"ในกรณีเสียงข้างมากธรรมดา หากให้นับคนไม่มาใช้สิทธิหรือใช้สิทธิงดออกเสียงด้วย จะก่อให้เกิดผลประหลาด เพราะจะทำให้คนไม่มาใช้สิทธิ (ไม่มาเลย) กับคนที่มาใช้สิทธิแต่ไม่ตัดสินใจว่าจะ Yes หรือ No ดีนั้น (มา + ไม่ตัดสินใจ) สามารถ "ทำลาย" ผลการตัดสินใจลงคะแนนของคนที่มาใช้สิทธิโดยสมบูรณ์ (มา + ตัดสินใจ) ได้ "
นักกฎหมายไทยจำนวนหนึ่งมีความสามารถมากในการทำลายกฎหมายด้วยการให้ความเห็นทางกฎหมาย "แบบไทย ๆ " ที่เน้นการ "เล่นคำ" มากกว่าการคำนึงถึง "หลักกฎหมาย" และ "ความยุติธรรม" อันเป็น "หลักสากล" และนี่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ชาวต่างประเทศมองระบบกฎหมายไทยในเชิงลบ และไม่เชื่อมั่นในระบบกฎหมายไทยโดยรวม ตัวอย่างที่ยกเป็นกรณีศึกษาคือการอธิบายความหมายของคำว่า "โดยเสียงข้างมาก" ตามหลักเสียงข้างมากธรรมดา หรือที่รู้จักเป็นสากลว่า Simple majority rule หรือ Majority rule
ตาม Black's Law Dictionary 5th Ed (1979) นั้น เขาอธิบาย Majority rule ว่าหมายถึง Rule by the choice of the majority of those who actually vote, irrespective of whether a majority of those entitled participate. ถ้าจะสรุปอย่างงู ๆ ปลา ๆ ตามแบบฉบับของผู้เขียนที่ไม่ได้
อย่างไรก็ดี นักกฎหมายไทยจำนวนหนึ่
ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) ได้มีความเห็นไว้ในเรื่องเสร็จที่ 1178/2558 สรุปความได้ว่า เสียงข้างมากนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เสียงข้างมากธรรมดา (Simple Majority) กับเสียงข้างมากเด็ดขาด (Absolute Majority) โดยเสียงข้างมากธรรมดา (ที่กฎหมายเขียนว่า โดยเสียงข้างมากบ้าง ตามเสียงข้างมากบ้าง ให้ถือเสียงข้างมากบ้าง โดยไม่มีสร้อยต่อท้ายว่าของนั่นของนี่ - ผู้เขียน) เสียงข้างมากหมายถึง คะแนนเสียงข้างมากของผู้ซึ่งมีสิทธิลงคะแนนและได้ออกเสียงลงคะแนนว่าเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ การงดออกเสียงหรือไม่มาออกเสียงย่อมไม่ถือเป็นการออกเสียง และไม่สามารถนับได้ ส่วนเสียงข้างมากเด็ดขาด หมายถึง คะแนนเสียงข้างมากของจำนวนทั้งหมดหรือเท่าที่มีอยูู่ (เช่น ที่กฎหมายเขียนว่าสองในสาม หรือสามในสี่ของสมาชิกหรือกรรมการทั้งหมดหรือเท่าที่มีอยู่) คะแนนเสียงจึงต้องเป็นไปตามที่กำหนด ซึ่งในกรณีเช่นนี้จำนวนคนไม่มาใช้สิทธิหรือใช้สิทธิงดออกเสียงต้องนำมานับด้วยเพื่อประกอบการนับ
ในกรณีเสียงข้างมากธรรมดา หากให้นับคนไม่มาใช้สิทธิหรือใช้สิทธิงดออกเสียงด้วย จะก่อให้เกิดผลประหลาด เพราะจะทำให้คนไม่มาใช้สิทธิ (ไม่มาเลย) กับคนที่มาใช้สิทธิแต่ไม่ตัดสินใจว่าจะ Yes หรือ No ดีนั้น (มา + ไม่ตัดสินใจ) สามารถ "ทำลาย" ผลการตัดสินใจลงคะแนนของคนที่มาใช้สิทธิโดยสมบูรณ์ (มา + ตัดสินใจ) ได้
ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) ดังกล่าว เป็นการยืนยันหลักการนับคะแนนเสียงข้างมากธรรมดาที่คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 2) เคยให้ความเห็นไว้ในเรื่องเสร็จที่ 266/2553 ว่าต้องนับเฉพาะผู้มีสิทธิที่ลงคะแนนเสียงให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบเท่านั้น คนไม่มาใช้สิทธิก็ดี หรือมาใช้สิทธิแต่งดออกเสียงหรือทำบัตรเสียก็ดี นั้นหานับไม่
ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ว่านี้เขาเผยแพร่ในเวปไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วยนะครับ หาอ่านได้ไม่ยากที่ www.krisdika.go.th ขอเพียงใฝ่หาความรู้บ้าง ไม่ใช่เอาแต่เล่นไลน์หรือเฟซบุ๊ค แล้วพูดไปเรื่อยเปื่อย
ในสถานการณ์เช่นนี้ สถาบันนักกฎหมาย และเรา เหล่านักกฎหมาย ควรร่วมมือกันจัดการกับนักกฎหมายที่มีพื้
ไม่ใช่ยุคเลอะเทอะ...
นายปกรณ์ นิลประพันธ์
2 กันยายน พ.ศ. 2558
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: