"...อย่างไรก็ดีแม้ว่าเรื่องในศาลจะสามารถจบลงได้แล้วก็จริง แต่ศาลของความคิดเห็นของสาธารณะจะตัดสินอย่างไรกับคำพูดของเจ้าชายแอนดรูนั้น คงจะปรากฏตามมาพร้อมกับคำถามของจำนวนเงินที่จะชดเชยให้กับฝ่ายหญิงนั้น (คาดกันว่าอาจจะหลายล้านปอนด์) จะมาจากไหน จะเป็นเงินส่วนพระองค์, เงินจากพระมารดาหรือเงินจากรัฐบาล (คิดว่าเงินจากรัฐบาลคงเป็นไปได้ยากเพราะเงินปีที่รัฐบาลถวายให้กับพระราชวงศ์จะมีเพียงสามพระองค์เท่านั้น ได้แก่สมเด็จพระราชินี,พระสวามีและเจ้าชายมกุฏราชกุมาร-ผู้เขียน)..."
เรื่องนี้บรรดาทนายความในอังกฤษหลายคนคงไม่แปลกใจนักเพราะคาดกันอยู่แล้วว่าจะต้องมีการเจรจาและทำให้เรื่องยุติและจบสิ้นลงให้เร็วที่สุด เหตุผลสำคัญก็คือ ปีนี้เป็นปีสำคัญของราชวงศ์อังกฤษและเป็นปีสำคัญของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งเป็นสมเด็จพระมารดาของเจ้าชายแอนดรูเอง ในการที่ทรงครองราชย์สมบัติครบ 70 ปี (เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา) และยังทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์แรกที่ครองราชย์สมบัติได้ยืนยาวกว่าพระเจ้าแผ่นดินองค์ใดๆที่ผ่านมา(Platinum Jubilee-การครองราชย์สมบัติครบ 70 ปี)
เพราะฉะนั้นปีนี้จึงควรจะได้เป็นปีที่มีการเฉลิมฉลองทั่วประเทศ ประชาชนมีความยินดีมีปาร์ตี้สนุกสนานกัน รวมถึงพระราชวงศ์อีกด้วยที่จะได้ออกมาพบปะประชาชน เพราะฉะนั้นเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลของเจ้าชายแอนดรูจึงไม่ควรที่จะเกิดขึ้นให้ยึดเยื้อแต่อย่างใด
เจ้าชายแอนดรูคือใคร- คือพระราชโอรสองค์ที่สองของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษกับเจ้าชายฟิลิป ผู้ที่สิ้นพระชนม์เมื่อปีที่แล้ว เมื่อเษกสมรสทรงได้รับพระราชทานตำแหน่ง ดู๊ก ออฟ ยอร์ก Duke of York อันหมายถึงตำแหน่งที่เป็นพระอนุชาของเจ้าชายแห่งเวลส์ หรือ Prince of Wales เจ้าชายแอนดรูทรงรับราชการทหารมาตลอดจนปลดเกษียน แม้ว่าจะถูกสมเด็จพระมารดาเรียกคืนพระอิสริยยศ His Royal Highest อันเป็นตำแหน่งของพระราชวงศ์เมื่อเดือนที่แล้ว แต่พระองค์จะยังทรงมีสิทธิ์ขึ้นครองราชย์สมบัติของประเทศอังกฤษในลำดับที่ 9 อยู่ในขณะนี้
ผู้เขียนเข้าใจว่าเจ้าชายแอนดรู คงจะได้ตระหนักถึงความสำคัญเหล่านี้จึงได้ยอมเจรจากับ Virginer Giuffre ผู้ที่ฟ้องร้องโดยทีมทนายทั้งสองฝ่ายได้เจรจาและตกลงในเรื่องต่างๆจนนำมาสู่การออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงแถลงการณ์ฉบับนั้นว่ามีเนื้อหาสาระอะไรบ้าง ผู้เขียนขอย้อนข้อมูลการฟ้องร้องของ Virginer Giuffre สตรีชาวอเมริกันวัย 38 ปีซึ่งอาศัยอยู่ในนิวยอร์กและได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งในนครนิวยอร์กว่า เมื่อเธออายุ 17 ปีเธอถูกJeffrey Epstein เศรษฐีชาวอเมริกันผู้ที่ชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก และ Ghislaine Maxwell สาวสังคมชาวอังกฤษซึ่งเคยเป็นแฟนกับ Jeffrey จัดหาเธอให้มาพบกับเจ้าชายแอนดรูและเธอได้มีเพศสัมพันธ์กับเจ้าชายในสถานที่ต่างๆ 3 แห่งทั้งในนิวยอร์ก,ลอนดอนและที่เกาะส่วนตัวแห่งหนึ่งของ Jeffrey เธอบอกว่าเจ้าชายแอนดรูทราบอายุอานามของเธอในขณะนั้นด้วย และเธอต้องทำไปเพราะหวาดกลัวในอิทธิพลของคนทั้งสอง
Jeffrey ถูกจับในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กๆในสหรัฐและในระหว่างถูกขังเขาฆ่าตัวตายเมื่อหลายปีก่อน และเมื่อปลายปีที่แล้ว อดีตแฟนสาวของเขาคือ Ghislaine ก็ถูกจับและกำลังถูกดำเนินคดีในข้อหาพาผู้เยาว์ไปให้บริการทางเพศแก่ผู้มีอิทธิพล
เจ้าชายแอนดรูทรงยอมรับว่ารู้จักกับ Jeffrey เศรษฐีชาวอเมริกันแต่ได้เลิกคบไปเมื่อเขาถูกจับ ก่อนที่จะถูกจับ Jeffrey เขาได้ทำสัญญากับ Virginer ว่าเธอจะไม่ฟ้องร้องเขาในการที่จัดหาเธอมาให้กับตัวเขาและคนอื่นๆและได้จ่ายเงินชดเชยให้กับเธอเป็นจำนวน 5 แสนดอลล่า แต่ในสัญญานั้นผู้พิพากษาบอกว่าไม่ชัดเจนว่าคุ้มครองหรือครอบคลุมถึงใครบ้างและไม่น่าจะหมายถึงกรณีของเจ้าชายแอนดรูด้วย แม้ว่าพระองค์จะได้ปฏิเสธโดยตลอดมาว่าไม่ได้กระทำการตามที่ Virginer กล่าวหา และในเดือนมกราคมที่ผ่านมาในที่สุดผู้พิพากษาในนิวยอร์กคนหนึ่งได้รับคำร้องของ Virginer หลังจากที่เธอถูกผู้พิพากษาในนิวยอร์กคนอื่นๆไม่รับคำฟ้องของเธอมาหลายครั้ง คดีมีกำหนดจะดำเนินการในราวเดือนพฤษภาคมนี้
เรื่องจบก่อนขึ้นศาล- ทุกคนทราบดีว่าเมื่อเรื่องถึงศาลจะเป็นอย่างไร การไต่สวน การสอบพยาน การที่เรื่องต้องตีพิมพ์ ออกโทรทัศน์ ว่อนไปทั่วโลก เราท่านทราบดีว่า ทุกคนในโลกรู้ในสิ่งที่ไม่ควรจะรู้- บุคคลธรรมดาทั่วไปคงไม่เป็นข่าวมากนัก แต่ตำแหน่งเจ้าฟ้าชายแห่งราชวงศ์อังกฤษ ผู้ซึ่งอยู่ในสายที่จะขึ้นครองราชย์สมบัติในลำดับที่ 9 ของราชวงศ์ต้องปรากฏพระองค์ในศาล ให้การต่างๆนาๆ ทั้งตัวของพระองค์เองจะปรากฏภาพอย่างไรและแน่นอนต้องลามปามมาถึงสมเด็จพระมารดาคือสมเด็จพระราชินีของอังกฤษ และราชวงศ์อังกฤษที่ปกครองประเทศมาเป็นพันปี- แม้ว่าทางสำนักพระราชวังจะได้ประกาศตัดเจ้าชายออกจากตำแหน่งและยศศักดิ์ทางทหารก่อนหน้านั้นแล้วก็ตาม
เรื่องจบอย่างไร-ในคำแถลงข้อตกลงที่เปิดเผยออกมาคือ ทั้งสองฝ่ายคือ Virginia Giuffre และเจ้าชายแอนดรูตกลงกันได้ก่อนเรื่องจะขึ้นศาลโดยทั้งสองฝ่ายจะไม่เปิดเผยจำนวนเงินที่ฝ่ายหญิงจะได้รับ เจ้าชายแอนดรูจะช่วยเหลือและสนับสนุนองค์การกุศุลที่ Virginer สนับสนุนอยู่อันเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือสิทธิ์ของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิด
เจ้าชายแอนดรูไม่มีพระประสงค์ที่จะให้ร้ายต่อVirginer และทรงยอมรับว่าเธอต้องทนทรมานในผลของการที่ตกเป็นเหยื่อของการละเมิดทางเพศและการที่ถูกสังคมประนามอย่างไม่ยุติธรรม
นอกจากนี้ในคำแถลงยังมีการเอ่ยถึงJeffrey ด้วยว่าเป็นคนที่ลับลอบนำเด็กหญิงไปค้าประเวณีเป็นเวลาหลายปี เจ้าชายแอนดรูทรงเสียพระทัยที่คบหากับ Jeffrey และทรงยกย่องความกล้าหาญของเวอร์จิเนียและหญิงสาวคนอื่นๆที่ตกเป็นเหยื่อและลุกขึ้นต่อสู้เพื่อตัวเองและคนอื่นๆ
และเจ้าชายสัญญาว่าจะแสดงความเสียพระทัยในผลจากการคบหากับเจฟฟรีย์ด้วยการสนับสนุนการต่อสู้กับความชั่วร้ายของการลักลอบค้าประเวณีในเด็กและให้การช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้น
ในคำแถลงนี้นักวิเคราะห์ของอังกฤษวิจารณ์ว่าเป็นถ้อยคำที่ใช้ได้อย่างยอดเยี่ยมดีจริงเพราะในคำแถลงนี้ไม่มีถ้อยคำของการยอมรับผิดของเจ้าชายแอนดรูเลย และเจ้าชายก็ไม่ได้ให้พูดซ้ำย้ำยืนยันอีกว่าท่านไม่ได้ทำอันใดผิด, but the prince does not repeat his oft-repeated insistence that he did nothing wrong.
และในคำแถลงสั้นๆเพียง 32 คำนี้สรุปคือ เจ้าชายแอนดรูจะให้การสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในเรื่องนี้ ไม่ประสงค์ร้ายต่อผู้ฟ้องร้องและรับรู้ในความทุกข์ทรมานที่เธอได้รับและยกย่องในความกล้าหาญและการต่อสู้ท้วงสิทธิ์ในครั้งนี้และยินดีที่จะสนับสนุนให้ยุติความชั่วร้ายดังกล่าว
อย่างไรก็ดีแม้ว่าเรื่องในศาลจะสามารถจบลงได้แล้วก็จริง แต่ศาลของความคิดเห็นของสาธารณะจะตัดสินอย่างไรกับคำพูดของเจ้าชายแอนดรูนั้น คงจะปรากฏตามมาพร้อมกับคำถามของจำนวนเงินที่จะชดเชยให้กับฝ่ายหญิงนั้น (คาดกันว่าอาจจะหลายล้านปอนด์) จะมาจากไหน จะเป็นเงินส่วนพระองค์, เงินจากพระมารดาหรือเงินจากรัฐบาล (คิดว่าเงินจากรัฐบาลคงเป็นไปได้ยากเพราะเงินปีที่รัฐบาลถวายให้กับพระราชวงศ์จะมีเพียงสามพระองค์เท่านั้น ได้แก่สมเด็จพระราชินี,พระสวามีและเจ้าชายมกุฏราชกุมาร-ผู้เขียน)
เรื่องนี้ทำให้เห็นว่าเพียงเวลาเดือนเศษๆ พระราชวังบัคกิ้งแฮมโดยสมเด็จพระราชินีทรงเด็ดขาด ตัดขาดเจ้าชายแอนดรูอย่างไม่มีเยื่อใย ส่วนเจ้าชายก็จัดการยุติเรื่องโดยให้มีการเจรจาโดยเร็ว ดังนั้นเรื่องทั้งหมดจบลงตรงนี้ แน่นอนการซุบซิบนินทา อาจมีตามมาอยู่บ้าง แต่ในฐานะและคดีความของเจ้าชายแอนดรูนั้นทั้งหมดชัดเจนแล้ว
ปีนี้เจ้าชายทรงมีพระชนม์พรรษา 61 ปีจะทรงทำอะไรเพื่อพระองค์เองต่อไปก็ทรงเป็นอิสระแล้ว ส่วนประชาชนจะยอมรับกลับมาหรือไม่ ในสังคมอังกฤษมักจะให้อภัยกันอยู่ ก็คงดูๆกันไป อย่างเช่นกรณีของว่าที่พระราชินีอังกฤษองค์ใหม่ (คามิลล่า-ดัชเชสแห่งคอนวอลล์) ก่อนหน้านั้นก็เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ ต่อต้านกันมาก แต่ตอนนี้ก็ดูจะชอบๆและยอมรับกันแล้ว แม้แต่สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 เองในพระราชสาส์นที่ทรงมีต่อชาวอังกฤษในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาก็ทรงฝากฝังให้ประชาชนยอมรับคามิลล่า ชายาของเจ้าฟ้าชายชาลส์เป็นพระราชินี เมื่อเจ้าฟ้าชายชาลส์ขึ้นครองราชย์ เวลาเปลี่ยนความคิดเปลี่ยน และในตอนท้ายของพระราชสาส์นที่ทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนอย่างยิ่งก็คือ ทรงมีลายพระหัตถก่อนหน้าพระนามาภิไธยคือ Your servant ความหมายคือ ผู้รับใช้ (พระมหากษัตริย์ที่เป็นผู้รับใช้-ผู้เขียน)
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก https://www.voathai.com