"...การดำเนินงานโครงการนี้ มีเจตนาสุจริต ตอนที่จะดำเนินการก็ลงพื้นที่เจรจากับวัดต่างๆ ก็ไม่มีข้อขัดแย้งอะไร อีกทั้งการดำเนินการก็มีการถ่ายภาพ ถ่ายคลิปวีดีโอ ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมที่จะชี้แจงในความบริสุทธิ์ด้วย ..."
........................
1. ในการดำเนินการจัดซื้อถุงยังชีพโควิดเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ไม่มีงบส่วนอื่นที่จะมาดำเนินงานโครงการนี้หรืออย่างไร ทำไมเลือกที่จะมาใช้งบเงินอุดหนุนโครงการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณรและบวชศีลจาริณีภาคฤดูร้อนดังกล่าว ซึ่งมีหลักเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติตามชัดเจนอยู่แล้ว
2. ก่อนดำเนินการโครงการ ได้มีการประชุมหารือร่วมกับภาคคณะสงฆ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่? ถ้าไม่มี มีเหตุผลใดทำไมถึงไม่ดำเนินการ?
3. รายละเอียดที่มา-ราคาสินค้าที่จัดซื้อมาใช้ในโครงการเป็นอย่างไร? ซื้อจากไหน? ราคาเท่าไร? ซึ่งประเด็นนี้ สำนักข่าวอิศรา ได้เข้าไปตรวจสอบข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างในเว็บไซต์ของ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร แต่ยังไม่พบข้อมูลส่วนนี้แสดงไว้
คือ ประเด็นคำถามที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ทิ้งท้ายไว้ในรายงานเรื่อง ขมวดปม! 14 ขรก.วธ.พิจิตร โดนสอบวินัยยก สนง. เรียกคืนเงินโครงการบวชฯซื้อถุงยังชีพโควิดแทน ที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึก กรณีสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร มีคำสั่งเรียกคืนเงินจากวัดที่ได้รับงบประมาณอุดหนุนโครงการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุ สามเณร และบวชศีลจาริณี ภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติ ประจำปีงบประมาณ 2563 จำนวน 31 วัด รวมวงเงินกว่า 330,000 บาท มาจัดทำถุงยังชีพ เพื่อมอบให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด- 19 ที่ปรากฎข้อมูลว่า ในช่วงกลางเดือนพ.ย.2563 ที่ผ่านมา กระทรวงวัฒนธรรม ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรง แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร จำนวน 14 ราย จากกรณีนี้เป็นทางการแล้ว
ล่าสุด ในช่วงเช้าวันที่ 17 ธันวาคม 2563 สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นางณัณธิญาจ์ มังคละคีรี วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอีกครั้ง
แต่นางณัณธิญาจ์ ระบุว่า ได้ปรึกษากับทางกระทรวงวัฒนธรรมแล้ว และได้รับคำแนะนำว่า ไม่ควรให้สัมภาษณ์ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน เนื่องจากเรื่องนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวนทางวินัยอยู่
ทั้งนี้ นอกจากนางณัณธิญาจ์แล้ว สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นางสาวนุชรินทร์ ธีระบุญยะ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ในฐานะผู้ดำเนินการจัดซื้อจ้างการทำถุงยังชีพ และนางธนพร ส่วยหวาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ ผู้รับผิดชอบโครงการ เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยเช่นกัน
แต่ได้รับแจ้งข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ว่า นางสาวนุชรินทร์ ธีระบุญยะ ย้ายไปประจำที่กำแพงเพชรเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ส่วน นางธนพร ส่วยหวาน เกษียณอายุราชการไปแล้ว
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า นางณัณธิญาจ์ มังคละคีรี นางสาวนุชรินทร์ ธีระบุญยะ เป็น 2 ใน 14 ข้าราชการ ที่ถูกตั้งแต่งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยไม่ร้ายแรงกรณีนี้ ตามคำสั่งของกระทรวงวัฒนธรรมด้วย (ดูคำสั่งประกอบ)
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังไม่มีการยืนยันข้อมูลเป็นทางการว่า การสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรงกรณีนี้ ได้เสร็จสิ้นตามขั้นตอนไปแล้วหรือไม่? ผลการสอบสวนเป็นอย่างไร?
นางณัณธิญาจ์ มังคละคีรี นางสาวนุชรินทร์ ธีระบุญยะ และข้าราชการทั้งหมด จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ขณะที่ นางณัณธิญาจ์ มังคละคีรี เคยให้สัมภาษณ์ยืนยันกับสื่อมวลชนว่า การดำเนินงานโครงการนี้ มีเจตนาสุจริต ตอนที่จะดำเนินการก็ลงพื้นที่เจรจากับวัดต่างๆ ก็ไม่มีข้อขัดแย้งอะไร อีกทั้งการดำเนินการก็มีการถ่ายภาพ ถ่ายคลิปวีดีโอ ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมที่จะชี้แจงในความบริสุทธิ์ด้วย
"โครงการดังกล่าวเป็นโครงการเงินอุดหนุนให้กับทางวัดต่างๆ 31 วัด เป็นจำนวนเงิน 330,000 บาท ซึ่งได้โอนเข้าบัญชีวัดต่างๆ เพื่อทำถุงยังชีพ เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนั้นเป็นนโยบายของรัฐบาล โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ได้กำหนดมาตรการ Social Distancing จึงทำให้โครงการบวชเฉลิมพระเกียรติถูกปรับเปลี่ยนเป็นการซื้อถุงยังชีพแจกให้กับพระภิกษุสงฆ์และประชาชน และด้วยความปรารถนาของ สนง.วัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ที่ต้องการทำเป็นภาพรวมให้ดูดี จึงได้ไปเจรจาและทำข้อตกลงกับวัดต่างๆ ว่าจะขอเงินที่โอนมาให้แล้วนั้นให้นำมากองรวมที่วัฒนธรรมจังหวัดเพื่อจะได้จัดซื้อถุงยังชีพและทำถุงโดยให้มีโลโก้ของจังหวัดพิจิตร และของกระทรวง"
"ยกตัวอย่างเช่น วัดท่าหลวง พระอารามหลวง ยอดเงิน 10,000 บาท ก็จัดทำถุงยังชีพจำนวน 20 ถุง มูลค่าถุงละ 500 บาท ซึ่งในถุงก็บรรจุสิ่งของที่มีค่าใช้จ่าย คือ ค่าจัดทำถุงผ้าและสิ่งของประกอบด้วย 1.ข้าวสารเสาไห้ 5 กก. 2. ไข่ไก่ 1 แผง 3.ปลากระป๋อง 6 กระป๋อง 4.นมจืด 1 แพ็ค 5. น้ำพริก 2 กระปุก 6.น้ำมันพืช 1 ขวดใหญ่"
อ่านประกอบ
เผยคำสั่ง วธ.สอบวินัย 14 ขรก.พิจิตร เรียกคืนเงินโครงการบวช ซื้อถุงยังชีพโควิดแจกแทน
พฤติการณ์ 14 ขรก.วธ.พิจิตร ถูกสอบวินัย ปมเรียกคืนเงินโครงการบวช ซื้อถุงยังชีพโควิดแทน
ขมวดปม! 14 ขรก.วธ.พิจิตร โดนสอบวินัยยก สนง. เรียกคืนเงินโครงการบวชฯซื้อถุงยังชีพโควิดแทน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage