ทุกคนได้เห็นภาพทั้งหมด ก็พากันรู้สึกเซอร์ไพรส์ และแสดงความชื่นชมยินดีกับตัวผม ที่ก้าวมาสู่ความสำเร็จเป็น รมว. แรงงาน ของประเทศไทย ส่วนนึงมาจากเงินรายได้ ค่าแรง ที่คุณพ่อผม ได้มาทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้ยังได้ออกปากเชิญพ่อของผม มาเป็นแขกคนสำคัญของรัฐมนตรี หรือถ้าท่านรัฐมนตรีได้มาเยือนเมืองไทยก็ขอไปพบพูดคุยกับพ่อของผม
หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สุชาติ ชมกลิ่น โดยรำลึกถึงอดีตที่พ่อที่เคยเป็นแรงงานไทยก่อสร้างสนามกีฬา กรุงริยาด ขณะร่วมขณะเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียกับนายกรัฐมนตรี มีสาระสำคัญที่น่าสนใจ ดังนี้
"เมื่อ 37 ปีก่อน พ่อผมไปขายแรงงานที่ประเทศ ซาอุดีอาระเบีย ส่งเงินมาให้ผมเรียนจนจบการศึกษา กระทั่งวันนี้ผมได้ไปเยือนซาอุฯ ในฐานะ รมว.แรงงาน”
นายสุชาติ ระบุว่า ก่อนหน้านี้เคยเล่าไปแล้วว่า บ้านมีฐานะยากจนพอสมควร จึงทำให้คุณพ่อ ต้องตัดสินใจไปทำงานกรรมกร ขายแรงงานที่ซาอุดีอาระเบีย เมื่อปี 2528 ซึ่งขณะนั้นตนอายุ 11 ปี ซึ่งคุณพ่อส่งเงินทางโทรเลขกลับมาให้คุณแม่ทุกๆเดือน
ในครั้งนั้น พ่อไปเป็นคนงานก่อสร้างสนามกีฬานานาชาติ King Fahd และเงินจากการเป็นกรรมกร ขายแรงงานในซาอุดีอาระเบีย ทำให้ครอบครัวได้มีกินมีใช้ จ่ายค่าเล่าเรียนจนจบการศึกษา นั้นถือว่าครอบครัวของตนเป็นหนี้บุญคุณของประเทศซาอุดีอาระเบีย
นายสุชาติ ระบุอีกว่า วันนี้ ปี พ.ศ.2565 เป็นเวลา 37 ปีผ่านไป ตนเองได้เดินทางไปเยือนประเทศแห่งนี้ และเป็นคณะทำงานติดตามท่านนายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.แรงงาน จึงตระเตรียมภาพถ่ายเก่าๆ ระหว่างที่คุณพ่อได้ทำงานอยู่ที่นั้นมาให้ รมว.ทรัพยากรบุคคล หรือ รมว.แรงงาน ของประเทศซาอุดีอาระเบีย และทุกๆคนที่อยู่ในที่ประชุมได้ชม
“ผมได้กล่าวขอบคุณและรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก และเมื่อทุกคนได้เห็นภาพทั้งหมด ก็พากันรู้สึกเซอร์ไพรส์ และแสดงความชื่นชมยินดีกับตัวผม ที่ก้าวมาสู่ความสำเร็จเป็น รมว. แรงงาน ของประเทศไทย ส่วนนึงมาจากเงินรายได้ ค่าแรง ที่คุณพ่อผม ได้มาทำงานที่ซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้ยังได้ออกปากเชิญพ่อของผม มาเป็นแขกคนสำคัญของรัฐมนตรี หรือถ้าท่านรัฐมนตรีได้มาเยือนเมืองไทยก็ขอไปพบพูดคุยกับพ่อของผม” นายสุชาติ ระบุ
นายสุชาติ ระบุด้วยว่า นอกจากนี้ยังได้รับความชื่นชมจากคณะทำงานของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย และผู้นำระดับสูง ถึงการบริหารด้านแรงงานในประเทศไทยในช่วงวิกฤติโควิดที่ผ่านมาว่าสามารถทำได้ดีมาก และรู้สึกประทับใจ ที่รัฐบาลไทย โดยท่านนายกรัฐมนตรี เลือกตน ซึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของแรงงานไทยโดยแท้ มานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีแรงงาน
“สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกทุกท่านว่า วันที่ 25 ม.ค.2565 ถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ท่านนายกรัฐมนตรีสามารถฟื้นความสัมพันธ์ 32 ปี ไทย-ซาอุดีอาระเบียได้สำเร็จ และแน่นอนว่าสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ อย่างต่อเนื่องอย่างยั่งยืนครับ” นายสุชาติ ระบุ