เรือดำน้ำยังไม่จบ กมธ.งบประมาณฯ เลื่อนประชุมเป็น 28 ส.ค. ระบุรอ ทร.เข้าชี้แจงก่อน ด้าน 'ยุทธพงศ์' ยังเดินหน้าจี้ให้ลงมติทันที ถามรัฐบาลยื้อเวลามีใบสั่งหรือไม่ ห่วง ปชป. เปลี่ยนใจไม่หนุนชะลอโครงการ
----------------------------------------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 สภาผู้แทนราษฎร มีการประชุม ครั้งที่ 35/2563 โดยวันนี้อนุกรรมาธิการฯ 8 คณะ จะรายงานผลการพิจารณาต่อ กมธ. และลงมติอนุมัติงบประมาณในแต่ละด้าน ซึ่งความสนใจของสังคมอยู่ที่การพิจารณาวาระที่ คณะอนุ กมธ. ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ที่จะเสนอให้พิจารณาผ่านงบประมาณของกองทัพเรือ เพื่อจัดซื้อเรือดำน้ำ จำนวน 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาทจากประเทศจีน
โดยเมื่อเวลา 16.30 น. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร กมธ.งบประมาณ และอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ กล่าวว่า ตั้งแต่มีการประชุมเมื่อเวลา 09.00 น. ที่ประชุมได้เลื่อนการพิจารณาวาระของอนุฯกมธ.คุรุภัณฑ์ฯ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อเรือดำน้ำอยู่หลายครั้ง โดยก่อนการประชุมแจ้งว่าอนุ กมธ.ฯ ครุภัณฑ์ฯ อยู่ในวาระการประชุมลำดับที่ 2 ต่อมาขอเลื่อนเป็นเวลา 13.00 น. และขอเลื่อนอีกรอบเป็น 15.00 น. เสมือนว่ามีปัญหาในการพิจารณา งบประมาณในส่วนนี้ ยืนยันที่จะให้มีการลงมติในวันนี้ ถ้าจะมีการเลื่อนก็ต้องผ่านมติที่ประชุม ไม่ใช่ว่าจะใช้อำนาจของประธานหรือผู้ใดมาขอเลื่อนได้ เนื่องจากการพิจารณาเรือดำน้ำอยู่ในวาระการประชุม
“มีใบสั่งหรือเปล่า ทำให้ตกลงกันไม่ได้ มีการดึงเวลาแล้วอยากเลื่อนการพิจารณางบประมาณในเรื่องเรือดำน้ำออกไป ในส่วนที่จะเชิญกองทัพเรือมาชี้แจงเพิ่ม ไม่มีเหตุผลที่จะชี้แจงอะไรอีก เพราะจบไปตั้งแต่ชั้น อนุฯ กมธ.แล้ว ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว มีรายงานแล้วในส่วนของ กมธ.งบประมาณฯ แค่ลงมติว่าจะพิจารณาจะซื้อหรือไม่ เพราะขั้นตอนแรกอนุฯ ผ่านการซื้อไปแล้ว ส่วนที่ได้ข่าวว่าจะมีการเลื่อนวาระนี้ออกไป 2-3 วันนั้น จะส่งผลต่อท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ก่อนหน้านี้ยืนยันจะคว่ำการจัดซื้อเรือดำน้ำหรือไม่” นายยุทธพงศ์ กล่าว
ต่อมา เวลา 17.40 น. นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษก กมธ.งบประมาณฯ กล่าวว่า กมธ.บางส่วนได้หารือกันว่า จะมีการเลื่อนพิจารณาออกไปอีก 1-2 วัน คาดว่าจะเป็นวันศุกร์ที่ 28 ส.ค.นี้ เนื่องจากต้องให้กองทัพเรือเข้ามาชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม ถึงความจำเป็นในการจัดซื้อเรือดำน้ำ เพื่อเป็นข้อมูลการตัดสินใจให้ กมธ. เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ระหว่างเรื่องของความจำเป็นด้านเศรษฐกิจและความจำเป็นด้านความมั่นคงใกล้เคียงกันมาก
ขณะที่เวลา 18.30 น. นายวราเทพ รัตนากร รองประธาน กมธ.งบประมาณฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้พักการประชุมเป็นเวลา 1 ชม. ทำให้ยังไม่ถึงวาระการพิจารณาอนุฯกมธ.ครุภัณฑ์ฯ ที่มีเรื่องของการจัดซื้อเรือดำน้ำรวมอยู่ด้วย จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าวาระการพิจารณาดังกล่าวจะถูกเลื่อนออกไปหรือไม่ เนื่องจากต้องรอให้เข้าสู่ระเบียบวาระและลงมติเลื่อนเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม การประชุม กมธ.งบประมาณฯ วันนี้เริ่มในเวลา 9.00 น.โดยช่วงก่อนเริ่มการประชุมช่วงบ่าย นายสันติ พร้อมพัฒน์ ประธานกมธ.งบประมาณฯ กล่าวถึงวาระการประชุมพิจารณาว่า กรณีงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 วงเงิน 22,500 บาท กมธ.งบประมาณฯ คงต้องเลื่อนการพิจารณาไป 2-3 วัน เพราะต้องให้กองทัพเรือชี้แจงว่าขั้นตอนต่าง ๆ ว่าขั้นตอนการจัดซื้อเรือดำน้ำได้ไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว เนื่องจากกรณีดังกล่าวทางกองทัพเรือได้การอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2563 จากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตราเป็นกฎหมายไปแล้ว
“ถ้าไม่ดำเนินการจัดซื้อจะขัดกฎหมาย ขัดรัฐธรรมนูญอย่างไร ส่วนกระแสสังคม กมธ.คณะใหญ่น้อมรับความห่วงใยต้องให้ทุกภาคส่วนคุยกัน คาดว่าใช้เวลา 2-3 วัน เพราะ กมธ.หลายคนมองว่าจำเป็น เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านก็มีเรือดำน้ำ เช่นอินโดนีเซีย แม้แต่พม่า เขามีแล้ว 1 ลำกำลังสั่งต้อ 4 ลำ ดังนั้น กมธ.งบประมาณฯทุกคนเห็นด้วย” นายสันติ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามจะมีมีการลงมติในเรื้องการจัดซื้อเรือดำน้ำในที่ประชุมวันนี้หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า อยู่ที่ประชุมจะหารือกันว่ามีทางออกที่ดีที่สุดหรือมีข้อจำกัดอะไรหรือไม่ ถ้าทุกคนเห็นตรงกันก็เป็นไปตามนั้น
@'สันติ'ลั่น ก่อนประชุม ดูความเหมาะสมซื้อ'เรือดำน้ำ'หรือไม่
ก่อนการประชุมในช่วงเช้า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธาน กมธ.งบประมาณฯ กล่าวถึงการลงมติพิจารณางบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำในวันนี้ว่า ต้องฟังเหตุและผลของอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ก่อน ยืนยันว่า กมธ.ชุดใหญ่ จะดูทุกมิติในการใช้งบประมาณ ต้องดูความเหมาะสมที่ครอบคลุมทั้งภาวะเศรษฐกิจ วิกฤตโควิด ปากท้องประชาชน รวมไปถึงความมั่นคงที่มีความจำเป็นไม่น้อยไปกว่าปัญหาปากท้อง เพราะจะช่วยในการป้องกันภัย โดยเฉพาะน่านน้ำของไทยที่มีทั้งอ่าวไทยและอันดามัน ประเทศเพื่อนบ้านก็มีความแข็งแกร่ง ดังนั้นการพิจารณาเรื่องเรือดำน้ำ จึงต้องพิจารณาอย่างเหมาะสมและสามารถชี้แจงต่อประชาชนได้ กมธ.ของสภาฯ จะพิจารณาด้วยการคํานึงถึงทุกภาคส่วน และยึดประโยชน์บ้านเมืองเป็นสำคัญ
@'ยุทธพงศ์'เตรียมชงปรับลดแผนซื้อเรือดำน้ำ
ด้าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.งบประมาณฯ และ อนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯ กล่าวว่า ตนจะยื่นเรื่องให้มีการพิจารณาตัดงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ รวม 22,500 ล้าน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการพิจารณาผ่านอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ไปแล้วก็ตาม
“คงต้องดูใจว่าในวันนี้ กมธ.งบประมาณฯ จะโหวตอย่างไร แต่ทราบข่าวมาว่าพรรคประชาธิปัตย์จะโหวตให้มีการทบทวนปรับลดจัดซื้อเรือดำน้ำ ต้องเรียนว่า กมธ.งบประมาณฯ พิจารณาในวันนี้ส่วนใหญ่ก็เป็น ส.ส. มาจากประชาชน ถ้ากลับไปถามชาวบ้านคงไม่มีใครอยากได้ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากขาดแคลนงบประมาณเช่นนี้ อีกทั้งช่วงอาทิตย์ที่แล้วรัฐบาลพึ่งกู้เงินมาอีก 214,000 ล้านบาท ” นายยุทธพงศ์ กล่าว
@มติ ปชป.เห็นควรชะลอโครงการ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า พรรคมีมติให้ชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำ และเตรียมลงมติไม่เห็นด้วยในที่ประชุม กมธ.งบประมาณฯวันนี้ โดย กมธ.สัดส่วนของพรรค 7 รายจะไปหารือในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเสนอให้รัฐบาลและกระทรวงกลาโหมได้ชะลอเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำออกไปก่อน หากยังไม่ชะลอเรื่องดังกล่าว พรรคจะลงมติ ไม่สนับสนุนงบประมาณซื้อเรือดำน้ำในชั้นพิจารณา
ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึงกรณีการพิจารณางบซื้อเรือดำน้ำว่า ไม่ขอวิจารณ์กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่โหวตผ่านงบประมาณในการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ เพราะเป็นเรื่องของกมธ.งบประมาณฯ
@'ชวน'ย้ำอย่าโยงเรือดำน้ำ-เครื่องบิน F18 เหตุคนละยุค
ส่วนกรณีที่หยิบยกเรื่องเรือดำน้ำไปเปรียบเทียบกับกรณีเมื่อปี 2541 สมัยที่นายชวนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการยกเลิกการจัดซื้อเครื่องบิน F18 กล่าวว่า ต้องไปศึกษาข้อมูลแต่ละเรื่อง เพราะสมัยนั้นเป็นข้อมูลที่ต่างกัน ซึ่งกรณีนั้นได้ขอให้ประเทศสหรัฐอเมริกาซื้อแทนเรา และสหรัฐขอให้เราเป็นประเทศแรกและประเทศสุดท้ายที่ทำเช่นนี้ เพราะสมัยนั้นไทยไม่มีเงินจ่าย ค่าเงินเปลี่ยน สมัยนั้นทำสัญญาผูกมัดเอาไว้พอสมควร ซึ่งต่างกับเหตุการณ์ปัจจุบัน ซึ่งคนละอย่างคนละแบบ ในตอนนั้นประเทศสหรัฐฯ มีเจตนาช่วย และได้ขอเงินค่ามัดจำคืน 3,000 ล้านบาท
@'จุรินทร์'ให้กมธ.ของพรรคคุยกันก่อน ลงมติชะลอซื้อเรือดำน้ำ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงที่เรื่องกมธ.งบประมาณฯของพรรคปชป.จะโหวตให้ชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำว่า ชั้นกมธ.เขาคงต้องหารือกัน และกรรมาธิการของ ปชป.ก็จะไปพูดคุยหาข้อยุติในที่ประชุมกรรมาธิการน่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด จุดยืนของ ปชป.ที่มีการพูดคุยกันเมื่อวันที่ 25 ส.ค. เห็นว่าเรื่องความมั่นคง และเศรษฐกิจก็มีความสำคัญทั้งสองส่วน จะสร้างสมดุลอย่างไรในภาวะวิกฤติปัจจุบัน นั่นคือ สิ่งที่กมธ.ของพรรคจะไปหารือ ขอให้ได้คุยกันก่อนเชื่อว่าน่าจะมีทางออก
@'บิ๊กป้อม'ยันเรือดำน้ำเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่สนับสนุนการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่า เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ อย่ามาถามตน ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ก็แล้วแต่คนที่เป็น กมธ.เขาพิจารณากัน
เมื่อถามว่าส่วนตัวมองว่าเราควรซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ความจริงมันดำเนินการไปหมดแล้ว ทางด้านเอกสาร แล้วสื่อคิดว่าควรซื้อหรือไม่ มันเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์ และถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง"
เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้มีการเปิดเผยหนังสือมอบอำนาจของทางรัฐบาลที่ให้ไปลงนามในสัญญาจีทูจี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เปิดได้อยู่แล้ว เอกสารต่างๆมีทั้งหมด
เมื่อถามอีกว่าไม่จำเป็นต้องทบทวนหรือชะลอเรื่องนี้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ชะลอเรื่องการจ่ายเงินอย่างเดียว เพราะเรื่องยุทธศาสตร์กองทัพเรือเขาเตรียมการมานานแล้ว ประเทศเพื่อนบ้านก็มีกันทั้งนั้น
เมื่อถามย้ำว่าหากเป็นเช่นนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็น่าจะเข้าใจใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าต้องไปถามพรรคประชาธิปัตย์ และมองว่าจะไม่เป็นปัญหาในพรรคร่วม
ทั้งนี้ กมธ.ชุดนี้ มีทั้งหมด 72 ราย แยกเป็นสัดส่วนดังนี้ คณะรัฐมนตรี 18 ราย , พรรคเพื่อไทย 15 ราย, พรรคพลังประชารัฐ 13 ราย, พรรคภูมิใจไทย 7 ราย, พรรคก้าวไกล 6 ราย , พรรคประชาธิปัตย์ 6 ราย, พรรคชาติไทยพัฒนา 1 ราย, พรรคเสรีรวมไทย 1 ราย, พรรคประชาชาติ 1 ราย, พรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 ราย, พรรครวมพลังประชาชาติไทย 1 ราย, พรรคเพื่อชาติ 1 รายและพรรคพลังท้องถิ่นไท 1 ราย
อ่านประกอบ:
จีทูจีไม่มีเก๊! ทร.ยันซื้อเรือดำน้ำถูกต้องตาม กม.-ชะลอได้ไม่มีค่าปรับ แต่เสียเครดิตการค้า
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage