
“ผู้คนไม่มีเวลาให้กับคุณมากนักหรอก ดังนั้น ความท้าทายคือ คุณจะเล่าเรื่องให้ได้ความมากที่สุดอย่างไรภายในเวลา 1 นาที” ยาสซินใช้คำพูดชัดถ้อยชัดคำ สื่อแบบตรง ๆ พร้อมนำภาพวิดีโอมาเสนอ ทำให้ผู้คนได้ยอมรับธรรมชาติของโลกใบนี้ ได้เรียนรู้และตื่นเต้นกับเรื่องราวใหม่ ๆ ต่าง ๆ ในโลก รวมถึง ได้รู้สึกถึงพลังในการทำงานอย่างสนุก
ในที่สุด มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยการปรากฏกายในโลกเสมือนจริง ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัท Facebook เป็น Meta พร้อมโลโก้ใหม่ เพื่อ
รีแบรนด์บริษัท มุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีเมทาเวิร์ส และลบภาพของการเป็นเพียงบริษัทโซเซียลมีเดีย แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใด ๆ ของบริษัททั้งสิ้น อย่างน้อยก็ในตอนนี้
ที่น่าสนใจคือแบรนด์ “เฟซบุ๊ก” เป็นแพลตฟอร์ม
ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก มีสมาชิกผู้ใช้งานประจำมากกว่า 2,700 ล้านคนในแต่ละเดือน

https://www.khaosod.co.th/wpapp/uploads/2021/10/
ผมต้องสารภาพว่าไม่ได้เป็นแฟนพันธ์แท้ของ เฟซบุ๊ก น้อยครั้งนักที่จะแชร์ข้อความหรือรูปภาพ แต่อดไม่ได้ที่จะท่องเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหวของคนรอบข้างพร้อมกับติดสติกเกอร์ ใส่ข้อความตอบกลับเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ดี เท่าที่ผมสังเกต แต่ละข้อความจะมีผู้ติดตามไม่เกินหลักร้อย เพราะการดูต้องเอานิ้วแตะจอสกรีนลากลงเร็ว ๆ ถ้าใช้เวลาเพ่งพิจารณาแต่ละข้อความ คงต้องใช้เวลากันทั้งวัน ดังนั้น การจะให้มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากต้องเป็นแบบ blogger ที่เขียนบทความเป็นอาชีพ หรือเป็นแบบ Vlogger ทำคลิปวิดีโอขึ้นมาโพสต์เป็นประจำ แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ เพราะผู้โพสต์ต้องมีความสามารถเฉพาะตัว สร้างเนื้อหาที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ ให้แฟนคลับติดกันงอมแงม ถ้าวันไหนขาดหายไป ถึงกับจะเป็นจะตายอะไรทำนองนั้น
หนึ่งใน Vlogger ที่ใช้ชื่อ “Nas Daily” ผลิตคลิปวิดีโอความยาว 1 นาทีของนูเซียร์ ยาสซิน ที่เริ่มต้นโพสต์เมื่อปี 2016 ผ่านไปเพียง 5 ปี มีผู้ติดตามทั้งทาง Facebook, YouTube และ Instagram กว่า 44 ล้านคน ใน 16 ภาษาทั่วโลก ทำให้ผมต้องรีบทำความรู้จักกับเขาทันที
https://www.facebook.com/watch/?v=3559592397449769
นูเซียร์ ยาสซิน หนุ่มวัย 29 ปี ลูกครึ่งเชื้อสายอิสราเอล-ปาเลสไตน์ เติบโตในครอบครัวชนชั้นกลาง พ่อเป็นนักจิตวิทยา แม่เป็นครู ได้รับการปลูกฝัง
ให้เรียนสูง ๆ จึงมุ่งมั่นที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐฯ ให้ได้ ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ จนได้ทุนการศึกษา เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สาขาวิชาวิศวกรรมการบินและอวกาศ แต่ยาสซินกลับเรียนจบปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 2014 ได้เข้าทำงานบริษัท PayPal บริษัทด้านเทคโนโลยีทางการเงิน เป็นพนักงานเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์ ได้รับเงินเดือน 3 ล้านบาทต่อปี ถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับคนเรียนจบใหม่ ๆ หากเป็นคนอื่น คงวางเป้าหมายชีวิตที่จะเป็น สตีฟ จ็อบส์ หรือมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก แต่ยาสซินกลับไม่คิดเช่นนั้น เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับงานประจำซ้ำซาก คิดว่าเสียเวลาไปเปล่า ๆ กับการนั่งทำงานอยู่กับโต๊ะตัวเดิม ๆ ทุกวัน และพูดว่า “ผมใช้ชีวิตของตัวเองไปแล้ว 32 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังมีสิ่งที่ผมอยากทำอีกมากเหลือเกิน ชีวิตจะดีกว่านี้มาก หากได้เดินทางไปรอบโลก” ยาสซินจึงตัดสินใจลาออกจากบริษัท PayPal ในปี 2016 หลังจากทำงานได้เพียง 18 เดือน1/
ยาสซินวางแผนจะเป็น Vlogger ทั้ง ๆ ที่ไม่มีพื้นความรู้ในเรื่องการถ่ายวิดีโอมาก่อน เขาตัดสินใจลงทุนซื้อกล้องถ่ายรูปและตั๋วเครื่องบินเดินทางไปทั่วโลก เพื่อนำเรื่องราว สถานที่ และการได้สัมผัสกับผู้คนต่างเชื้อชาติ ต่างวัฒนธรรม มาเล่าผ่านคลิปวิดีโอในแต่ละวัน เพื่อสอดรับกับชื่อ Nas ในภาษาอาหรับ ที่แปลว่าผู้คน
https://m.facebook.com/watch/?v=909293255889494&_rdr
https://m.facebook.com/watch/?v=750348321783989&_rdr
ยาสซินเลือกเดินทางไปประเทศเคนยาเป็นแห่งแรก และเพียงคลิปวิดีโอที่ประเดิมโพสต์ในเฟซบุ๊ก ยาสซินก็ได้รับค่าจ้างจากบริษัทผู้ผลิตสื่อของรัสเซียที่ตั้งอยู่ในกรุงไนโรบี เมืองหลวงของเคนยา เป็นเงินถึง 100,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเพียงพอกับการตระเวนไปตามที่อื่น ๆ อีกมากมาย แต่เนื่องจากยังมีผู้ติดตาม Nas Daily ไม่มากนักในช่วง 2 ปีแรก ทำให้ยาสซินต้องนำเงินออมออกมาใช้เกือบหมด อย่างไรก็ดี ด้วยความมุ่งมั่น พัฒนาฝีมือจนสุดกำลังความสามารถ ฐานผู้ชมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ไม่กี่เดือนต่อมา แฟนคลับ Nas Daily ทวีคูณไต่หลักล้าน และก่อนที่คลิปวิดีโอจะครบ 1,000 คลิปตามเป้าหมายที่วางไว้เมื่อแรกเริ่ม ยาสซินก็มีรายได้ตกเดือนละกว่า 1.2 ล้านบาท นับถึงวันนี้ ยาสซินมีรายได้และสินทรัพย์รวมกันเกินกว่า 150 ล้านบาท2/ มีผู้ติดตาม Nas Daily 44 ล้านคนทั่วโลก แบ่งเป็นกลุ่มทางเฟซบุ๊ก 20 ล้านคน ที่เหลือผ่านทาง YouTube และ Instagram
ผมท่องเข้าไปดูคลิป Nas Daily บางเรื่อง รู้สึกประทับใจกับการเป็น “นักเล่าเรื่อง” แบบ “สั้น กระชับ และหวานแหวว” (Keep It Short and Sweet) ทุกเรื่องจบใน 1 นาที สนองรับกับความคิดที่ว่า
“ผู้คนไม่มีเวลาให้กับคุณมากนักหรอก ดังนั้น ความท้าทายคือ คุณจะเล่าเรื่องให้ได้ความมากที่สุดอย่างไรภายในเวลา 1 นาที”
ยาสซินใช้คำพูดชัดถ้อยชัดคำ สื่อแบบตรง ๆ พร้อมนำภาพวิดีโอมาเสนอ ทำให้ผู้คนได้ยอมรับธรรมชาติของโลกใบนี้ ได้เรียนรู้และตื่นเต้นกับเรื่องราวใหม่ ๆ ต่าง ๆ ในโลก รวมถึง ได้รู้สึกถึงพลังในการทำงานอย่างสนุก สุขใจ เช่น คลิปวิดีโอเรื่อง งานแต่งงานของตัวเขากับแฟนสาวตามประเพณีฮินดูของชาวอินเดีย หรือไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือชามละ 12 บาท เพื่อบอกว่า มาเที่ยวเมืองไทยคุ้มค่าแค่ไหน รวมทั้ง การไปใช้ชีวิต
กับชาวเกาะ Santa Cruz Del Islote ในประเทศโคลอมเบีย เกาะเล็ก ๆ มีพื้นที่ไม่ถึง 8 ไร่ แต่มีคนอาศัยอยู่ถึง 1,247 คน ถือเป็นเกาะที่มีประชากรแออัดยัดเยียดที่สุด บ้านอยู่ติดกันจนแทบไม่มีที่จะเดิน แต่ชาวเกาะต่างอยู่ร่วมกันด้วยความสุข
ยังมีคลิปวิดีโอ Nas Daily ที่มีผู้ชมมากที่สุดคือเรื่อง “ชายคนนี้ เขาทำให้ทะเลสาบสะอาดได้อย่างไร” (How this guy cleaned a Lake!) มีผู้ชมกว่า 104 ล้านวิว เป็นเรื่องราวของ ดร. มาริโนะ ชาวญี่ปุ่น ผู้เรียนจบปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมเคมี แต่ตัดสินใจลาอออกจากงาน มาแก้มลพิษของทะเลสาบที่รักและผูกพันมาตั้งแต่เด็ก ด้วยการกู้ยืมเงินจากธนาคาร นำมูลสารอิสระที่ตัวเองผลิตขึ้นมาเทลงในทะเลสาบ
ทำให้ “ทะเลสาบที่รักปลอดจากปรสิต แบคทีเรีย และมลพิษ สัตว์ สิ่งมีชีวิต ได้กลับมาอาศัยด้วยความสุขดังเดิม” และยังมีคลิปวิดีโอสนุก ๆ ตื่นเต้น น่าดูแบบนี้อีกนับถึง 1,000 เรื่อง (ถ้าจะขยันคลิก) ยาสซิน
จะปิดวิดีโอทุกครั้งด้วยคำพูด “นี่คือ 1 นาที พบกันพรุ่งนี้ครับ” (That’s one minute, see you tomorrow)
แม้ว่าการผลิตคลิปวิดีโอ Nas Daily จะเกิน 1,000 ครั้งไปแล้ว แต่ยาสซินขอทำอยู่ต่อไป นอกจากนี้ ยังได้ตั้ง Nas Academy เปิดสอนเทคนิคต่าง ๆ สำหรับ Vlogger มืออาชีพ โดยตั้งใจว่าจะสร้าง Vlogger เพิ่มอย่างน้อยประมาณ 1,000 คน เพื่อมาสานต่อกิจการ Nas Daily ยาสซินกล่าวทิ้งทายว่า “ถ้าผมตายลงวันนี้ พรุ่งนี้ก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว งานของผมมีเพียงการทำวิดีโอ 1 นาที ไม่ต้องการกำไรอีกแล้ว และไม่อยากให้ชื่อของ Nas Daily ตายไปพร้อมผม จึงขอสร้างคนรุ่นใหม่ที่ฝันเดียวกับผม”
จากพื้นฐานที่ไม่ได้มีความรู้เรื่อง Vlogger เลย แถมยังเป็นคนขี้อายในวัยเด็ก ยาสซินได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า “ตราบใดที่มีเป้าหมายชีวิตชัดเจน มีความตั้งใจมุ่งมั่น และพร้อมที่จะเปิดรับประสบการณ์ ตลอดจนความท้าทายใหม่ ๆ ความสำเร็จตามความฝันอยู่เพียงแค่เอื้อมเท่านั้นครับ”
รณดล นุ่มนนท์
1 พฤศจิกายน 2564
แหล่งที่มา:
1/ AHEAD.ASIA. 2021. หลายนาทีกับ แนส เดลี ( Nas Daily ) สุดยอด Vlogger ชาวอิสราเอล.
[online] Available at: <https://ahead.asia/2018/06/04/more-minutes-with-nas-daily-interview/> [Accessed 30 October 2021].
2/ Nas Academy Blog - We Empower Creators. 2021. Nas Daily’s Net Worth Will Surprise You | Nas Academy. [online] Available at: <https://nasacademy.com/blog/article/nas-dailys-net-worth> [Accessed 30 October 2021].




Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา