กลุ่มผู้เสียหายกรณีการรถไฟฯทำสัญญาให้เอกชนเช่าที่ดินสร้างโครงการ เจ.เจ.เซ็นเตอร์ ร้อง‘อิศรา’ หลังส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.สอบ 5 ปี ยื่นหนังสือติดตาม 13 ครั้งได้แต่ความเงียบ ก่อนหน้าดีเอสไอระบุ ไม่ทำตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ วอนขอความเป็นธรรมมานานหลายปี
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2562 ที่ผ่านมา นางจารุวรรณ จาติเสถียร และกลุ่มผู้เสียหาย กรณีโครงการพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยได้เข้าร้องเรียนต่อสำนักข่าวอิศราว่า ตามที่กลุ่มผู้เสียหายได้ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำความผิดต่อเจ้าพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการกับเจ้าพนักงานของรัฐหรือบุคคลอื่นใดในข้อหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนกรณีโครงการพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (โครงการอินสแควร์ จตุจักร) และพนักงานสอบสวนได้แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) 2 คดีคือคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนกรณี โครงการพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย(โครงการอินสแควร์ จตุจักร) และคดี โครงการพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย(โครงการอินสแควร์ จตุจักร) และร้องเรียนต่อคณะกรรม ป.ป.ช.โดยตรงเมื่อปี 2557 จนถึงขณะนี้ไม่มีความคืบหน้าในการสอบสวนของ ป.ป.ช. จึงเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
“กลุ่มผู้เสียหายในคดีดังกล่าวได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษมาเป็นเวลานาน โดยมีการยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมและให้มีการตรวจสอบการทุจริตกับทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปลายปี 2557 แต่ก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม และในคดีดังกล่าวกลุ่มผู้เสียหายได้ร้องทุกข์กล่าวโทษผู้กระทำความผิดต่อเจ้าพนักงานสอบสวนไว้ด้วย โดยกองบัญชาการสอบสวนกลางได้รับเรื่องดังกล่าวและแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อการดำเนินการทางคดี พนักงานสอบสวนมีการแสวงหาข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานอย่างเต็มความสามารถมาโดยตลอดจนได้ตัวผู้กระทำความผิด รวมทั้งการกระทำความความผิดทางคดีมีความเกี่ยวเนื่องกับบุคคลอื่นจำนวนมากในภาคเอกชน ผู้กระทำความผิดมีการกระทำความผิดจนเกิดความเสียหายมากมายต่อภาครัฐ และประชาชนผู้สุจริตได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเพียงแสงความหวังเล็กๆว่าจะเกิดความเป็นธรรมและผู้กระทำความผิดจะได้รับการลงโทษตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่าเมื่อเรื่องต้องส่งมาที่ คณะกรรมการป.ป.ช. ก็เข้าสู่ความมืดที่เรื่องจะถูกเงียบหายไปอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมและผู้กระทำความผิดไม่ได้รับโทษ”หนังสือร้องเรียนระบุ
และระบุอีกว่า เรื่องดังกล่าวมีการยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งแต่ปลายปี 2557 มีการติดตามความคืบหน้าต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. รวม 13 ครั้งทุกครั้งจะมีการเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบใหม่ไม่น้อยกว่า 4 คน และแจ้งว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบหาข้อเท็จจริงไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ซึ่งคดีทั้ง 2 เรื่องมีความเกี่ยวข้อง และคดีแรกเป็นคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนเป็นคดีหลักเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ และความสะดวกรวดเร็วในการดำเนินการทางคดีที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องของพนักงานสอบสวน กลุ่มผู้เสียหายขอคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้โปรดพิจารณามอบหมายให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการต่อโดยส่งเรื่องคืนพนักงานสอบสวนภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องจากพนักงานสอบสวน แต่เรื่องเงียบอย่างมาก โครงการดังกล่าวมีมูลค่าเกินกว่าพันล้านบาทจะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 แต่มีการเพิกเฉยไม่มีการดำเนินการให้ถูกต้อง
“กลุ่มผู้เสียหายขอความเมตตากรุณาจากท่านในฐานะสื่อมวลชนที่เป็นที่พึ่งของประชาชนตาดำๆที่ต่อสู้เรียกร้องขอความเป็นธรรมมาด้วยความตั้งใจจริงที่จะให้เกิดความเป็นธรรมและผู้กระทำความผิดต้องได้รับโทษไม่ถูกเก็บเงียบไปบนความเสียหายของภาครัฐและประชาชนผู้สุจริตในการตีแผ่ความจริงให้ปรากฏและติดตามการทำงานของหน่วยงานรัฐที่มีความผิดปกติ ท่านคือความหวังเดียวที่จะทำให้เรื่องนี้เกิดความเป็นธรรม”หนังสือร้องเรียนระบุ
หนังสือระบุอีกว่า โครงการพัฒนาที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท เจ เจ เซ็นเตอร์ จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ดีดี มอลล์ จำกัด) ซึ่งเป็นผู้ได้รับสิทธิการเช่าที่ดินของการรถไฟฯ ตามสัญญา 2 ฉบับ คือ 1) สัญญาเช่าที่ดินเพื่อปลูกสร้างอาคาร เลขที่ 902520965 ลงวันที่ 24 ส.ค.2552 อายุสัญญา 4 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2552 ถึงวันที่31 ส.ค.2556 และ 2 ) สัญญาเช่าที่ดินเพื่อดำเนินการจัดประโยชน์ เลขที่ 907520966 ลงวันที่ 24 ส.ค.2552 อายุสัญญาเช่า 30 ปี ตั้งแต่ 1 ก.ย.2556 -31 ส.ค.2586
ต่อมาประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ระหว่างดำเนินการก่อสร้างอาคาร บริษัทฯ ได้ประกาศเสนอขายสิทธิการเช่าพื้นที่อาคารตึก 8 ชั้น (ให้เช่าช่วง)ให้ประชาชนทั่วไป ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าบริษัทฯ ได้รับสิทธิการเช่าดังกล่าวจากการรถไฟฯ แล้ว จึงได้เข้าทำสัญญาตอบแทนสิทธิการเช่าและชำระเงินให้แก่บริษัทฯ และบริษัทฯ ได้ดำเนินการขายพื้นที่โดยตรงและผ่านตัวแทนซึ่งเป็นนิติบุคคลหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ พบว่า มีการขายพื้นที่ซ้ำซ้อนกันเป็นจำนวนมากผ่านตัวแทนดังกล่าว และบริษัทฯ ไม่สามารถจดทะเบียนโอนสิทธิการเช่าให้แก่ผู้ซื้อได้ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ก่อนหน้านี้มีผู้ร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ตรวจสอบการทำสัญญาเช่าที่ดินรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)ของ บริษัท เจ.เจ.เซ็นเตอร์ จำกัด (ต่อมา บริษัท อินสแควร์ ช้อปปิ้ง มอลล์ และ บริษัท อินสแควร์ จำกัด) และนำไปกู้เงินจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยกว่า 1,600 ล้านบาท (อ่านประกอบ: ดีเอสไอลุยสอบปมเช่าที่ดินรถไฟฯกู้แบงก์อิสลาม 1.6 พันล.‘บ.เจ.เจ.เซ็นเตอร์’)
ต่อมา วันที่ 5 ม.ค.59 พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 2 ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ทำหนังสือแจ้งผู้ร้องเรียน ว่า การจากการสืบสวนปรากฎพยานหลักฐานน่าเชื่อว่าการดำเนินโครงการดังกล่าว ในขั้นตอนการบริหารสัญญาของการรถไฟแห่งประเทศไทย มีลักษณะการกระทำอาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต ) อย่างไรก็ตาม ในชั้นนี้กรณีดังกล่าวยังมิใช่คดีความผิดทางอาญาที่เป็นคดีพิเศษที่จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 เป็นกรณีที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงยุติเรื่อง และส่งเรื่องให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป ตั้งแต่ต้นปี 58 และผู้ร้องเรียนได้ติดตามการดำเนินการของ ป.ป.ช.หลายครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ไม่มีความคืบหน้า
เมื่อวันที่ 10 ก.ค.58 กลุ่มผู้ได้รับความเสียหาย ได้ยื่นหนังสือ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผ่านศูนย์บริการประชาชน 1111 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ตรวจสอบการทำสัญญาให้เอกชนเช่าที่ดินโครงการดังกล่าวด้วย
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
เจาะ บ.เจ.เจ.ฯ-อินสแควร์ ผู้เช่าที่ดิน‘การรถไฟฯ’เปลี่ยนถ่าย‘ผู้ถือหุ้น’13 รอบ
ศาลสั่งอนุญาตแบงก์อิสลามฯถอนฟ้อง บ.เจ.เจ.ฯคดีเงินกู้‘อินสแควร์’ 1,800 ล้าน
แบงก์อิสลามฯยื่นถอนฟ้อง‘อินสแควร์-จุไรรัตน์’พวก คดีผิดนัดชำระหนี้ 1,800 ล.
พฤติกรรม‘บ.เจ.เจ.ฯ-อินสแควร์’คดีเงินกู้ 1,800 ล. ก่อนแบงก์อิสลามฯถอนฟ้อง
‘โสภา’ผู้ถือหุ้นรายใหม่ บ.ดีดีมอลล์แจงไม่เกี่ยวข้องผู้บริหารเดิม-ตั้งใจกอบกู้‘อินสแควร์’
บ.เดวาฯผู้ค้ำ 1,700 ล.‘อินสแควร์’ถูกสรรพากรสอบ 19 ฉบับ ระงับ‘เลิกกิจการ’
โดนแล้ว!สรรพากรบี้ภาษี บมจ.สแกนฯ บ.แม่ ‘อินสแควร์’ระงับเลิกกิจการ-สาวถึงผู้ถือหุ้น
บ.เกาะบริติชเวอร์จิน โผล่ถือหุ้นกลุ่ม‘จุไรรัตน์-อินสแควร์’ โยงใยหลายชั้น
โดนแล้ว!สรรพากรบี้ภาษี บมจ.สแกนฯ บ.แม่ ‘อินสแควร์’ระงับเลิกกิจการ-สาวถึงผู้ถือหุ้น
ฉบับเต็ม!รายงานผู้สอบบัญชี‘บ.เจ.เจ.ฯ-ดีดีมอลล์’เงื่อนปมปล่อยกู้‘จุไรรัตน์’190.9 ล.
‘เจ.เจ.เซ็นเตอร์’ปล่อยกู้‘จุไรรัตน์’190.9ล. ก่อนให้ค้ำประกัน‘แบงก์อิสลาม’1,700ล.
เผยโฉม บ.ไดมอนด์แกรนด์ ทุน 500 ล. ผู้ซื้อหุ้น‘อิน สแควร์’ เป็นห้องโถง
พบหุ้นใหญ่‘ไดมอนด์แกรนด์’หอบเงินสด 100 ล. ตั้งบริษัท ก่อนซื้อ‘อินสแควร์’ 17 วัน
บ.ดีดีมอลล์-อินสแควร์ เพิ่มทุนปริศนา 500 ล. หลังกู้ 1,700 ล้าน‘แบงก์อิสลาม’
ยื่นนายกฯ-3 รมว.สอบปม บ.ดีดีมอลล์ เช่าที่ดินการรถไฟฯ-กู้ ธ.อิสลาม 1,700 ล
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/