"...คงเป็นเพราะพวกเขารู้ดีว่า แม้สุดท้ายรัฐจะได้ของแพงและไม่ดี ไม่เกิดประโยชน์คุ้มค่าต่อหน่วยงานและส่วนรวมหรือเกิดความเสียหายขึ้นก็ตาม สุดท้ายก็ไม่มีใครต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ดังเช่น การจัดซื้อเรือเหาะและเครื่องตรวจระเบิด GT-200..."
รู้นะว่า ‘โกง’
ผลประโยชน์ของชาติที่มีเอกชนและนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในเชิงธุรกิจ มีตั้งแต่การจัดซื้อจัดจ้างฯ ราวปีละ 1.5 ล้านล้านบาท การทำโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) เฉลี่ย 1.25 แสนล้านบาทต่อปี (แผนการลงทุนปี 2563 – 2570) และรูปแบบอื่นอีกมูลค่ามหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการให้เงินอุดหนุน ให้สัมปทาน ให้สิทธิ์ในการเช่า เช่น เช่าที่ดิน ฯลฯ ผ่านหน่วยงานรัฐจำนวนมากที่ไม่มีใครรวบรวมไว้
บทความนี้จะอธิบายถึงการฮั้วประมูลที่กำลังปะทุทั้งในการจัดซื้อจัดจ้าง โครงการพีพีพี และการคัดเลือกผู้รับสัมปทาน
โกงก็คือโกง
การเอาผิดพวกฮั้วประมูลนั้นยากมากถ้าฮั้วไม่แตกหรือเดินผิดคิว แม้แต่กรณีสนามฟุตซอลที่คุมเกมโดยนักการเมืองระดับชาติ ถูกจับได้ก็เพราะเส้นทางโกงมันยาวตั้งแต่การโยกงบประมาณในรัฐสภาจนถึงฮั้วประมูลในหลายจังหวัดทำให้มีคนรู้เห็นมากเกินไป
เมื่อศึกษารูปแบบ (Pattern) การฮั้วในการประมูลมักพบว่า มีชื่อผู้ยื่นซองซ้ำๆ หน้าเดิมๆ มองดูไม่พบว่าผิดกฎหมาย ถูกต้องตามระเบียบทุกอย่าง เช่นกรณีเสาไฟกินนรี แต่หากติดตามดูจะพบพฤติกรรมที่ผิดปรกติวิสัยการค้า เช่น ผู้ชนะประมูลได้ราคาเบียดหรือเท่ากับราคากลาง มีผู้ซื้อซองหลายรายแต่ยื่นจริงน้อยราย รายชื่อผู้ชนะและอันดับรองๆ มักหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันเพราะมีการแบ่งงาน แบ่งโครงการ แบ่งกันหากินตามพื้นที่หรือหน่วยงาน หรือมีการแจกงานให้ในฐานะผู้รับเหมาช่วง ส่วนการจ่ายเงินค่าฮั้วแม้รู้เห็นก็หาพยานหลักฐานยืนยันได้ยาก
ลูกเล่น กลอุบาย
แน่นอนว่าเทคนิคกลอุบายเพื่อฮั้วประมูลแบบโบราณก็ยังมีอยู่ เช่น เปิดเจรจากันตรงไปตรงมา ขัดขวางข่มขู่ไม่ให้คู่แข่งยื่นซองประมูล แต่โครงการขนาดใหญ่ยังต้องใช้ลูกเล่นอื่นๆ อีกเพื่อประกันการฮั้ว อาทิ
กำหนดกติกาเพื่อกีดกันคนนอก เช่น เชิญชวนเอกชนจากนานาชาติมาร่วมประมูลแต่กำหนดเงื่อนไขสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเช่น ต้องเคยมีผลงานกับหน่วยงานนั้นมาก่อน หรืออ้างนโยบาย “ไทยเฟิร์ส” ของรัฐบาล ทั้งที่นโยบายนี้สนับสนุนสินค้าและวัตถุดิบที่ผลิตในประเทศ ไม่ใช่สนับสนุนผู้รับเหมา
การตั้งราคากลางไม่เป็นธรรมกับบ้านเมือง โดยจงใจกำหนดราคากลางให้สูงหรือต่ำตามแผนการ ให้สอดคล้องกับการขึ้นทะเบียนผู้รับเหมาชั้นพิเศษ ชั้น 1 ชั้น 2 หรือ 3 เพื่อให้ง่ายต่อการจัดสรร ไม่แย่งงานข้ามกลุ่ม เช่น ตั้งงบ 499 ล้าน ให้เป็นสิทธิ์ผู้รับเหมาชั้น 1 แต่หากตั้งงบฯ 501 ล้าน จะเป็นสิทธิ์ของชั้นพิเศษ เป็นต้น
ซับซ้อนกว่าที่เห็น
ในยุคที่นักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมากถูกชักนำด้วยอำนาจและความโลภ ย่อมง่ายต่อการเกิดคอร์รัปชัน การเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและการกระทำที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน บ่อยครั้งแม้ถูกเปิดโปงว่าไม่ถูกต้อง มีการฮั้วหรือล็อคสเปก พวกเขากลับกล้าตอบโต้ด้วยเหตุผลที่ทำให้สังคมสับสนหวาดกลัว อ้างว่าเป็นไปตามกฎระเบียบถูกขั้นตอนแล้ว บ้างคุยโตว่าเป็นไปตามทีโออาร์ ยึดตามผลการศึกษาวิจัยหรือข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษาที่ตนจ้างมา..ช่างไม่ละอาย
คงเป็นเพราะพวกเขารู้ดีว่า แม้สุดท้ายรัฐจะได้ของแพงและไม่ดี ไม่เกิดประโยชน์คุ้มค่าต่อหน่วยงานและส่วนรวมหรือเกิดความเสียหายขึ้นก็ตาม สุดท้ายก็ไม่มีใครต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ดังเช่น การจัดซื้อเรือเหาะและเครื่องตรวจระเบิด GT-200
เอาชนะยาก แต่ป้องกันได้
ฮั้วประมูลคือคอร์รัปชัน ปัจจุบันมีกลไกป้องกันหลัก คือ
1. วิธีที่ดีและเข้าใจง่ายที่สุดคือ ทุกโครงการต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและแบบแผนที่ใช้กันมายาวนานตาม พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้างฯ แต่หลายครั้งพบว่ามีการบิดเบือน หลีกเลี่ยง ลดขั้นตอน
2. มาตรการบังคับให้เปิดเผยอย่างโปร่งใสและเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและบัญญัติใน พ.ร.บ.จัดซื้อฯ คือ “ข้อตกลงคุณธรรม” และ “คอสต์” ที่พิสูจน์แล้วตลอด 7 ปีที่ผ่านมาว่าได้มาตรฐานสากล มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า ช่วยให้ประหยัดได้ราวปีละ 1.4 หมื่นล้านบาท แม้จะมีอุปสรรคมากบ้างน้อยบ้างจากเจ้าหน้าที่รัฐที่ขาดความรู้ความเข้าใจ
3. การตรวจสอบโดยหน่วยงานภายนอก เช่น ป.ป.ช. สตง. สำนักงานอัยการฯ การตรวจสอบภายในของหน่วยงานนั้นเอง การใช้กลไกของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ร.บ.ฮั้ว
ข้อเสนอแนะ
1. ทุกครั้งที่เสร็จสิ้นการประมูล ต้องเปิดรายชื่อและราคาที่เสนอของผู้เสนอราคา 3 อันดับแรก ให้สาธารณชนสามารถติดตามข้อมูลที่มีความเสี่ยงในการฮั้วประมูล
2. การดำเนินคดีฮั้วและคอร์รัปชัน ควรยึดแนวทางเดียวกับคดีค้ายาเสพติดและคดีโกงเลือกตั้ง คือลงโทษได้เมื่อ “มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า” มีการกระทำความผิดจริง เพราะคดีเช่นนี้มีความยุ่งยากซับซ้อนในการหาพยานหลักฐานมายืนยันให้แน่นหนา
3. เปิดให้องค์กรวิชาชีพและบรรดาผู้มีส่วนได้เสียกับโครงการ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น
4. ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดเตรียมข้อมูลและงบประมาณโครงการ ควรร่วมรับผิดชอบในการพิจารณากลั่นกรอง เช่น สำนักงบประมาณ สภาพัฒน์ สนง.งบประมาณประจำรัฐสภา
การก่นด่ารุมประณามจากสังคมเป็นการลงโทษที่มีพลัง แต่จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยการเปิดเผยข้อมูลให้กระจ่างและการขุดคุ้ยของเหล่านักสืบไซเบอร์ หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ มากกว่าการปกป้องสิทธิส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางการค้าของใครก็ตามที่สมัครใจมาค้าขายหรือแสวงหาผลประโยชน์จากรัฐ
ดร. มานะ นิมิตรมงคล
เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฮั้วประมูล
- ฮั้ว https://www.isranews.org/article/isranews-article/94180-mana-4.html
- ฮั้วประมูล ร้ายและลึกกว่าที่คิด https://www.isranews.org/article/isranews-article/84310-isr.html
- ฮั้วประมูล โกงขนาดนี้ อี - บิดดิ้งก็เอาไม่อยู่ https://www.isranews.org/content-page/item/67368-act-67368.html
- มติ ครม. ให้ใช้ “ข้อตกลงคุณธรรม” กับโครงการนอกอำนาจ พ.ร.บ. จัดซื้อฯ https://www.isranews.org/article/isranews-article/100857-knt-t.html