"คนไทยต้องมีความฝันใหญ่ (Big Dream) ว่าเราสามารถสร้างประเทศไทยสันติสุขได้ มีความคิดใหญ่ มีจิตใหญ่ และออกแบบระบบ เช่น ถ้าเราต้องการอะไรที่บินได้ ก็ออกแบบระบบเครื่องบิน มีโครงสร้าง ประกอบองค์ประกอบให้ครบ ก็จะเกิดเป็นองค์รวม หรือเครื่องบินที่มีคุณสมบัติใหม่อันมหัศจรรย์ คือ บินสู่ฟ้าไกล ในขณะที่องค์ประกอบแต่ละชิ้นๆ ไม่มีชิ้นไหนบินได้เลย แต่เมื่อประกอบกันเป็นองค์รวมก็บินได้"
ประเทศไทยมีทรัพยากรเพื่อการพัฒนา
แต่ขาด “ความเข้าใจที่ถูกต้อง”
ประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรอื่นๆ เพื่อการพัฒนามาก มากกว่าสิงคโปร์มากกว่าญี่ปุ่น มากกว่าสวิตเซอร์แลนด์ ควรที่คนไทยทุกคนพออยู่พอกินอย่างทั่วถึง และมีไมตรีจิตต่อกัน
แต่กลายเป็นว่ามีคนจน ทั้งคนจนชนบทและคนจนเมืองจำนวนมาก มีความเหลื่อมล้ำสูงเป็นที่หนึ่งหรือที่สามในโลก ทำให้เกิดปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ จิตใจ การเมือง ตามมาอีกเป็นพรวน ถักทอกันเป็นปัญหาที่ซับซ้อน (Complexity) อันไม่มีใครเข้าใจและแก้ไขได้ กลายเป็นวิกฤตการณ์เรื้อรังที่ไม่มีทางออก ทั้งนี้เพราะขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง ความเข้าใจที่ถูกต้อง (Right understanding) มีพลังมาก และเป็นกุญแจแก้วิกฤต
2 ทำไมกระทรวงเศรษฐกิจจึงแก้ความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำไม่ได้
ความเข้าใจผิดคือ คิดว่าการพัฒนาเศรษฐกิจ กับการแก้ความยากจนเป็นเรื่องเดียวกัน กระทรวงที่เรียกกันว่าเป็นกระทรวงทางเศรษฐกิจ และถือว่าเป็นกระทรวงเกรดเอ คือกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง เพราะเป็นกระทรวงที่เกี่ยวกับเงินทอง มีงบประมาณมาก และสามารถจะแก้ความยากจนได้ รัฐบาลทุกรัฐบาลที่ผ่านมาก็ถือว่าการแก้ความยากจนเป็นเรื่องสำคัญ และทุ่มเทงบประมาณมากมาย แต่ก็แก้ไม่ได้ ความเหลื่อมล้ำกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทำไม?
ทั้งนี้เพราะระบบเศรษฐกิจอยู่บนฐาน “ทุน”
แม้ “ทุน” จำเป็นเพราะทำให้ทำเรื่องใหญ่ๆ ได้ แต่ธรรมชาติของทุนทำให้รายได้ที่มาจากทุน (Capital income) สูงกว่ารายได้ที่มาจากการทำงานหรือทำมาหากิน (Earning income) เรื่องนี้ดูจากการวิจัยของ Thomas Picketty ในหนังสือของเขาชื่อ The Capital
ฉะนั้นการพัฒนาเศรษฐกิจบนฐานทุน เมื่อพัฒนาไปๆ ความเหลื่อมล้ำก็ยิ่งมากขึ้นๆ จนเหลื่อมล้ำอย่างสุดๆ ที่เรียกปรากฏการณ์ 99 : 1 อย่างในสหรัฐอเมริกา
3 ทำไมกระทรวงมหาดไทยจึงเป็นกระทรวงแก้จนลดความเหลื่อมล้ำ
กุญแจแก้ความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ อยู่ที่ Empowering หรือเพิ่มศักยภาพของประชาชน ความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น คือ เครื่องมือแก้ความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาอย่างบูรณาการโดยเอาพื้นที่เป็นตัวตั้ง คือ วิธีการสร้างสังคมสันติสุข
กระทรวงมหาดไทยคือกระทรวงที่ดูแลพื้นที่ทั้งหมด ทั้งชุมชน ทั้งตำบล ทั้งอำเภอ ทั้งจังหวัด จึงอยู่ในฐานะที่จะส่งเสริมสนับสนุน การพัฒนาจังหวัดอย่างบูรณาการโดยเอาชุมชนท้องถิ่นเป็นตัวตั้ง ได้ดีที่สุด อันจะนำไปสู่การสร้างสังคมสันติสุข
กระทรวงเศรษฐกิจ และกระทรวงอื่นๆ ก็ใช่จะไม่สำคัญหรือมีบทบาท แต่ต้องจับให้ได้ว่าตัวตั้งคือ ชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง ชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง คือ กุญแจแก้จน ลดความเหลื่อมล้ำ หรือหัวใจของการพัฒนา การพัฒนาทุกมิติต้องเชื่อมโยงกับชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง ดังในรูป 1 และเชื่อมโยงระหว่างกันกลายเป็นรูปธรรมจักรแห่งการแก้จนลดความเหลื่อมล้ำ
กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงใหญ่ มีบุคลากรที่ผ่านการปฏิบัติจริงในพื้นที่ เช่น เป็นปลัดอําเภอ นายอำเภอ ขึ้นมาเป็นลำดับ จึงสัมผัสอยู่กับความเป็นจริง มีผู้นำ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เก่งๆ จำนวนมาก จึงอยู่ในฐานะที่ดีที่สุดที่จะเป็นผู้เชื่อมประสานการพัฒนา หรือขับเคลื่อนธรรมจักรแก้จนลดความเหลื่อมล้ำ หรือที่จริงคือ ธรรมจักรแห่งสังคมสันติสุข หากมีความเข้าใจถูกต้อง เรื่องนี้ไม่ยากเลย และถ้าร่วมกันสร้างสังคมสันติสุขสำเร็จ ทุกอย่างจะลงตัวรวมทั้งการเมือง และคนไทยจะรักกันมาก
4 องค์ประกอบสำคัญยิ่งยวด (Crucial components) ของชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง
การทำอะไรๆ มักมีองค์ประกอบ หรือเรื่องที่ควรทำหลายอย่าง แต่มีองค์ประกอบจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีความสำคัญยิ่งยวด (Crucial components) ถ้าขาด ถึงทำอย่างอื่นๆ ทั้งหมด ก็จะไม่ได้ผล นี้เป็นหลักคิดอย่างหนึ่งที่ควรเข้าใจ การพัฒนาชนบท มีองค์ประกอบ 8 อย่าง มี 3 อย่าง ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญยิ่งยวด
ตามรูปที่ 2 การพัฒนามักเริ่มต้นด้วยโครงสร้างทางกายภาพ เช่น ที่ดิน แหล่งน้ำ ถนน ไฟฟ้า ฯลฯ ซึ่งสำคัญ แต่ถ้าขาดองค์ประกอบสำคัญยิ่งยวดก็จะไม่สำเร็จ การเงินชุมชนก็เช่นเดียวกัน
องค์ประกอบสำคัญยิ่งยวดประกอบด้วย 6 7 8 ซึ่งคล้องกันอยู่ คือ
6. มีองค์กรจัดการ
7. ต้องใช้ความรู้ เช่น ข้อมูล ความรู้ และเทคโนโลยีต่างๆ
8. การเรียนรู้ ต้องแยกระหว่างความรู้ และการเรียนรู้
ถ้ามีความรู้ แต่ไม่มีการเรียนรู้ ก็ยังไม่เกิดความเข้มแข็ง
การเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติในสถานการณ์จริง เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างยิ่ง 6 7 8 สรุปเป็น องค์กรจัดการที่มีสมรรถนะสูง
5 จากเบญจภาคีสู่พหุภาคี เบญจภาคีที่ประกอบด้วย 3 กรมของกระทรวงมหาดไทย
ได้ลงมือปฏิบัติกันไปแล้ว 5 ภาคี ที่ว่านี้คือ
1. พอช. สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน
2. สสส. แผนสุขภาวะชุมชน
3. กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
4. กรมพัฒนาชุมชน
5. กรมการปกครอง
* ข้อ 3 - 5 กระทรวงมหาดไทย
ทั้งนี้โดยมี นายสมพร ใช้บางยาง อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผู้ประสานงานที่สำคัญ ร่วมกับคุณดวงพร เฮงบุณยพันธ์ อดีตผู้จัดการแผนสุขภาวะชุมชนของ สสส. เบญจภาคีได้ร่วมกันส่งเสริมให้เกิดชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็งขึ้นมาจำนวนมากพอสมควร และกำลังขยายจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดจนได้ถอดบทเรียนเป็นการเรียนรู้เพิ่มเติมขึ้นตลอดเวลา มีผู้นำชุมชนท้องถิ่นที่เก่งและดีหลายแสนคนแล้ว ที่ระดับอำเภอมีโครงการพชอ. หรือพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ มีคณะกรรมการ พชอ.ที่ตั้งขึ้นโดยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีนายอำเภอเป็นประธาน คุณภาพชีวิตระดับอำเภอก็คือ การพัฒนาอำเภออย่างบูรณาการ โดยมีชุมชนท้องถิ่นเป็นตัวตั้งนั่นเอง แต่ละอำเภอมีประมาณ 10 ตำบล 100 หมู่บ้าน ทั้งประเทศ มี 800 กว่าอำเภอ ใกล้ๆ 900 การจะมีนายอำเภอดีๆ 800 - 900 คน นั้นไม่ใช่ของยาก นายอำเภอสามารถสร้างเครือข่ายต่างๆ ขึ้นมาเต็มอำเภอ เช่น เครือข่ายครูเครือข่ายพระ เครือข่ายศิลปิน เครือข่ายปราชญ์ชาวบ้าน เครือข่ายนักธุรกิจ ฯลฯ นอภ. จึงเป็นนักอำนวยภูมิพลัง
คนไทยพึงเห็นการถักทอพลังบวกบนแผ่นดินไทย ที่กำลังก่อตัวและขยายตัว การถักทอพลังบวกบนแผ่นดินไทยนี้จะขยายตัวและลดพื้นที่แห่งความแตกแยกลงไปเรื่อยๆ จนคนไทยสามารถร่วมกันสร้างประเทศไทยที่น่าอยู่ที่สุด
6 การมีจิตใหญ่ การออกแบบระบบ และมีการจัดการที่ดี จุดเปลี่ยนประเทศไทย
วิกฤตประเทศไทย ทั้งๆ ที่มีทรัพยากรเพื่อการพัฒนามาก เกิดจากการมีจิตเล็ก ขาดการออกแบบระบบ และการจัดการที่ดี ติดกับอยู่ในวิธีคิดว่าดีชั่วเป็นกรรมส่วนบุคคล ไม่เข้าใจว่าระบบและโครงสร้างกำหนดพฤติกรรมของบุคคลและองค์กร จึงทะเลาะและขัดแย้งกันสูง เพราะคิดถึงกรรมของบุคคล ไม่เข้าใจกรรมเชิงระบบ จึงติดอยู่ในสภาวะวิกฤตเรื้อรัง จนหมดศรัทธาว่าความดีมีจริง แต่ยิ่งโกรธเคืองชิงชังกันมากขึ้น และยิ่งออกจากสภาวะวิกฤตไม่ได้
คนไทยต้องมีความฝันใหญ่ (Big Dream) ว่าเราสามารถสร้างประเทศไทยสันติสุขได้ มีความคิดใหญ่ มีจิตใหญ่ และออกแบบระบบ เช่น ถ้าเราต้องการอะไรที่บินได้ ก็ออกแบบระบบเครื่องบิน มีโครงสร้าง ประกอบองค์ประกอบให้ครบ ก็จะเกิดเป็นองค์รวม หรือเครื่องบินที่มีคุณสมบัติใหม่อันมหัศจรรย์ คือ บินสู่ฟ้าไกล ในขณะที่องค์ประกอบแต่ละชิ้นๆ ไม่มีชิ้นไหนบินได้เลย แต่เมื่อประกอบกันเป็นองค์รวมก็บินได้
ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน ถ้าประกอบเครื่องให้ครบ ระบบเป็นองค์รวมก็บินได้ ที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น คือ การออกแบบระบบประเทศไทย
ขอให้เพื่อนคนไทยพยายามทำความเข้าใจ มองในแง่ดี ก้าวข้ามความแตกแยกทุกประเภท เราคนไทยจะสามารถสร้างประเทศไทยที่บินสู่ฟ้าไกล เป็นสังคมสันติสุข ให้เหมือนสวรรค์บนดิน ก็สามารถทำได้