"...กล้องตรวจการณ์กลางคืน, บุคคล (แบบตาเดียว) แบบ 2 ที่กองทัพบกกำหนดไว้ มี 3 ด้านหลัก คือ 1. การใช้งาน 2. ทางเทคนิค และ 3.การออกแบบ โดยด้านเทคนิค กำหนดว่า ตัวกล้อง มีกำลังขยาย 1 เท่า มุมมองภาพไม่น้อยกว่า 40 องศา มองเห็นได้ชัดตั้งแต่ระยะ 25 เซนติเมตร ถึงระยะอนันต์หรือดีกว่า ป้องกันน้ำในระดับที่มีความลึก 100 เซนติเมตร ได้ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง น้ำหนักพร้อมใช้งานไม่เกิน 355 กรัม สามารถตรวจการณ์เห็นเป้าหมายในเวลากลางคืนได้ โดยอาศัยแสงดาวและแสงจันทร์ ทั้ง บุคคล และรถถังหรือยานยนต์ ตามระยะที่กำหนดไว้ เป็นต้น..."
..................................
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลจบลงไปแล้ว!
แต่ประเด็นตรวจสอบการจัดซื้อยุทธภัณฑ์ ซึ่งเกี่ยวกับการจัดซื้อกล้องตรวจการณ์กลางคืน แบบตาเดียวหรือ Night Vision Scope ของกองทัพบก ที่ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.ก้าวไกล หยิบยกขึ้นมาเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่โปร่งใส
แต่ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ให้ความสำคัญติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นอกจากการนำข้อมูลการจัดซื้อกล้องตรวจการณ์กลางคืน, บุคคล (แบบตาเดียว) แบบ 2 ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ในช่วงปี 2563 จำนวน 3 สัญญา ของกองทัพบก ที่ปรากฎชื่อ บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด เป็นคู่สัญญา มานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบ
เพื่อสอบยันคำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ระบุว่า "ในปี 2561 ก่อนจัดซื้อ กองทัพบกได้สืบหากล้องตาสเปคที่ต้องการ เชิญผู้ประกอบมาทำการทดสอบ ทดลองใช้งานกับหน่วยต่างๆ จนนำไปสู่การกำหนดสเปคที่ต้องการ ทั้งนี้เป็นการจัดซื้อโดยวิธีประกวดราคา (e-bidding) ส่วนปี 2563 หน่วยงานยืนยันความต้องการใช้กล้องแบบเดิมเพื่อให้ครบตามจำนวนที่ต้องการ และทราบว่ามีผู้จำหน่ายเพียงรายเดียว จึงใช้วิธีเฉพาะเจาะจง ราคาจัดซื้อเท่ากับปี 2561-2562"
(อ่านประกอบ : กางหลักฐาน! ซื้อกล้องตรวจการณ์วิธีเจาะจง ก่อน 'บิ๊กตู่' อ้างเหตุมีผู้จำหน่ายรายเดียว?)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะ (สเปค) กล้องตรวจการณ์กลางคืน, บุคคล (แบบตาเดียว) แบบ 2 ที่กองทัพบกจัดซื้อจาก บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ราคาเฉลี่ย 495,000 บาท ต่อเครื่อง มานำเสนอให้สาูธารณชนได้รับทราบเพิ่มเติม มีรายละเอียดดังนี้
โดยสำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า ในการจัดซื้อกล้องตรวจการณ์กลางคืน, บุคคล (แบบตาเดียว) แบบ 2 วิธีเฉพาะเจาะจง ของกองทัพบก ในช่วงปี 2563 จาก บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด จำนวน 3 สัญญาดังกล่าว
อ้างอิงแหล่งสืบราคากลางจากเอกชน 3 ราย เหมือนกัน คือ 1. บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด 2. บริษัท 107 เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด 3. บริษัท เอ็นจิเนียริ่ง รีวอร์ด (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีการอ้างอิงข้อมูลตามสัญญาซื้อขายเลขที่ 26 /2561 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2561 ไว้ด้วย
เมื่อตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกพบว่า งานสัญญาซื้อขายเลขที่ 26 /2561 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2561 เป็นการประกวดราคาโครงการซื้อยุทโธปกรณ์สายช่าง ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) วงเงิน 49,995,000 บาท ปรากฎชื่อ บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด เป็นคู่สัญญาเช่นกัน
โดยจัดซื้อสินค้า 3 ชนิด คือ กล้องตรวจการณ์กลางคืน, บุคคล (แบบตาเดียว) แบบ 2 จำนวน 101 ชุด กล้องตรวจการณ์สำหรับชุดซุ่มยิง พร้อมขาตั้ง 8 กล้อง และ ไฟฉายพร้อมด้วยด้ามจับ 55 กระบอก
ขณะที่ กล้องตรวจการณ์กลางคืน, บุคคล (แบบตาเดียว) แบบ 2 จำนวน 101 ชุด สืบราคากลางจากเอกชน 2 ราย คือ บริษัท ซิลเวอร์บริดจ์ ดีเฟนซ์ กรุ๊ป จำกัด ราคาเครื่องละ 495,000 บาท บริษัทเรย์โซน (ไทยแลนด์) จำกัด ราคาเครื่องละ 519,750 บาท
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับสเปค กล้องตรวจการณ์กลางคืน, บุคคล (แบบตาเดียว) แบบ 2 ที่กองทัพบกกำหนดไว้ มี 3 ด้านหลัก คือ 1. การใช้งาน 2. ทางเทคนิค และ 3.การออกแบบ
โดยด้านเทคนิค กำหนดว่า ตัวกล้อง มีกำลังขยาย 1 เท่า มุมมองภาพไม่น้อยกว่า 40 องศา มองเห็นได้ชัดตั้งแต่ระยะ 25 เซนติเมตร ถึงระยะอนันต์หรือดีกว่า ป้องกันน้ำในระดับที่มีความลึก 100 เซนติเมตร ได้ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง น้ำหนักพร้อมใช้งานไม่เกิน 355 กรัม
สามารถตรวจการณ์เห็นเป้าหมายในเวลากลางคืนได้ โดยอาศัยแสงดาวและแสงจันทร์ ทั้ง บุคคล และรถถังหรือยานยนต์ ตามระยะที่กำหนดไว้ เป็นต้น (ดูรายละเอียดตามเอกสารประกอบ)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบค้นข้อมูลยังพบว่า ในคู่มือการใช้งานและบำรุงรักษา กล้องตรวจการณ์กลางคืน ของ กรมการทหารช่าง ระบุว่า กล้องตรวจการณ์กลางคืน มีเส้นทางการพัฒนา มาตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
โดยในส่วนของกองทัพบกไทยได้ดำเนินโครงการพัฒนาตามนโยบายผู้บังคับบัญชาชั้นสูงมาตั้งแต่ช่วงปี 2545 แบ่งประเภทตามความมุ่งหมายในการใช้งานได้ 6 ชนิด คือ 1. กล้องตรวจการณ์กลางคืน, บุคคล 2. กล้องตรวจการณ์กลางคืน, หน่วย (ระยะใกล้) 3. กล้องตรวจการณ์กลางคืน, หน่วย (ระยะปานกลาง) 4. กล้องตรวจการณ์กลางคืน, ระยะไกล 5.กล้องตรวจการณ์กลางคืน, นักบิน และ 6. กล้องตรวจการณ์กลางคืน ประกอบเครื่องวัดระยะด้วยแสงเลเซอร์
ขณะที่การจัดหากล้องเพื่อนำมาใช้งานนั้น กรมการทหารช่าง ระบุว่า ต้องมีความเหมาะสมกับการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานทั้งในด้านบุคคลและใช้ร่วมกับยุทโธปกรณ์อื่นหรือเพิ่มขีดความสามารถประสิทธิภาพให้กับหน่วยใช้ได้อย่างแท้จริง
ทั้งหมดนี่ คือ ข้อมูลคุณลักษณะเฉพาะ (สเปค) ของกล้องตรวจการณ์กลางคืน, บุคคล (แบบตาเดียว) แบบ 2 ที่กองทัพบกจัดซื้อมาไว้ใช้งานในปัจจุบัน ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด
ส่วนข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามตรวจสอบมานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
อ่านประกอบ :
ขยายข้อมูล ส.ส.ก้าวไกล! 'อิศรา' เจาะจัดซื้อกล้องตรวจการณ์ ทบ.4 ปี 198 ล. ผูกซื้อ 2 บ.
'บิ๊กตู่'แจงจัดซื้อชุดทหาร-กล้องตรวจการณ์ แต่ไม่ตอบปมรถ ขส.ทบ.7 สัญญา 2.2 พันล.
กางหลักฐาน! ซื้อกล้องตรวจการณ์วิธีเจาะจง ก่อน 'บิ๊กตู่' อ้างเหตุมีผู้จำหน่ายรายเดียว?
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage