"...จากการตรวจสอบเอกสารเอกสารหลักฐานจดทะเบียนจัดตั้งที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า ในช่วงจดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2540 แจ้งทุน 5 แสนบาท ปรากฎชื่อหุ้นส่วน 2 ราย คือ นายอณุวัชร ปิยะพงศ์ผาติ ลงหุ้นด้วยเงินสด 250,000 บาท และ นายสมพงษ์ อ้นสะอาด ลงหุ้นด้วยเงินสด 250,000 บาท นายอนุวัชร ปิยพงศ์ผาติ แจ้งข้อมูลว่า มีอาชีพค้าขาย แจ้งที่อยู่เลขที่ 1184/147 ถนนเจริญกรุง แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ ..."
“ผมต้องเล่าก่อนว่ากรณีนี้นั้นมันมีการแข่งประกวดราคาเมื่อประมาณ 15 ปีก่อน ช่วงประมาณปี 2547 มีบริษัทมาซื้อซองอุปกรณ์การแพทย์อยู่ประมาณ 5 บริษัท แต่เวลาส่งซองเข้าชิงนั้น ปรากฏว่ามี 2 บริษัทที่แข่งขันกัน คือ บริษัท ไพร์ม เมดิคอล จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด ไอ.ซี.อุปกรณ์การแพทย์ ที่สามารถสู้ราคาได้ตามเงื่อนไข"
"โดยการสั่งซื้อนั้นเป็นความต้องการของเราที่จะเปิดห้องฉุกเฉิน ซึ่งเราสั่งเครื่องมือรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบดิจิตัล เพื่อลดกำลังพลการแพทย์ในการดูแลคนไข้ โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคทางหัวใจ ซึ่งระบบนี้นั้นมีใช้ในต่างประเทศแล้ว แต่เมืองไทยยังไม่มีใช้ โดยคุณลักษณะของอุปกรณ์ที่ว่ามานั้นสามารถติดตามการเต้นของคลื่นหัวใจ สถานะและความผิดปกติต่างๆได้จากทุกที่ แตกต่างจากเครื่องมือเก่าที่บุคลากรทางการแพทย์จะต้องจะต้องเฝ้าหน้าจอ ดูที่หน้างานเครื่องมือตลอดเวลา"
"ดังนั้น จึงมีตั้งงบราคากลางการจัดซื้อประมาณ 5.5 ล้านบาท และเราก็ตรวจคุณสมบัติของบริษัททั้งคู่แล้ว มีหนังสือรับรองเรียบร้อยทั้ง 2 บริษัท อย่างไรก็ตาม พอตรวจสอบดูก็พบว่า หจก.ไอ.ซีฯ นั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายจากบริษัทในต่างประเทศจริง ก็เลยมีการเพิกถอน หจก.ไอซีฯไป จึงทำให้เหลือแค่บริษัทไพรม์ เมดิคอล เพียงบริษัทเดียว"
คือ ข้อมูลสำคัญในคำชี้แจง ของ นพ.สุรชัย ทรัพย์โมกข์ ปรากฎชื่อเป็น 1 ใน 6 กลุ่มนายแพทย์และพยาบาลวิชาชีพ ของ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และผู้บริหารเอกชน 2 ราย คือ นายไพบูลย์ หาญดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์ม เมดิคอล จำกัด และ นายอนุวัชร ปิยพงศ์ผาติ หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ไอ.ซี.อุปกรณ์การแพทย์ ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในคดีเอื้อประโยชน์ให้ผู้เสนอราคาบางราย ได้มีสิทธิทำสัญญาในการจัดซื้อชุดตรวจ และบันทึกสัญญาณทางสรีรวิทยา แบบศูนย์รวมสำหรับ 7 เตียง และ เครื่องเฝ้าติดตามการทำงานของหัวใจ พร้อมวัดอัตราการหายใจ ความดันโลหิตแบบภายในและ ภายนอก พร้อมวัดปริมาณก๊าซ ในขณะดมยาสลบและความผิดปกติ ของสมองพร้อมอุปกรณ์และ ระบบบันทึก ตามที่ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลมาเสนอไปก่อนหน้านี้ (อ่านประกอบ : ผ่านมา 15 ปี ไม่คิดว่าจะมีอะไรอีก! เปิดใจ 'นพ.สุรชัย' แจงเบื้องลึกจัดซื้ออุปกรณ์แพทย์ กทม.)
ทั้งนี้ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ หจก.ไอ.ซี.อุปกรณ์การแพทย์ นั้น สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ปัจจุบันได้จดทะเบียนเลิกห้างไปแล้ว ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2561
ล่าสุด จากการตรวจสอบเอกสารเอกสารหลักฐานจดทะเบียนจัดตั้งที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า ในช่วงจดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2540 แจ้งทุน 5 แสนบาท ปรากฎชื่อหุ้นส่วน 2 ราย คือ นายอณุวัชร ปิยะพงศ์ผาติ ลงหุ้นด้วยเงินสด 250,000 บาท และ นายสมพงษ์ อ้นสะอาด ลงหุ้นด้วยเงินสด 250,000 บาท
ตั้งอยู่เลขที่ 163/25 หมู่ที่ 2 ถนนติวานนท์ ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี (ต่อมาเปลี่ยนแก้เลขที่เป็น 151 ถนนติวานนท์ ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี )
นายอนุวัชร ปิยพงศ์ผาติ แจ้งข้อมูลว่า มีอาชีพค้าขาย แจ้งที่อยู่เลขที่ 1184/147 ถนนเจริญกรุง แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ
แจ้งวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจ 23 ข้อ ระบุการประกอบกิจกรรมจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์การแพทย์ทุกชนิด รวมทั้งอุปกรณ์ของใช้ผู้ป่วยไว้ด้วย
ต่อมา 12 ม.ค. 2549 หจก.ไอ.ซี.อุปกรณ์การแพทย์ แจ้งเพิ่มรายชื่อหุ้นส่วนอีก 1 ราย คือ นางกรวิภา ปิยะพงศ์ผาติ ลงหุ้นด้วยเงิน จำนวน 500,000 บาท รวมเงินลงทุนเดิมเป็น 1 ล้านบาท
19 ก.พ. 2551 ถูก สำนักงานสรรพากรพื้นที่นนทบุรี แจ้งนายทะเบียน ขอให้ระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เนื่องจากค้างชำระภาษีอากรอยู่กับทางราชการ (ดูเอกสาร)
จากนั้นไม่ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีก
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 ต.ค.2561 หจก.ไอ.ซี.ฯ ได้แจ้งขอจดทะเบียนเลิกโดย นางกรวิภา ปิยะพงศ์ผาติ เป็นผู้แจ้งเรื่องกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ขณะที่ข้อมูลงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2559 แจ้งว่า มีรายได้รวม 1,002,298.18 บาท รวมรายจ่าย 1,537,201.97 บาท ขาดทุนสุทธิ 592,606.90 บาท
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ นางกรวิภา ปิยะพงศ์ผาติ ที่แจ้งไว้ในเอกสารจดทะเบียนเลิก หจก.ไอ.ซี.ฯ เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงในส่วนของหจก.
เบื้องต้น มีผู้ชายคนหนึ่งรับสาย พร้อมระบุว่า เป็นน้องชายของ นายอนุวัชร ปิยพงศ์ผาติ และรับหน้าที่ไปจดทะเบียบเลิก หจก.ไอ.ซี.ฯ ให้
เมื่อผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ นายอนุวัชร
ผู้ชายรายนี้ ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อนายอนุวัชรมา แต่ไม่สามารถติดต่อนายอนุวัชรได้เช่นกัน
อนึ่งก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานข้อมูลไปแล้วว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ชี้มูล นายอนุวัชร ปิยพงศ์ผาติ ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไอ.ซี.อุปกรณ์การแพทย์ ว่า มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 และ ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน ของรัฐกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มี การแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อ เอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใด ให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับ การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 ประกอบ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมาตรา 91
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.เชือดกราวรูด 'หมอ-พยาบาล' สำนักการแพทย์ กทม. 6 ราย-เอกชน 2 เอื้อปย.ซื้อชุดตรวจ
คู่สัญญารัฐ1.2 พันล.! เปิดตัว 2 เอกชน ผู้บริหารเอี่ยวคดีฮั้วอุปกรณ์แพทย์กทม.-เลิกกิจการแล้ว1
ผ่านมา 15 ปี ไม่คิดว่าจะมีอะไรอีก! เปิดใจ 'นพ.สุรชัย' แจงเบื้องลึกจัดซื้ออุปกรณ์แพทย์ กทม.