จุรินทร์ นำขับเคลื่อน 9 มาตรการ ช่วยผลไม้ สู้ภัย Covid19 จับมือทุกภาคส่วนเดินหน้าเชิงรุกเศรษฐกิจในสถานการณ์วิกฤติ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานการประชุม ‘การขับเคลื่อนมาตรการช่วยผลไม้ไทย สู้ภัย COVID-19’ ที่ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น4 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการร่วมมือร่วมใจกันทั้งในส่วนของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนในทุกภาคส่วนทั้งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และภาคเอกชนจากระบบการค้าส่ง ค้าปลีก แพลตฟอร์ม สายการบิน และสมาคม โลจิสติกส์และ ธ.ก.ส. และอื่นๆที่เกี่ยวข้องทั้งล้งและเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้
ตัวเลขในภาพรวมในฤดูการผลิตที่จะถึงนี้มีการคาดการณ์ว่าผักผลไม้จะมีผลผลิตรวมทุกชนิดประมาณ 3,000,000 ตัน ซึ่งคาดว่าเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 จากปีก่อนและจะเริ่มออกมากตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป เพราะฉะนั้นการช่วยกันกำหนดมาตรการ เพื่อช่วยเรื่องราคาและระบายผลไม้ออกสู่ตลาดจึงเกิดขึ้น โดยมีการลงนาม MOU ร่วมกันของหน่วยงานต่างๆกับ 40 องค์กร ที่มาร่วมกัน
มาตรการที่หนึ่ง การเข้าไปรับรองสวนผลไม้ GAP เพื่อให้เกษตรกรนั้นสามารถที่จะขายผลไม้ เพื่อนำไปสู่การส่งออกขายในตลาดในประเทศได้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรโดยกรมวิชาการเกษตรเป็นผู้ไปตรวจสวนและให้การรับรอง นายเฉลิมชัยอนุมัติเงินเพิ่มอีกสามล้านบาทเพื่อเร่งการดำเนินการแล้วและการเก็บเกี่ยวผลไม้ มีการให้เยาวชนเข้าไปช่วยเสริมในเรื่องของแรงงาน
มาตรการที่สอง ตั้งศูนย์รวบรวมผลไม้ที่จันทบุรี
มาตรการที่สาม ระบบการกระจายผลไม้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับในประเทศโดยในระบบการกระจายประกอบด้วยระบบการค่าส่ง สมาคมตลาดกลางซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 20 ตลาดทั่วทั้งประเทศ โดยมีตลาดไทเป็นตลาดใหญ่ที่สุด โดยจะช่วยดูดซับผลผลิตรวมของผลไม้ประมาณร้อยละ 60 ถึง 70 และมีโมเดิร์นเทรดต่างๆและตลาดครับหลักทั่วประเทศจะรับให้ความร่วมมือไปกระจายสู่ผู้บริโภคโดยตรง
สำหรับสายการบินมีสายการบินทั้งหมด 6 สายการบิน แอร์เอเชีย ไทยสมายล์ บางกอกแอร์เวย์ นกแอร์ ไลออนแอร์ และการบินไทย ที่จะให้บริการผู้โดยสารสามารถหิ้วคนละไม้ขึ้นเครื่องน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลโดยไม่คิดเงินและจะมีกล่องของกรมการค้าให้บริการอยู่ที่สายการบินทุกสนามบิน
มาตรการที่สี่การกระจายผลไม้ด้วยระบบออนไลน์ซึ่งมีแพลตฟอร์มต่างๆให้ความร่วมมือเช่นไทย Post Mart ของไปรษณีย์ไทย ให้บริการในการรับออเดอร์ซื้อผลไม้และไปรษณีย์ไทยจะช่วยกระจายผลไม้ส่งไปยังผู้บริโภคโดยตรง ลาซาด้า ช็อปปี้ จตุจักรมอล์ ไทยเทรดดอทคอม เป็นต้น
มาตรการที่ห้าในเรื่อง การส่งเสริมการขายในประเทศมีการทำโปรโมชั่น กรมการค้าภายในร่วมกับภาคเอกชน และศูนย์การค้าต่างๆจะเทศกาลผลไม้ในหลายพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาค
เรื่องใหญ่นอกจากระบบการกระจายผลไม้ คือเรื่องของการส่งออก หรือตลาดต่างประเทศ พบการตรวจสอบคุณภาพโดยเฉพาะไปยังตลาดจีนถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของเราในขณะนี้ต้องผ่านล้งซึ่งจะมีความซ้ำซ้อนกันอยู่ จากนี้ไปเตรียมการเรื่องความร่วมมือระหว่างเซ็นทรัลและของไทยและ CCIT ของจีนที่จะจับมือการลงนามร่วมกันว่า ถ้าผ่านระดับประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ต้องตรวจซ้ำอีก จะช่วยให้คล่องตัวยิ่งขึ้นและการกระจายไปยังตลาดต่างประเทศนั้นจะมีการจัดคาราวานผลไม้ไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่ม CLMMV ที่รวมมาเลเซียด้วย
รวมถึงการจัดโรดโชว์ เพื่อส่งเสริมการขายเช่น เทศกาลผลไม้ในต่างประเทศ และการจับคู่ธุรกิจให้ผู้ส่งออกของเราพบผู้นำเข้าจากต่างประเทศ มีการจัด food festival และกิจกรรมส่งเสริมการบริโภคเพื่อส่งเสริมการขายไปยังต่างประเทศและตลาดอินโดนีเซียที่ประสบปัญหาการส่งออกในขณะนี้วันพรุ่งนี้อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ พบกับทูตของประเทศอินโดนีเซียประจำประเทศไทยเพื่อให้ไทยสามารถส่งออกไปอินโดนีเซียได้ ขณะนี้ยังไม่อำนวยความสะดวกให้เราสามารถส่งไปขายที่อินโดนีเซียได้
มาตรการที่หก เรื่องสภาพคล่องมี 3 มาตรการใหญ่
1.ในการช่วยผู้ส่งออกชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 เป็นเวลาหกเดือน เพื่อช่วยลดต้นทุนและส่งเสริมให้มีการส่งออกมากยิ่งขึ้น
2.สหกรณ์การเกษตรที่รวบรวมผลไม้ในประเทศ จะช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 เป็นเวลา 10 เดือน มีวงเงินทั้งหมด 1000 ล้านบาท มีงบของกองทุนรวมเรียบร้อยแล้ว
เพื่อให้สหกรณ์ช่วยรวบรวมผลไม้ไปกระจายได้ดียิ่งขึ้น
3.สมาคมตลาดกลาง สมาคมผู้ค้าส่งมีการบริการให้กรมการค้าภายใน ช่วยสนับสนุนในการส่งออกต่อไปให้คล่องตัวยิ่งขึ้นในเรื่องของการช่วยกระจายผลไม้ไปยังตลาดในประเทศ
มาตรการที่เจ็ด เรื่องของล้งที่รับซื้อผลไม้ประเด็นปัญหาใหญ่คือการกด ราคารับซื้อหากมีกรณี เช่นนี้ เกิดขึ้นจะใช้กฎหมายเรื่องการแข่งขันทางการค้าเข้ามาดำเนินการและการรับซื้อผลไม้ ล้งจะต้องติดป้ายแสดงราคาว่าชัดเจนเป็นธรรม การทำเกษตรพันธสัญญาต้องเป็นไปตามมาตรฐานและเคร่งครัดทั้งผู้ซื้อและผู้ขายระหว่างเกษตรกรและล้ง เพื่อให้กลไกตลาดของระบบ ผลไม้เดินทางไปได้ด้วยความเป็นธรรม
มาตรการที่แปด ในเรื่องของระบบโลจิสติกส์ ขอความร่วมมือให้การบินไทยเข้ามาช่วยเสริมในเรื่องของคาร์โก้ เพื่อให้การส่งออกผ่านระบบเครื่องบินไปยังต่างประเทศสะดวกคล่องตัวและเพิ่มพื้นที่ในการส่งออกผลไม้มากขึ้น และระบบคมนาคมทางบกเรื่องรถบรรทุก 10 ล้อสมาคมแจ้งว่าพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการที่จะดำเนินการกระจายสินค้าและเข้ามามีบทบาทสำคัญในระบบค้าส่งที่เผื่อมาจากศูนย์ไปยังตลาดใหญ่ 20 แห่ง
มาตรการที่เก้า กระทรวงเกษตรจะจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังผลกระทบ จากสินค้าการเกษตรที่เกิดจาก COVID-19
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/