"...ตัวท่านผู้ว่าฯ เองคงอยู่ในตำแหน่งไม่กี่ปีตามวิถีการเมือง ในช่วงนี้หากการคดโกงในการ ‘จัดซื้อจัดจ้าง’ ลดน้อยลงสักครึ่งหนึ่ง เราจะได้ของมีคุณภาพ ได้ใช้ของดี บริการที่ดี แถมประหยัดเงินนับหมื่นล้านบาทไปทำอย่างอื่น หากการ ‘รีดไถ – ส่วยสินบน – เรียกรับเงินใต้โต๊ะ’ ลดลงสักครึ่งหนึ่ง สังคมจะเป็นสุขมากขึ้น หากแก้ไขการ ‘บริหารจัดการสัมปทานและบริการเชิงธุรกิจ’ ในมือของ กทม. ให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น เราจะได้บริการที่ดีจากรัฐในราคาเอื้อมถึงสำหรับทุกคน และหากผู้บริหารระดับสูงทุกคนเลิก ‘คอร์รัปชันชันเชิงนโยบาย เลิกเอื้อประโยชน์พวกพ้อง’ กทม. จะเจริญขึ้น สูงขึ้น ก้าวทันโลก..."
คอร์รัปชันใน กทม. เป็นแบบนี้มาหลายสิบปี กลายเป็นวิถีปฏิบัติที่ทำกันมาอย่างนี้จนพวกเขาหลงเชื่อไปเองว่ามันถูกต้องแล้วที่จะทำอย่างนั้น ในชีวิตจริงเครือข่ายพวกพ้องที่ชำนาญในกลไกราชการและข้อกฎหมาย ทำให้เกิดหลุมดำของคอร์รัปชันที่ยากเกินกว่าใครจะไปหักหาญเอาชนะได้
ดังนั้นคอร์รัปชันจะลดลงมากหรือน้อย จึงขึ้นกับความจริงจังของท่านผู้ว่าฯ รวมถึงผลสำเร็จในการดึงความร่วมมือจากข้าราชการ กทม. และคน กทม. ที่อยากเห็นบ้านเมืองกลับมาสู่ความถูกต้องดีงาม
ตัวท่านผู้ว่าฯ เองคงอยู่ในตำแหน่งไม่กี่ปีตามวิถีการเมือง ในช่วงนี้หากการคดโกงในการ ‘จัดซื้อจัดจ้าง’ ลดน้อยลงสักครึ่งหนึ่ง เราจะได้ของมีคุณภาพ ได้ใช้ของดี บริการที่ดี แถมประหยัดเงินนับหมื่นล้านบาทไปทำอย่างอื่น หากการ ‘รีดไถ – ส่วยสินบน – เรียกรับเงินใต้โต๊ะ’ ลดลงสักครึ่งหนึ่ง สังคมจะเป็นสุขมากขึ้น หากแก้ไขการ ‘บริหารจัดการสัมปทานและบริการเชิงธุรกิจ’ ในมือของ กทม. ให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น เราจะได้บริการที่ดีจากรัฐในราคาเอื้อมถึงสำหรับทุกคน และหากผู้บริหารระดับสูงทุกคนเลิก ‘คอร์รัปชันชันเชิงนโยบาย เลิกเอื้อประโยชน์พวกพ้อง’ กทม. จะเจริญขึ้น สูงขึ้น ก้าวทันโลก
ด้วยข้อจำกัดที่มี ผมหวังให้ท่านผู้ว่าฯ เปลี่ยนแปลง กทม. โดยเน้นแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ไม่เน้นไล่จับคนโกง ด้วยแนวทางหลักๆ คือ
1) สร้างระบบบริการประชาชนแนวใหม่ไปครอบวิถีปฏิบัติเดิม เป็นระบบใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยี่ และค่านิยมยุคใหม่ที่เน้นประโยชน์ ง่าย สะดวก เปิดเผยและเปิดกว้างให้ประชาชนมีส่วนร่วมเครื่องมือและระบบที่กล่าวถึงนี้ สามารถนำแนวทางที่ กพร. เสนอแนะไว้และมีมติ ครม. รองรับ หรือใช้ของฟรีที่ภาคเอกชนพัฒนาและพิสูจน์แล้วว่าดีจริง เช่น ACT ai และข้อตกลงคุณธรรม โดยอาจปรับปรุงเล็กน้อยให้สอดคล้องมากขึ้นกับสภาพของ กทม. เอง
2) วัฒนธรรมใหม่ในองค์กรจะเกิดขึ้นได้ คณะของท่านผู้ว่าฯ ต้องเริ่มจากการพิสูจน์ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนใน กทม. มั่นใจว่า ท่านซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรงไปตรงมาและจริงจังเพื่อส่วนร่วม ส่งสัญญาณให้ชัดเจนว่า บุคลากรทุกคนต้องสามารถสวมเครื่องแบบและทำงานได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี แล้วหันหน้ารับประชาชนตามหน้าที่ของตน
3) ข้อมูลงบประมาณต้องเชื่อมโยงกันทั้งระบบ เปิดเผยอย่างโปร่งใส เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังเพื่อการเรียนรู้และวางแผนในอนาคตผมหวังมากว่าท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติจะทำให้คอร์รัปชันใน กทม. ลดลง หากทำได้ผลงานนี้จะเป็นต้นแบบการต่อต้านคอร์รัปชันของประเทศ ที่นักการเมืองต้องเรียนรู้หากต้องการเสียงสนับสนุและความศรัทธาจากประชาชน
ดร.มานะ นิมิตรมงคล
เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
อ่านเพิ่มเติม : 'ปราบโกงอย่างไร' ให้ กทม. เจริญขึ้น สูงขึ้น