"...เซอร์แพทริค วอลแลนซ์ หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์จากประเทศอังกฤษ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้อาจจะเพิ่มอัตราการเสียชีวิตอีก 30 เปอร์เซ็นต์ และถ้าให้เห็นภาพชัดเจนก็คือ ถ้าหากผู้ที่มีอายุสูงกว่า 60 ปี ขึ้นไปจำนวน 1,000 คน ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม จะมีผู้เสียชีวิตจำนวน 10 ราย แต่ถ้าหากเป็นไวรัสโควิดสายพันธุ์จากประเทศอังกฤษจะมีผู้เสียชีวิตจำนวน 13 ราย..."
......................
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือโคไรน่าในปัจจุบันที่ถูกระบุว่ามีหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน ทำให้เกิดความกังวลว่าไวรัสโควิด จะแพร่กระจายได้ง่ายและอันตรายกว่าเดิม สามารถหลบเลี่ยงจากระบบภูมิคุ้มกันของผู้ที่เคยติดเชื้อ หรือ ผู้ที่เคยได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ออกมาแถลงข่าวว่าไวรัสสายพันธุ์จากประเทศอังกฤษนั้นอาจมีความรุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ แม้ว่า ณ เวลานี้ นักวิทยาศาสตร์จะยังไม่มั่นใจในข้อมูลที่ว่านี้ก็ตาม
ขณะที่นายแมทท์ แฮนค็อก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ได้ออกมายืนยันข้อมูลว่า เวลานี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์จากประเทศแอฟริกาใต้จำนวนกว่า 77 ราย ในประเทศอังกฤษ โดยการติดเชื้อที่ว่านั้นเกิดจากการติดเชื้อนอกประเทศมากกว่าการติดเชื้อจากในประเทศ
ล่าสุด สำนักข่าวเดอะเทเลกราฟของอังกฤษ ได้จัดทำรายงานในรูปแบบของคำถามและคำตอบเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ มีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
@ ณ เวลานี้ มีไวรัสโควิด-19 อยู่กี่สายพันธุ์กันแน่?
ไวรัสโควิด-19 ในเวลานี้มีหลายสายพันธุ์มาก แต่ว่าสายพันธุ์ที่กำลังถูกพูดถึงอยู่บนหน้าสื่อ ณ เวลานี้ มีด้วยกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์จากประเทศอังกฤษ (B1117) สายพันธุ์จากประเทศแอฟริกาใต้ (501Y.V2) และสายพันธุ์จากประเทศบราซิล (P1)
อ้างอิงวิดีโอจากบีบีซี
@สายพันธุ์ที่ประเทศอังกฤษนั้นมีความอันตรายแค่ไหน?
เซอร์แพทริค วอลแลนซ์ หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์จากประเทศอังกฤษ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้อาจจะเพิ่มอัตราการเสียชีวิตอีก 30 เปอร์เซ็นต์ และถ้าให้เห็นภาพชัดเจนก็คือ ถ้าหากผู้ที่มีอายุสูงกว่า 60 ปี ขึ้นไปจำนวน 1,000 คน ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม จะมีผู้เสียชีวิตจำนวน 10 ราย
แต่ถ้าหากเป็นไวรัสโควิดสายพันธุ์จากประเทศอังกฤษจะมีผู้เสียชีวิตจำนวน 13 ราย
@ อะไรแย่กว่ากัน ระหว่างไวรัสที่ระบาดได้ง่ายกับ กับไวรัสที่เพิ่มอัตราการเสียชีวิต?
จากการคำนวณด้วยหลักทางคณิตศาสตร์การระบาด พบข้อมูลว่าไวรัสที่มีอัตราการระบาดสูงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์จะทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่าไวรัสที่มีความอันตรายเพิ่มขึ้นอีก 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าหากนับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น
@ ไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่นั้นเหมือนกันหมดหรือไม่?
ไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่มีความคล้ายคลึงกันในรูปแบบของการกลายพันธุ์ที่มีโปรตีนหนาม ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญของไวรัสในการล็อกเข้ากับเซลล์ของร่างกายมนุษย์
แต่ทั้งหมดนั้นจะไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว และมีข้อสังเกตว่าการกลายพันธุ์นั้นจะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีกรณีการระบาดครั้งใหม่เมื่อเร็วๆ นี้
@ ทำไมไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ถึงปรากฏขึ้น ในช่วงเวลาเดียวกัน?
ณ เวลานี้ นักวิทยาศาสตร์ยังไม่มั่นใจ แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าไวรัสที่เกิดการกลายพันธุ์นั้นเป็นผลมาจากกระบวนการทางวิวัฒนาการที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป
โดยทฤษฎีหนึ่งก็คือว่า คนไข้ที่ติดเชื้อโควิดเป็นระยะเวลายาวนานกว่าปกติ ไวรัสที่อยู่ในตัวเองก็จะเกิดการกลายพันธุ์เพื่อทำให้ตัวเองมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากกรณีที่อังกฤษ แอฟริกาใต้ และบราซิลก็มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น
@ไวรัสกลายพันธุ์ที่ว่ามานี้สามารถหลบหลีกวัคซีนได้หรือไม่?
ทางบริษัทโมเดอร์นาได้เคยประกาศเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทนั้นสามารถผลิตสารภูมิคุ้มกันเพื่อต่อต้านไวรัสได้ ซึ่งผลการทดลองจากห้องแล็บระบุว่าวัคซีนจากบริษัทนั้นสามารถจะใช้ป้องกันไวรัสสายพันธุ์จากประเทศอังกฤษและแอฟริกาใต้ได้
ขณะที่บริษัทไฟเซอร์และบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ก็ออกมาคาดการณ์ว่าวัคซีนของบริษัทน่าจะสามารถรับมือกับไวรัสโควิดสายพันธุ์จากประเทศอังกฤษได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี มีผลการทดลองจากห้องแล็บระบุว่ามีโอกาสเป็นบ้างครั้งที่ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์จากประเทศแอฟริกาใต้นั้นจะสามารถเล็ดลอดจากสารภูมิคุ้มกันซึ่งถูกผลิตทั้งจากการติดเชื้อก่อนหน้านี้และจากวัคซีนไปได้
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ใช่ว่าวัคซีนจะหยุดทำงานไปในทันทีทันใด แต่วัคซีนนั้นจะค่อยๆมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อไวรัสโควิด-19 ค่อยๆกลายพันธุ์
@ รูปแบบการกลายพันธุ์นี้ปกติหรือไม่?
ไวรัสอันเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจนั้นจะมีรูปแบบการกลายพันธุ์ตลอดเวลาอยู่แล้ว และวัคซีนก็มีความจำเป็นเช่นกันที่จะต้องมีการปรับแต่งอย่างต่อเนื่องเพื่อจะให้ทันกับรูปแบบของไวรัส ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยปกติอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับโรคไข้หวัดตามฤดูกาลต่างๆ อาทิ ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
อ้างอิงวิดีโอจาก ABC News
@ การอัปเดตวัคซีนง่ายหรือไม่?
ในทางทฤษฎีแล้วการอัปเดตวัคซีนนั้นไม่ควรจะมีอะไรที่ซับซ้อน ตราบใดที่การเปลี่ยนแปลงนั้นทำให้สามารถรับมือกับไวรัสได้ โดยการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของวัคซีน 4-5 ครั้งนั้น สามารถทำให้เกิดกรดอะมิโนมากกว่า 1,000 ชนิดที่จะครอบคลุมประเภทโปรตีนหนามของไวรัสได้แล้ว และหลังจากการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของวัคซีน การจะนำวัคซีนเข้าสู่สายการผลิตนั้นจะเป็นเรื่องง่ายโดยไม่ต้องให้มีกระบวนการอนุมัติวัคซีนเป็นระยะเวลายาวนาน
ในปัจจุบันวัคซีนประเภทอาร์เอ็นเออย่างไฟเซอร์ยังถือว่าเป็นวัคซีนที่ง่ายที่สุดในการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและนำเข้าสู่การผลิตอย่างรวดเร็ว
@เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวัคซีนจำเป็นจะต้องอัปเดตแล้ว?
นี่ถือว่าเป็นคำถามที่มีความซับซ้อน สำหรับกรณีของโรคไข้หวัดใหญ่นั้น ในปัจจุบันที่กระบวนการเฝ้าระวังทั่วโลกที่คอยตรวจสอบสายพันธุ์ที่กำเนิดใหม่ขึ้นมา และมีการปรับวัคซีนเพื่อให้มีความล้ำหน้าให้สอดคล้องกับสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ อย่างไรก็ตามกระบวนการนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นกับไวรัสโควิด-19
กรณีของไวรัสโควิด-19 นั้นยังไม่มีการเฝ้าติดตามทั่วโลก และอาจไม่มีรูปแบบการเคลื่อนไหวตามรูปแบบของไข้หวัดใหญ่ เพราะว่าการที่เป็นไวรัสตัวใหม่นั้นจึงทำให้มีลักษณะการกลายพันธุ์ที่ยากจะคาดเดา
@ การปิดชายแดนจะช่วยหยุดการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้หรือไม่?
การปิดชายแดนนั้นไม่เป็นผลดีกับประเทศที่ทำการค้าไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตาม เว้นแต่ประเทศเกาหลีเหนือเท่านั้นที่จะสามารถปิดพรมแดนได้โดยสมบูรณ์แบบบ
แต่ในทางตรงกันข้าม การวางระบบตรวจสอบพรมแดนที่มีประสิทธิภาพ การตรวจสอบผู้โดยสาร และการออกนโยบายกักตัว ดังเช่นที่ประเทศเกาหลีใต้ ฮ่องกง และประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกนั้นพบว่าสามารถจะจำกัดวงการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้
แต่ปัญหาก็คือการใช้มาตรการเหล่านี้นั้นจะต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ความเข้มแข็งของทีมบริหาร และการวางแผนล่วงหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ
@ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ระบาดไปได้ไกลเท่าไรแล้ว?
ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ทั้งสายพันธุ์แอฟริกาใต้และสายพันธุ์อังกฤษนั้นมีการระบาดอย่างรวดเร็ว
ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์จากประเทศอังกฤษนั้นมีการระบาดไปแล้วในพื้นที่กว่า 50 ประเทศ ขณะที่ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์จากแอฟริกาใต้นั้นมีการระบาดเป็นหลักอยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา
ส่วนไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์จากประเทศบราซิลถูกตรวจพบในผู้ที่เดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้และประเทศญี่ปุ่น
แต่ ณ เวลานี้ยังไม่พบว่ามีการระบาดในประเทศอื่นนอกเหนือจากบราซิล
เรียบเรียงจาก:https://www.telegraph.co.uk/global-health/science-and-disease/covid-19-variant-new-strain-coronavirus-deadly-vaccines-work-uk/
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/