‘สภากทม.’ รับหลักการตามที่ ‘ชัชชาติ’ เสนอของบเพิ่มเติม 9,999 ล้านบาท ใช้ในภารกิจ 6 ด้าน ตั้งกรรมการวิสามัญพิจารณาใน 45 วัน หรือ ภายในวันที่ 5 เม.ย.66
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.) เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2566 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมการประชุม ณ สภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2566
@ชัชชาติ ชงของบเพิ่มอีก 9,999 ล้านบาท
ในการนี้ ผู้ว่ากทม.เสนอญัตติร่างข้อบัญญัติกทม. เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 พ.ศ. ... โดยจ่ายขาดจากเงินสะสมของกทม.
ทั้งนี้ ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง เงินสะสม พ.ศ.2562 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2564 ข้อ 12 กำหนดให้กรณีที่ กทม. มีความจำเป็นจะต้องจ่ายขาดเงินสะสมให้กระทำได้ในกรณีที่เป็นกิจการที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของ กทม. และที่มีความจำเป็นหรือเร่งด่วนเกี่ยวกับการบริการชุมชนและสังคม หรือเป็นกิจการซึ่งแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนโดยตรง หรือเป็นกิจการที่เป็นการเพิ่มพูนรายได้ให้ กทม. และต้องเป็นไปตามแผนพัฒนากทม. หรือตามที่มีกฎหมายกำหนด และให้คำนึงถึงฐานะเงินสะสมของ กทม.ด้วย อย่างไรก็ดี กทม.ต้องดำเนินการก่อหนี้ผูกพันและเบิกจ่ายให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาไม่เกินปีงบประมาณถัดไป หากไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดให้ตกเป็นเงินสะสม
“กรุงเทพมหานครมีความจำเป็นเร่งด่วนในการบริการชุมชนและสังคม และให้ความสำคัญของการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในการดำเนินการซ่อม สร้าง ช่วยเหลือ ฟื้นฟูและเยียวยา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และจากการเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร” ผู้ว่าฯกทม. กล่าว
โดยสถานะการเงินการคลังของ กทม. ณ วันที่ 27 ม.ค.66 มีเงินฝากธนาคาร 91,685.62 ล้านบาทโดยเป็นเงินสะสม จำนวน 56,270.34 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61.37 % ภาระหนี้ตามโครงการต่อเนื่องที่ได้ก่อหนี้ผูกพันแล้ว ณ วันที่ 30 ก.ย.65 จำนวน 213 โครงการ เป็นจำนวนเงิน 76,406.44 ล้านบาท ฐานะเงินสะสมที่ปลอดภาระผูกพันประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ณ วันที่ 27 ม.ค.66 จำนวน 36,843.65 ล้านบาท
ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 พ.ศ. .... ขอวงเงินงบประมาณ 9,999.31 ล้านบาท จำแนกตามลักษณะงาน ประกอบด้วย ด้านความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อย จำนวน 61.44 ล้านบาท (0.61%) ด้านพัฒนาสังคมและชุมชนเมือง จำนวน 136.10 ล้านบาท (1.36%) ด้านสาธารณสุข จำนวน 328.81 ล้านบาท (3.29%) ด้านเมืองและการพัฒนาเมือง จำนวน 2,619.62 ล้านบาท (26.20%) การจัดบริการของสำนักงานเขต จำนวน 2,907.67 ล้านบาท (29.08%) และด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 3,945.67 ล้านบาท (-39.46%)
จากนั้นสมาชิกสภากทม.ได้ร่วมอภิปรายอย่างกว้างขวาง เช่น
นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง กล่าวว่า ขอขอบคุณฝ่ายบริหารที่เห็นความจำเป็น และเห็นความสำคัญของการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งงบกลางคืองบที่ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก ในส่วนของร่างงบประมาณสำนักการระบายน้ำ ถือว่ามีประโยชน์เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ตะวันออก
แต่ที่จะติคือ คือเรื่องประตูระบายน้ำคลองสามเสน-คลองบางซื่อ พบว่าไม่มีการเสนอเข้ามาซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จึงอยากสอบถามว่าเป็นเพราะอะไร ในครั้งประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญก็ได้สอบถามไปแล้วแต่ยังไม่มีการบรรจุเพื่อขอรับงบประมาณแต่อย่างใด ซึ่ง 3-4 เดือนหน้าจะเข้าสู่ฤดูฝนอีกครั้ง ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคงไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อน
“สถานีสูบน้ำสามเสนและสถานีสูบน้ำบางซื่อ มีความจำเป็นเพราะฝนตกน้ำท่วม และผู้สื่อข่าวให้ความสนใจ เพราะการสูบน้ำการดึงน้ำไม่มีประสิทธิภาพ ทั้งที่ได้รับโอนจากกรมชลประทานมากว่า 30 ปี ทั้ง 2 สถานีมีการสูบน้ำเพียง 30% ทั้งที่เป็นสถานีสูบน้ำที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร อีกทั้งเครื่องเก็บขยะที่สถานีสูบน้ำสามเสนใช้งานไม่ได้เลย ส่วนเครื่องเก็บขยะที่สถานีสูบน้ำบางซื่อ ใช้งานได้ 2 เครื่อง จาก 17 เครื่อง นอกจากนี้ สถานีสูบน้ำทั้ง 2 แห่ง ไม่มีปั๊มน้ำสำรองหากไฟฟ้าดับ” ส.ก.สุทธิชัย กล่าว
สำหรับงบประมาณของสำนักการโยธาพบว่ามีการตั้งงบประมาณเพื่อเวนคืนที่ดินหลายจุด ซึ่งในพื้นที่เขตทุ่งครุของส.ก.กิตติพงศ์ รวยฟูพันธุ์ มีปัญหาการจราจรติดขัดหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณถนนประชาอุทิศ 9 เขตทุ่งครุ ที่ต้องเร่งดำเนินการเนื่องจากมีสถาบันการศึกษาหลายแห่ง มีประชาชนอาศัยหนาแน่น แต่ขนาดถนนเท่าเดิม จึงขอให้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อเวนคืนที่ดินพร้อมรองรับการขยายถนนต่อไปในอนาคตด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าที่ผ่านมาการของบประมาณของสำนักการโยธาเพื่อปรับปรุงฟุตบาททางเท้าและผิวจราจรมีจำนวนมากหลายแห่ง หน่วยงานที่ออกแบบควรกำหนดรูปแบบมาตรฐาน ให้สวยงาม และมีความปลอดภัยสำหรับประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา รวมทั้งตรวจสอบภายหลังการดำเนินการและควบคุมงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งควรติดตามเพื่อให้งบประมาณที่ใช้ไปคุ้มค่าและเกิดประโยชน์
ส.ก.สุทธิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ฝ่ายบริหารชี้แจงข้อเท็จจริงความล่าช้าโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตดุสิต เขตพระนคร และโครงการเรือไฟฟ้าของสำนักการจราจรและขนส่งซึ่งได้หยุดให้บริการมานานกว่า 3 เดือนแล้ว และการขอยืมรถดูดเลนจากสำนักการระบายน้ำเพื่อแก้ปัญหาท่อระบายน้ำอุดตันในพื้นที่เขตจอมทอง ซึ่งหากเขตจอมทองขอจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อรถดูดเลนในครั้งต่อไปขอให้ฝ่ายบริหารพิจารณาด้วย เนื่องจากมีความสำคัญและจำเป็นมาก
สุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง
@กังขาเพิ่งใช้งบไป 10% ทำไมขอเบิกเพิ่ม
นายพีรพล กนกวลัย ส.ก.พญาไท กล่าวว่า งบประมาณปี66 ที่สภากทม.ได้พิจารณาเห็นชอบไปแล้ว พบว่ามีการใช้ไปเพียง 10% แต่ในวันนี้ฝ่ายบริหารจะมาของบประมาณเพิ่มเติม จึงเกรงว่าจะเป็นการซ้ำซ้อนกับงบประจำปีเดิมหรือไม่ และเหตุใดไม่ขับเคลื่อนการใช้งบประมาณประจำปีที่มีอยู่ โดยเฉพาะสำนักการโยธามีการของบประมาณเพื่อปรับปรุงทางเท้าจำนวนมาก แต่กรุงเทพมหานครไม่เคยมีมาตรฐานทางเท้าที่เหมือนกันเลย และต้องซ่อมแซมทุก 2-3 ปี รวมถึงการเว้นระยะทางเท้าบริเวณหน้าบ้านเรือนประชาชนทำให้ประชาชนที่ต้องเดินผ่านต้องเดินขึ้น-ลงทางเท้า ซึ่งควรทำเป็นเนินราบเพื่อให้เจ้าของบ้านขับรถขึ้นไปแทน เพื่อให้ผู้ที่เดินเท้าได้รับความสะดวกเช่นเดียวกับผู้ที่ขับรถ สำหรับข้อสังเกตเพื่อทำถนนเส้นใหม่ ขอให้มีการออกแบบทางเท้า ท่อระบายน้ำ ท่อร้อยสายลงดิน ไปพร้อมกัน เพื่อไม่ต้องขุดเจาะหลายครั้งและก่อให้เกิดความไม่สวยงาม ซึ่งการใช้งบประมาณต้องให้ได้ประโยชน์และสวยงามด้วย
“กรุงเทพฯต้องเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ เพราะประชาชนเป็นล้านคนได้เชื่อมั่นและมอบคะแนนเสียงให้ และการใช้งบประมาณต้องครอบคลุมกระจายทุกหน่วยงานให้เท่าเทียมกัน เนื่องจากประชาชนคาดหวังจากท่านมาก การเปลี่ยนแปลงนี้เชื่อว่าจะทำได้” ส.ก.พีรพล
พีรพล กนกวลัย ส.ก.พญาไท
@ตั้งกรรมการวิสามัญพิจารณา 45 วัน
โดยหลังจาก ส.ก.อภิปรายแล้ว ที่ประชุมสภามีมติเห็นชอบรับหลักการแห่งร่างข้อบัญญัติ กรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 พ.ศ. … และให้แต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ 35 ท่าน กำหนดการแปรญัตติภายใน 7 วันทำการ และจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน (นับจากวันที่สภาฯรับร่างข้อบัญญัติฯ เป็นครั้งแรก) คือภายในวันที่ 5 เม.ย.66
อ่านประกอบ
‘ชัชชาติ’ ชงของบปี 66 เพิ่ม 1 หมื่นล. เข้าสภากทม. 20 ก.พ.นี้