คะแนนด้านระบบกฎหมายและสิทธิในทรัพย์สินได้ 5.2 คะแนน (ดีกว่าปีก่อนหน้าได้ 5.0 คะแนน) แบ่งออกเป็นความเป็นอิสระของตุลาการได้ 5.5 คะแนน (ดีกว่าปีก่อนหน้าได้ 5.4 คะแนน) คะแนนศาลที่เป็นกลางได้ 4.5 คะแนน (น้อยกว่าปีก่อนหน้าได้ 5.0 คะแนน) คะแนนการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินได้ 7.8 คะแนน (ดีกว่าปีก่อนหน้าได้ 5.5 คะแนน)
สืบเนืองจากที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้มีการรายงานดัชนีด้านเสรีภาพมนุษย์ประจำปี 2566 หรือที่เรียกกันว่า Human Freedom Index ที่ถูกจัดทำโดยสถาบันฟราเซอร์ จากประเทศแคนาดา โดยประเทศไทยนั้นพบว่าอยู่ในอันดับที่ 88 มีคะแนนอยู่ที่ 6.67 คะแนน จาก 165 ประเทศทั่วโลก ถือว่าดีกว่าอันดับในปี 2565 ที่อยู่ในอันดับ 104 ได้ 6.49 คะแนน
- สถานการณ์ดีขึ้น! สถาบันแคนาดาจัดไทยอันดับ 88 เสรีภาพมนุษย์ได้ 6.67 คะแนน
- ชำแหละดัชนีเสรีภาพมนุษย์ ประเทศไทยอันดับ 104 โลก ได้คะแนนด้านไหน เท่าไรบ้าง
จากกรณีดังกล่าวนั้น สำนักข่าวอิศราได้ลงลึกในรายละเอียดเพื่อนำเสนอข่าวว่าประเทศไทยนั้นมีคะแนนในด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพอย่างไรบ้าง และได้เทียบอันดับกับปี 2565 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
สถาบันฟราเซอร์ได้มีการจัดอันดับให้ประเทศไทยมีเสรีภาพส่วนบุคคลคอยู่ที่อันดับ 102 จาก 165 ประเทศทั่วโลก โดยมีคะแนนทั้งสิ้น 6.39 คะแนน ซึ่งดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้าที่ไทยได้อันดับ 107 ที่ประเทศไทยมีคะนน 6.28 คะแนน
สำหรับคะแนนส่วนต่างๆในด้านเสรีภาพส่วนบุคคลมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ (คะแนนทั้งหมดนั้นใช้เกณฑ์ระบุว่าคะแนนยิ่งมากยิ่งมีเสรีภาพ)
คะแนนในด้านหลักนิติธรรมได้ 4.4 คะแนน โดยแบ่งออกเป็นคะแนนด้านหลักนิติธรรมได้ 4.2 คะแนน
อย่างไรก็ตามในปี 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่ได้มีการระบุคะแนนในด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านความยุติธรรมทางแพ่ง และในด้านกระบวนการยุติธรรมทางอาญาได้ หรือสรุปก็คือคะแนนในส่วนนี้ถูกปล่อยให้ว่างไว้
คะแนนในด้านการรักษาความปลอดภัยและความปลอดภัยได้ 7.8 คะแนน (ลดลงจากปีก่อนหน้าได้ 9.2 คะแนน)แบ่งออกเป็นคะแนนการฆาตกรรมได้ 9.2 คะแนน (ยิ่งมากยิ่งดี) คะแนนการหายตัวไป ความขัดแย้ง การก่อการร้ายได้ 6.3 คะแนน (ลดลงจากปีก่อนได้ 6.7 คะแนน)
คะแนนประเทศต่างๆในเอเชีย
คะแนนด้านการเสรีภาพการเคลื่อนไหวได้ 6.7 คะแนน (เท่ากับปีก่อนหน้า)
คะแนนด้านศาสนาได้ 8.1 คะแนน แบ่งออกเป็นคะแนนเสรีภาพในการนับถือศาสนาได้ 7.9 คะแนน และคะแนนการปราบปรามองค์กรทางศาสนาได้ 8.4 คะแนน
คะแนนด้านการสมาคม การชุมนุม ภาคประชาสังคม ได้ 4.3 คะแนน (ดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้าได้ 4.1 คะแนน) แบ่งออกเป็นคะแนนการเข้าและออกของภาคประชาสังคมได้ 4.6 คะแนน คะแนนเสรีภาพในการชุมนุมได้ 2.3 คะแนน คะแนนเสรีภาพในการจัดตั้ง/บริหารพรรคการเมืองได้ 7.9 คะแนน (ปีก่อหน้า 7.1 คะแนน) คะแนนการปราบปรามภาคประชาสังคมได้ 2.3 คะแนน
คะแนนด้านการแสดงออกและข้อมูลข่าวสารได้ 4.2 คะแนน แบ่งออกเป็นคะแนนการโจมตีโดยตรงต่อสื่อมวลชนหรือการวิพากษ์วิจารณ์สื่อมวลชนได้ 9.6 คะแนน (ดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้าได้ 9.5 คะแนน) คะแนนการแสดงออกของสื่อพบว่ามีการเก็บคะแนนโดยหลายหน่วยงาน จึงส่งผลทำให้ประเทศไทยมีคะแนนด้านการแสดงออกของสื่ออยู่ในช่วงระหว่าง 1.1-4.4 คะแนน
คะแนนด้านความสัมพันธ์ได้ 9.4 คะแนน แบ่งออกเป็นคะแนนความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันได้ 10 คะแนน คะแนนการหย่าร้างได้ 7.5 คะแนน คะแนนสิทธิในการสืบทอดมรดกได้ 10 คะแนน คะแนนการแปลงเพศสภาพของเพศหญิงได้ 10 คะแนน (คะแนนทั้งหมดในหมวดนี้เท่ากับคะแนนในปีก่อนหน้า)
ข้อมูลคะแนนด้านต่างๆของประเทศไทย
สถาบันฟราเซอร์ได้มีการจัดอันดับให้ประเทศไทยมีเสรีภาพทางด้านเศรษฐกิจอยู่ที่อันดับ 64 จาก 165 ประเทศทั่วโลก โดยมีคะแนนทั้งสิ้น 7.07 คะแนน ซึ่งดีกว่าในปีก่อนหน้าที่ไทยได้อันดับ 86 มีคะแนนทั้งสิ้น 6.78 คะแนน
สำหรับคะแนนส่วนต่างๆในด้านเสรีภาพทางเศรษฐกิจมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
คะแนนด้านขนาดของรัฐบาลได้ 6.9 คะแนน แบ่งออกเป็นคะแนนการบริโภคของรัฐบาลได้ 4.2 คะแนน (น้อยกว่าปีก่อนหน้าที่ได้ 4.4 คะแนน) คะแนนว่าด้วยการโอนย้ายและเงินอุดหนุนได้ 8.9 คะแนน คะแนนการลงทุนภาครัฐได้ 6.3 คะแนน คะแนนอัตราภาษีส่วนเพิ่มสูงสุดได้ 8.0 คะแนน คะแนนด้านรัฐเป็นเจ้าของทรัพย์สินได้ 6.9 คะแนน
คะแนนด้านระบบกฎหมายและสิทธิในทรัพย์สินได้ 5.2 คะแนน (ดีกว่าปีก่อนหน้าได้ 5.0 คะแนน) แบ่งออกเป็นความเป็นอิสระของตุลาการได้ 5.5 คะแนน (ดีกว่าปีก่อนหน้าได้ 5.4 คะแนน) คะแนนศาลที่เป็นกลางได้ 4.5 คะแนน (น้อยกว่าปีก่อนหน้าได้ 5.0 คะแนน) คะแนนการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินได้ 7.8 คะแนน (ดีกว่าปีก่อนหน้าได้ 5.5 คะแนน)
คะแนนการแทรกแซงทางทหารได้ 3.3 คะแนน คะแนนความสมบูรณ์ของระบบกฎหมายได้ 4.5 คะแนน คะแนนการบังคับใช้กฎหมายของสัญญาได้ 5.2 คะแนน (น้อยกว่าปีก่อนหน้าได้ 5.3 คะแนน) คะแนนค่าใช้จ่ายด้านกฎระเบียบได้ 7.5 คะแนน คะแนนความน่าเชื่อถือของตํารวจได้ 4.7 คะแนน (ดีกว่าปีก่อนหน้าได้ 4.4 คะแนน)
คะแนนด้านเงินที่มั่นคง 9.8 คะแนน ประกอบด้วยคะแนนการเติบโตของเงิน 9.8 คะแนน คะแนนค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของอัตราเงินเฟ้อ 9.5 คะแนน คะแนนอัตราเงินเฟ้อ 9.8 คะแนน คะแนนเสรีภาพในการเป็นเจ้าของเงินตราต่างประเทศ 10 คะแนน โดยคะแนนด้านนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีที่ประเทศไทยได้รับคะแนนสูงสุด
คะแนนด้านเสรีภาพในการค้าระหว่างประเทศ 6.9 คะแนน (ดีกว่าปีก่อนหน้าได้ 6.5 คะแนน) คะแนนภาษีศุลกากรได้ 6.9 คะแนน (น้อยกว่าปีก่อนหน้าได้ 7.1 คะแนน) คะแนนอุปสรรคทางการค้าด้านกฎระเบียบ 7.3 คะแนน (ดีกว่าปีก่อนหน้าได้ 6.8 คะแนน) คะแนนอัตราการแลกเปลี่ยนในตลาดมืด 10 คะแนน คะแนนการเคลื่อนไหวของทุนและผู้คนได้ 3.4 คะแนน (คะแนนดีกว่าปีก่อนหน้าได้ 1.9 คะแนน)
คะแนนด้านกฎระเบียบได้ 6.6 คะแนน (ดีกว่าปีก่อนหน้าได้ 5.8 คะแนน) คะแนนกฎระเบียบของตลาดสินเชื่อได้ 8.7 คะแนน (ดีกว่าปีก่อนหน้าได้ 6.0 คะแนน) คะแนนกฎระเบียบของตลาดแรงงานได้ 4.8 คะแนน (ดีกว่าปีก่อนหน้าได้ 4.7 คะแนน) คะแนนกฎระเบียบทางธุรกิจได้ 5.2 คะแนน (น้อยกว่าปีก่อนหน้าได้ 6.7 คะแนน) และคะแนนด้านเสรีภาพในการแข่งขันได้ 7.8 คะแนน
เรียบเรียงจาก:https://www.cato.org/sites/cato.org/files/2023-12/human-freedom-index-2023-full-revised.pdf