ป.ป.ช. แพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สมบัติ คืนครีบ' อดีตนายก อบต.คู้สลอด อยุธยา - พวก 3 ราย มีส่วนได้เสียโครงการจ้างเหมาจัดทำซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนลงโทษจำคุกคนละ 1 ปี แต่ได้รอลงอาญา - ปรับอีกคนละ 1 หมื่น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นางสาวสมบัติ คืนครีบ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คู้สลอด อำเภอบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กับพวก คือ นายสุวรรณ์ ซ่อนกลิ่น นายรณรงค์ เลิศงาม นางแตงอ่อน ภักดี เข้ามีส่วนได้เสียในโครงการจ้างเหมาจัดทำซุ้มเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช และ 12 สิงหามหาราชินี ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม ป.อ. 152, 157 และ 162 (4) ประกอบ มาตรา 83 , 86 และตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช.พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 100 (1) ประกอบมาตรา 122 และมาตรา 123/1 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2567 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืน ตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่มีคำพิพากษา ว่า นางสาวสมบัติ คืนครีบ จำเลยที่ 1 นายสุวรรณ์ ซ่อนกลิ่น จำเลยที่ 2 นายรณรงค์ เลิศงาม จำเลยที่ 3 นางแตงอ่อน ภักดี จำเลยที่ 4 มีความผิดตามกฎหมาย ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ที่มีโทษหนักที่สุด
นางสาวสมบัติ คืนครีบ จำเลยที่ 1 นายสุวรรณ์ ซ่อนกลิ่น จำเลยที่ 2 นายรณรงค์ เลิศงาม จำเลยที่ 3 จำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 10,000 บาท
นางแตงอ่อน ภักดี จำเลยที่ 4 จำคุก 8 เดือน ปรับ 13,333.33 บาท
จำเลยทั้ง 4 ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อนให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
เนื่องจากคดีนี้ ศาลให้รอการลงโทษ จึงไม่อาจนับโทษ นางสาวสมบัติ คืนครีบ จำเลยที่ 1 นายสุวรรณ์ ซ่อนกลิ่น จำเลยที่ 2 นายรณรงค์ เลิศงาม จำเลยที่ 3 ต่อจากโทษคดีอื่นได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 26 พ.ย.2567 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบตามที่อัยการสูงสุด (อสส.) หารือไม่ฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ เห็นควรไม่ฎีกา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านประกอบ :