"...การเอาชนะคอร์รัปชันที่ซับซ้อนของ กทม. จะสำเร็จได้ ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องลงมือแก้ไขอย่างเข้าใจและจริงจัง ด้วยมาตรการที่หลากหลาย อาทิ หยุดกลโกง ‘งบประมาณ’..."
คอร์รัปชันใน กทม. ถ้าเกิดขึ้นในระดับ ‘เขต’ มักเป็นเรื่องรีดไถ ส่วย สินบน ถ้าเป็น ‘ส่วนกลาง’ ปัญหาใหญ่คือเรื่องโกงกินในการจัดซื้อจัดจ้าง และถ้าเป็นผู้บริหารระดับสูง จะเกิดคอร์รัปชันที่ร้ายแรงและส่งผลกระทบวงกว้าง คือ คอร์รัปชันเชิงนโยบาย การเอื้อประโยชน์พวกพ้อง การแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมและการรับส่วยจากผู้ใต้บังคับบัญชา
การเอาชนะคอร์รัปชันที่ซับซ้อนของ กทม. จะสำเร็จได้ ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องลงมือแก้ไขอย่างเข้าใจและจริงจัง ด้วยมาตรการที่หลากหลาย อาทิ
1.หยุดกลโกง ‘งบประมาณ’
เพื่อให้มั่นใจว่า เงินภาษีทุกบาททุกสตางค์ถูกใช้ไปอย่างถูกต้อง คุ้มค่า มีประสิทธิภาพ
- สร้างระบบรวมศูนย์ข้อมูล งบประมาณ การลงทุน ค่าใช้จ่ายของ กทม. โดยยึดหลักรัฐบาลดิจิตอลที่เปิดเผยต่อสาธารณชนตลอดเวลา เพื่อให้ข้อมูลเหล่านี้ถูกใช้วิเคราะห์ผลการดำเนินงานและวางแผนในอนาคตโดยหน่วยงานที่เป็นอิสระ
- ให้ประชาชนมีส่วนร่วมออกแบบการพัฒนาเมืองร่วมกับผู้บริหาร กทม. ผ่านการจัดทำงบประมาณและนโยบายสาธารณะอย่างมีส่วนร่วม
- ทุกการใช้จ่ายและการลงทุน ต้องเปิดเผย ตรงไปตรงมา ผู้บริหารต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านงบประมาณและการจัดซื้อฯ ของกระทรวงการคลังโดยไม่บิดพลิ้ว 2.หยุดส่วยสินบน
การบริการประชาชนต้องง่าย สะดวก รวดเร็ว ให้สมกับโลกยุคดิจิตอล และถึงเวลาแล้วที่ต้องเปิดให้ประชาชนประเมินการทำงานของเจ้าหน้าที่
ปัจจุบัน กทม. มีอำนาจในการออกใบอนุญาตอนุมัติทั้งหมด 221 รายการ แบ่งเป็น 183 รายการที่ถ่ายโอนภาระกิจจากหน่วยงานอื่น อีก 38 รายการเป็นภาระกิจตามกฎหมาย กทม.
- ปรับปรุงการบริการและกระบวนการออกใบอนุญาตอนุมัติให้ทันสมัย ตามแนวทาง พ.ร.บ. อำนวยความสะดวกฯ มติ ครม. ที่เกี่ยวข้อง และข้อเสนอแนะของ กพร. เช่น
ก. ยกเลิก ใบอนุญาตอนุมัติหรือกฎระเบียบอะไรที่หมดความจำเป็นแล้ว
ข. เปิดให้ประชาชนยื่นเรื่องใช้บริการได้ทั้งที่หน่วยงานของ กทม. หรือ ศูนย์ One stop service ของ กพร. หรือ หากไม่ติดขัดข้อกฎหมายจะไปยื่นที่หน่วยงานต้นเรื่องที่ถ่ายโอนภาระกิจมาก็ได้ กล่าวคือ ไปใช้บริการที่ไหนก็ได้ที่สะดวก ไม่ถูกรีดไถ กลั่นแกล้ง
ค. สร้างระบบการให้บริการผ่านมือถือ พัฒนาระบบ Digital Document ให้ประชาชนยื่นเรื่องและรับเอกสารราชการทางอินเตอร์เน็ตหรือไปรษณีย์ได้ตามแต่กรณี
ง. ทำให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับประชาชนและเจ้าหน้าที่ ด้วยแนวทาง Single license - Single submission เช่น ใครเปิดร้านค้าหรือสร้างบ้าน ก็ยื่นเรื่องครั้งเดียวที่เดียว แล้วเป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานที่ต้องสร้างระบบดึงและกระจายข้อมูลกันเอง หรือออกแบบระบบ Super license ใบเดียวใช้งานได้ครอบคลุม
- เปิดแอพพลิเคชั่นให้ประชาชนประเมินการทำงานของเจ้าหน้าที่ (Citizen Feedback) หลังใช้บริการแล้ว
- ผู้ว่า กทม. และผู้บริหาร ต้องเป็นผู้นำที่ดีให้ผู้ใต้บังคับบัญชามั่นใจ สร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ว่าจากนี้ไปไม่ต้องส่งส่วย ไม่ต้องวิ่งเต้น ไม่ต้องคอยดูแลนายในเรื่องส่วนตัว คนทำงานจะได้ไม่ต้องดิ้นรนสะสมความร่ำรวยเผื่อใคร
- การจัดซื้อจัดจ้าง
หลีกเลี่ยงการใช้วิธีพิเศษ เขียนทีโออาร์ให้สมบูรณ์ วางเงื่อนไขโครงการที่เปิดให้เอกชนเข้าแข่งขันประมูลงานให้มากที่สุด เมกะโปรเจคต้องใช้มาตรการข้อตกลงคุณธรรมและในการประมูลทุกครั้งให้ผู้บริหารตรวจสอบข้อมูลจากระบบ ACT ai ว่ามีการฮั้วหรือล็อคสเปกเกิดขึ้นหรือไม่
- การบริหารจัดการ
กทม. เป็นมหานครที่ต้องบริหารจัดการได้คล่องตัว ยืดหยุ่นแต่เข้มงวดรัดกุม มีมาตรฐานธรรมาภิบาลและการตรวจสอบไม่ด้อยไปกว่า “รัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์” ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบผลงานและการกระทำของผู้ใต้บังคับบัญชา ตาม “มาตรการป้องกันคอร์รัปชันในระบบราชการ” ของรัฐ
- การดำเนินงานเชิงพาณิชย์
เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสต่อสาธารณชน กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าร่วมแข่งขันให้มาก กิจการของกรุงเทพธนาคมต้องไม่ตัดตอนความรับผิดชอบของผู้ว่า กทม. ประสิทธิภาพการดำเนินงานต้องเทียบเคียงกับกิจการของเอกชนได้ เชิญชวนผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมวิชาชีพและองค์กรภาคประชาชนมาเป็นกรรมการและที่ปรึกษา เช่น สภาองค์กรผู้บริโภค องค์กรวิชาชีพทางบัญชี วิศวกร สถาปนิก เป็นต้น
- โรงเรียนของชุมชน
ใช้โซเชี่ยลมีเดียเป็นเครื่องมือสื่อสาร ให้นักเรียน/ผู้ปกครอง/ชุมชน ร่วมรับรู้ แสดงความคิดเห็น - เสนอแนะในกิจการโรงเรียน
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สร้างวัฒนธรรมต้านโกง
เพื่อควบคุมคอร์รัปชัน ผู้ว่าฯ กทม. และผู้บริหารระดับสูงต้องเข้าใจและมุ่งมั่น เลิกความคิดเน้นใช้เงินซื้อ – สร้าง – ลงทุน มาเป็นผู้บริหารที่คำนึงถึงผลสำเร็จและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้ รับผิดชอบในสิ่งที่ทำไป ดูแลข้าราชการ กทม. ทุกคนดั่งเพื่อนร่วมงาน ให้เขาทำหน้าที่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ก้าวหน้าในหน้าที่ด้วยความสามารถ ไม่ต้องคอยวิ่งเต้นเส้นสาย
หัวใจสำคัญ ประชาชนและสังคมมีส่วนอย่างมากในการกำกับดูแลและลดคอร์รัปชัน เสียงของประชาชนจึงต้องอยู่ในทุกสมการเพื่อพัฒนาเมือง ดังนั้นทุกเสียงจากประชาชน ต้องมีคำตอบและแจ้งกลับความคืบหน้า
โดยสรุป ข้อเสนอบางส่วนนี้ หากลงมือทำจริงจัง เราจะหยุดคอร์รัปชันได้ กทม. จะพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง คน กทม. ได้ในสิ่งที่ต้องการ ถึงจุดนี้ กทม. จะเจริญขึ้น สูงขึ้นแน่นอน
เขียนโดย ดร. มานะ นิมิตรมงคล
เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
เขียนเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565