ผู้แทนรัฐบาลส่งเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ณ กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ก่อนเสด็จต่อไปยังประเทศญี่ปุ่น
วันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 09.30 น. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนรัฐบาลส่งเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส (His Holiness Pope Francis) ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 (กองบิน 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยเสด็จต่อไปยังประเทศญี่ปุ่น
ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี รักษาการประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์มาส่งเสด็จด้วย
การเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2562 ตามคำเชิญของรัฐบาลไทยและ สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เป็นการเสด็จเยือนประเทศไทยในรอบ 35 ปี หลังจากที่พระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 เคยเสด็จเยือนประเทศไทย เมื่อปี 2527
ขณะที่ราชอาณาจักรไทยและนครรัฐวาติกัน ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปานักบุญเปาโลที่ 6 มีพระสมณโองการ Instans illa ลงวันที่ 25 เมษายน 2512 สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับเอกอัครราชทูต ระหว่างนครรัฐวาติกันกับราชอาณาจักรไทย และก่อตั้งสถานเอกอัครสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย หลังจากนั้น ในวันที่ 28 เมษายนปีเดียวกัน นายจิตติ สุจริตกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และพระอัครสังฆราชยัง ยาโดต์ ผู้แทนพระสันตะปาปาในขณะนั้น ทำพิธีแลกเปลี่ยนหนังสือเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทยกับนครรัฐวาติกันในระดับเอกอัครราชทูต นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
สำหรับภาพแห่งความปลาบปลื้มปีติ ของการปฏิบัติภารกิจของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรางซิส ประมุขคริสตจักรนิกายโรมัน คาทอลิก คือ การเสด็จไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พิธีบูชาขอบพระคุณ (พิธีมิสซา) ณ สนามศุภชลาศัย รวมถึงการพบปะพี่น้องคริสตชน ผู้แทนศาสนาต่าง ๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
รู้ประวัติศาสตร์ผ่านความทรงจำ ครั้นตามเสด็จไปวาติกัน พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระพันปีหลวง
พระสมณดำรัส สันตะปาปาฟรังซิส “บทบาทสถาบันการศึกษาช่วยคนรุ่นใหม่ค้นพบรากเหง้า”
ถวายการต้อนรับสมเด็จพระสันตะปาปาอย่างสมพระเกียรติ-มีพระดำรัสห่วงวิกฤติผู้อพยพ
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เสด็จถึงราชอาณาจักรไทยแล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/