อิศรา: บอกได้ไหมว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ทำสัญญา ด้วย คือบริษัทอะไร ?
นายเศรษฐา: "จำไม่ได้ นานมากแล้ว เราไปวางซื้อที่แล้วเราอาจจะไม่ดีหรือไม่ผ่านกระบวนการการตรวจสอบให้ดี เราก็ยอมทิ้งมัดจำไป เป็นธุรกิจธรรมดา..."
ประเด็นตรวจสอบข้อมูลทางธุรกิจ ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ประธานที่ปรึกษาหัวครอบครัวพรรคเพื่อไทย
หลังเจ้าตัวให้สัมภาษณ์สื่อว่าขอเป็นนายกรัฐมนตรีตำแหน่งเดียว ตำแหน่งอื่นไม่เอา
ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranew.org) นำข้อมูลเชิงลึกมานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
นอกจากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 3 มี.ค.2566 นายเศรษฐา ทวีสิน ได้โอนหุ้น บริษัท ศุภสิริ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น จำนวน 9,998 หุ้น ไปให้นายนพพร บุญถนอม กรรมการบริหาร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ทั้งหมด เกิดขึ้นหลังปรากฎเป็นข่าวเจ้าตัวให้สัมภาษณ์สื่อว่าขอเป็นนายกรัฐมนตรีตำแหน่งเดียว ตำแหน่งอื่นไม่เอา เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2566 หรือ เพียง 1 วันหลังประกาศความชัดเจนต่อสาธารณะ
ขณะที่เจ้าตัวชี้แจงสั้นๆ ว่า “บริษัทนี้ตั้งมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรก็โอนให้ไป เพราะจะไปเข้าการเมือง ให้ชัดเจนว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้” และการโอนหุ้นดังกล่าว เป็นการซื้อขาย
อีกหนึ่งประเด็น ที่น่าสนใจ และยังไม่มีคำชี้แจงเป็นทางการจาก นายเศรษฐา ทวีสิน คือ ในช่วงปี 2562 บริษัท ศุภสิริ โฮลดิ้ง จำกัด ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขาย "เงินลงทุน" กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งหนึ่งวงเงิน 240 ล้านบาท จ่ายมัดจำ 51 ล้านบาท ต่อมายกเลิก ยอมถูกริบ 51 ล้านบาท ไม่เอาความกัน
- ‘เศรษฐา ทวีสิน’ โอนหุ้น บ.ลงทุนส่วนตัวให้ กก.แสนสิริ หลังประกาศขอนั่งนายกฯ-รอชี้แจง (1)
- จะไปเข้าการเมือง! ‘เศรษฐา’ แจงอิศรา ปมโอนหุ้นบ.ลงทุนส่วนตัวให้ กก.แสนสิริ (2)
- ส่อง บ.ศุภสิริฯ‘เศรษฐา’! โดนริบ 51 ล. หลังยกเลิกสัญญาซื้อขายเงินลงทุน 240 ล. (3)
ข้อมูลที่ยังไม่ปรากฏต่อสาธารณชนเป็นทางการ คือ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ทำสัญญา จะซื้อจะขาย "เงินลงทุน" กับ บริษัท ศุภสิริ โฮลดิ้ง จำกัด ดังกล่าว
เป็นใครมาจากไหน?
ล่าสุด ในระหว่างการลงพื้นที่หาเสียง ณ ลานกีฬาสมาพันธ์แฟลตคลองจั่น ซอยนวมินทร์ 6 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา
สำนักข่าวอิศรา ได้ไปดักรอเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ จาก นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นทางการ
ปรากฏรายละเอียดคำชี้แจงของ นายเศรษฐา ดังต่อไปนี้
อิศรา: ข้อมูลการสัญญาจะซื้อจะขาย "เงินลงทุน" มีรายละเอียดเป็นอย่างไร ทำไมถึงโดนริบเงิน 51 ล้านบาท ?
นายเศรษฐา: "คือเราไปวางมัดจำไว้แล้วเราไม่เอาเท่านั้นเอง เราทิ้งไปเท่านั้นเอง"
อิศรา: บอกได้ไหมว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ทำสัญญา ด้วย คือบริษัทอะไร ?
นายเศรษฐา: "จำไม่ได้ นานมากแล้ว"
"เราไปวางซื้อที่แล้วเราอาจจะไม่ดีหรือไม่ผ่านกระบวนการการตรวจสอบให้ดี เราก็ยอมทิ้งมัดจำไป เป็นธุรกิจธรรมดา"
อิศรา: เรื่องการจัดการทรัพย์สินก่อนเข้าการเมืองดำเนินการเรื่องอะไรไปแล้วบ้าง?
นายเศรษฐา: "ก็ว่าไปตามกฎหมาย อย่างผมก็โอนให้ลูกสาวไปแล้ว"
อิศรา: แล้วทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น ที่ดิน?
นายเศรษฐา: "ไม่มีครับ"
"อยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น อยู่ชื่อใครก็อยู่ชื่อนั้นอยู่แล้ว"
**********
เหล่านี้ คือ คำชี้แจงของ นายเศรษฐา เกี่ยวกับการทำสัญญาจะซื้อจะขาย "เงินลงทุน" กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งหนึ่งวงเงิน 240 ล้าน ที่ให้กับสำนักข่าวอิศราล่าสุด
ส่วนข้อมูลบริษัท และทรัพย์สินอื่นๆ หากมีการตรวจสอบเพิ่มเติมอีก
สำนักข่าวอิศรา จะไปดักรอสัมภาษณ์เพื่อขอให้ นายเศรษฐา ชี้แจงต่อสาธารณะ ในโอกาสต่อ ๆ ไปอีก