‘ปลัดมหาดไทย’ เผย ‘รองปลัด มท.’ เซ็นคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ‘อัลไพน์’ แล้ว แจ้ง ‘กรมที่ดิน’ ดำเนินการตามกฎหมาย ยกหนังสือ ‘ลับ’ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา’ ชี้ช่อง ‘วัดธรรมิการามวรวิหาร’ โอนที่ดินให้แก่ ‘เอกชน’ ที่ต้องการซื้อที่ธรณีสงฆ์
...................................
จากกรณีที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ขณะดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ได้ทำหนังสือบันทึกที่ มท 0100.3/324 ลงวันที่ 3 ก.ย.2567 ไปถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยขอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณาเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์เดิมของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีที่ดินธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร (ที่ดินอัลไพน์)
พร้อมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยวินิจฉัยอุทธรณ์ใหม่ เพื่อให้คำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 2308/2544 ที่ให้เพิกถอนรายการจดทะเบียนโอนที่ดิน 2 แปลง (ที่ดินตามโฉนดเลขที่ 20 ต.คลองซอยที่ 5 ฝั่งตะวันออก (บึงตะเคียน) อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เนื้อที่ 730-1- 51 ไร่ และที่ดินตามโฉนดเลขที่ 1446 ต.บึงอ้ายเสียบ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เนื้อที่ 194-1-24 ไร่) ตลอดจนรายการจดทะเบียนลำดับต่อๆ มาจากรายการข้างต้น กลับมามีผล เนื่องจากเป็นที่ธรณีสงฆ์ นั้น
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน ได้ลงนามคำสั่งเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์เดิมของนายยงยุทธฯ และมีคำสั่งให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินอัลไพน์แล้ว และส่งเรื่องให้กรมที่ดินดำเนินการ รวมทั้งแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ รมว.มหาดไทยทราบ
“1.ให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย และให้ยกอุทธรณ์ของผู้อุทธรณ์ทุกรายและทุกประเด็นตามความเห็นของกรมที่ดินข้อ 4.1 และข้อ 4.2 2.ให้กรมที่ดินดำเนินการตามข้อ 4.3 3.ให้สำนักกฎหมาย สป. แจ้งกรมที่ดินดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบต่อไป 4.เรียน ปมท. (ปลัดกระทรวงมหาดไทย) โปรดลงนามในหนังสือนำเรียน รมว.มท. เพื่อโปรดทราบ” หนังสือคำสั่งของนายชำนาญวิทย์ ระบุ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในส่วนการดำเนินการกับที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร หลังมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ฯ นั้น มีการระบุในหนังสือที่นายชำนาญวิทย์ลงนาม ตอนหนึ่งว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีหนังสือลับ ที่ นร 0601/908 ลงวันที่ 1 เม.ย.2545 ถึง รมว.มหาดไทย เรื่อง การแก้ปัญหาที่ธรณีสงฆ์ของวัดธรรมิการามวรวิหาร สรุปได้ว่า หากวัดฯ ซึ่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ ต้องการโอนที่ดินให้แก่เอกชนผู้ประสงค์จะซื้อที่ธรณีสงฆ์ดังกล่าว
การจะโอนที่ดินได้นั้น ต้องดำเนินการตรา พ.ร.บ.โอนที่ธรณีสงฆ์ ตามมาตรา 34 แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 โดยให้กรมที่ดิน ดำเนินการ ดังนี้ 1.แจ้งวัดธรรมิการามวรวิหารทราบ พร้อมสิทธิในการฟ้องคดีปกครองตามมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
2.แจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พ.ศ.) ทราบในฐานะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ซึ่งอาจจะต้องดำเนินการตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ลับ ที่ นร 0601/908 ลงวันที่ 1 เม.ย.2545 ต่อไป และ 3.แจ้งสำนักงาน ป.ป.ช. ทราบด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ กรมที่ดินได้จัดทำเอกสารสรุปขั้นตอนการดำเนินการ ในกรณีที่รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายยงยุทธ์ วิชัยดิษฐ) และให้คำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 2308/2544 ลงวันที่ 20 ธ.ค.2544 กลับมามีผล และกรณีการดำเนินการหลังมีการเพิกถอนรายการจดทะเบียน ตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 2308/2544 ลงวันที่ 20 ธ.ค.2544 ดังนี้
กรณีการดำเนินการของกรมที่ดิน เมื่อรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เพิกถอนคำสั่งของปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ)
เมื่อรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์เดิม และวินิจฉัยอุทธรณ์ใหม่ โดยให้คำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 2308/2544 ลงวันที่ 20 ธ.ค.2544 กลับมามีผล กรมที่ดินจะแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ พร้อมทั้งสิทธิการฟ้องคดีให้กับกลุ่มเจ้าของที่ดิน ได้แก่ 1.กลุ่มเจ้าของที่ดินซึ่งไม่ได้อุทธรณ์ 16 ราย 20 แปลง เนื้อที่ 13-0-14.2 ไร่ และผู้รับโอนต่อมา และ 2.กลุ่มผู้อุทธรณ์เดิม 294 ราย 624 แปลง เนื้อที่ 911-2-60.8 ไร่ และผู้รับโอนต่อมา
จากนั้นสำนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี จะแจ้งให้บุคคลดังกล่าว ให้ส่งมอบโฉนดที่ดินเพื่อหมายเหตุการณ์เพิกถอน ซึ่งในกรณีที่ไม่ส่งมอบโฉนดที่ดินนั้น จะมีการออกใบแทน (มาตรา 61 วรรคหก แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน) โดยประกาศภายใน 30 วัน ตามข้อ 17 (6) กฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ.2537)
กรณีการดำเนินการภายหลังเพิกถอนรายการจดทะเบียน ตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 2308/2544 ลงวันที่ 20 ธ.ค.2544
เมื่อคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 2308/2544 ลงวันที่ 20 ธ.ค.2544 กลับมามีผล ที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ 20 และ 1446 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กลับเป็นทรัพย์มรดกของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ทางผู้จัดการมรดกต้องโอนมรดกตามพินัยกรรมของนางเนื่อมฯ ให้วัดธรรมิการามวรวิหาร
จากนั้นวัดธรรมิการามวรวิหาร จะยื่นขออนุญาตได้มา ซึ่งที่ดินตามมาตรา 84 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และผู้ว่าราชการจังหวัดปฏิบัติราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (คำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 95/2546 ลงวันที่ 20 มี.ค.2546) มีคำสั่งอนุญาตให้วัดฯได้มาซึ่งที่ดิน โดยวัดฯจะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เฉพาะที่ดิน โดยการจดทะเบียนโอนมรดก ส่วนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินนั้น จะไม่ตกเป็นของวัดฯ
ทั้งนี้ ในการดำเนินการกับที่ดิน ซึ่งวัดฯเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ฯนั้น จะมี 3 แนวทาง คือ 1.วัดให้เจ้าของที่ดิน คนปัจจุบันเช่า ซึ่งกรณีระยะเวลาการเช่าเกินกว่า 3 ปี แต่ไม่เกิน 30 ปี ต้องได้รับ ความเห็นชอบจากกรมการศาสนา (ปัจจุบันสำนักงานพระพุทธศาสนา) ตามข้อ 4 (1) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2511) พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (พ.ศ.2505) 2.วัดฯขอออก หนังสือรับรอง ทรัพย์อิงสิทธิ ไม่เกิน 30 ปี (มาตรา 4 พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562)
และ 3.วัดโอนที่ดิน โดยตราเป็น พ.ร.บ. (มาตรา 34 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505) ซึ่งเป็นไปตามความเห็น ของคณะกรรมการกฤษฎีกา ลงวันที่ 1 เม.ย.2545 โดยให้เฉพาะบุคคลซึ่งได้สิทธิในที่ดินมาโดยสุจริต
ขณะที่การดำเนินการกับสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน ซึ่งไม่ตกเป็นของวัด นั้น มี 2 แนวทาง คือ 1.วัดฯต้องชดใช้ราคา ให้กับเจ้าของปัจจุบัน และ 2.เจ้าของขอรื้อถอนออกไป โดยเรียกร้องค่าเสียหายจากทางราชการ
อ่านประกอบ :
‘ทักษิณ’ ชี้ทางออก ‘ที่ดินอัลไพน์’ วัดจะชดเชยความเสียหาย หรือ ให้เช่าต่อ
เปิดขั้นตอน'กรมที่ดิน'เพิกถอนโฉนด'อัลไพน์'-5 ทางออก'วัดฯ'จัดการ'ธรณีสงฆ์-สิ่งปลูกสร้าง'
เสียหาย 7.7 พันล.! 'กรมที่ดิน-บ.ครอบครัวชินวัตร'ส่อโดนฟ้อง หาก'มท.'เพิกถอนที่ดินอัลไพน์
‘กรมที่ดิน’พร้อมเพิกถอนการโอนที่ดิน‘อัลไพน์’-เผยอยู่ระหว่างรอคำสั่ง‘มหาดไทย'
ก่อน‘ชาดา’เซ็นคำสั่งทิ้งทวน! ย้อนไทม์ไลน์‘เพิกถอน’ที่ดิน‘อัลไพน์’คืนเป็น‘ที่ธรณีสงฆ์’
ทรงศักดิ์ ยืนคำสั่งตาม‘ชาดา’! รองปลัดมท.นัดฝ่ายกม.ชี้ขาดถอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์
ลงนามก่อนพ้นรมช.3 วัน! 'ชาดา' เซ็นทิ้งทวนเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอัลไพน์แล้ว