใหญ่ ที่ยังให้ความร่มเย็น แล้วปลูกต้นไม้ใหม่มาแทนที่..."
อาจารย์สุลักษณ์ถือได้ว่าเป็น 'ปัญญาชน' คนเดียว ที่ทำงานกับคนรุ่นใหม่ต่อเนื่องยาวนานร่วม 57 ปี
ผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองใหญ่ๆมา 3 เหตุการณ์ 14 ตุลา 16 , 6 ตุลา 19 , พฤษภา 35
ผ่านเผด็จการทหารรุ่นแล้วรุ่นเล่า จนถึงรัฐประหารครั้งที่ 13
เป็นนักอนุรักษ์นิยมที่เห็นว่าสถาบันกษัตริย์ต้องคงอยู่คู่กับสังคมไทย เปรียบเทียบด้วยวลีที่ว่า
'อย่าโค้นต้นไม้ใหญ่ ที่ยังให้ความร่มเย็น แล้วปลูกต้นไม้ใหม่มาแทนที่'
ถึงกระนั้นอาจารย์ ส. ก็พร้อมท้าทายต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ เป็นระยะๆ ทำให้ต้องคดีอาญาหลายครั้งหลายหน และต้องหลบหนีลี้ภัยเผด็จการทหาร อย่างน้อย 2 ครั้ง
มาถึงวันนี้ คนรุ่นใหม่ที่เติบโตจากการรัฐประหารครั้งที่ 13 ภายใต้ธรรมนูญทหารและรัฐธรรมนูญ 2560 ยาวนาน 9 ปี จนเกิดการเมืองใหม่ในมิติใหม่ 'แลนด์สไลด์' ไปทั้งแผ่นดิน
ส.ศิวรักษ์ ผู้ได้ชื่อว่า 'ปัญญาชนสยาม' ก็ยังยืนเด่นท้าทาย เป็นขวัญใจคนรุ่นใหม่ยุคนี้ เหมือนคนรุ่นใหม่ยุคโน้น
ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เปลี่ยนไป
วันเวลาผ่านไป 57 ปี กองบรรณาธิการหนังสือ '50 ปี 14 ตุลา ‘เสรีแห่งพิราบ’ 'สมุดบันทึกเล่มใหม่' มาคุยย้อนหลังวันวาน ด้วยคนที่ร่วมงานการต่อสู้มาด้วยกัน ตลอดยุคสมัย ที่มารับเป็นบรรณาธิการหนังสือชุด 50 ปี 14 ตุลา
คุยกันที่บ้านซอยสันติภาพ ที่เป็นบ้านก่อเกิด 'ปริทัศนเสวนา' ของคนรุ่นใหม่ เมื่อ 57 ปีก่อน
โดยมีคนรุ่นใหม่ ที่เป็น 'เด็กชายผู้เติบโตบนเส้นทางเสรีภาพ' วัย 5 ขวบนามว่า 'เข้ม' คลอเคลียอยู่ด้วย