เครือ CP เข้าร่วมประชุม “Social Business Day 2019" แก้ปัญหาสังคม พัฒนาอย่างยั่งยืน
วันที่ 28 - 29 มิถุนายน 2562 ศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด ยูนุส (Muhammad Yunus) นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบล ผู้ริเริ่มแนวคิด Social Business หรือธุรกิจเพื่อสังคม และ Yunus Foundation ได้ร่วมกับ ศูนย์ยูนุสเซ็นเตอร์ ณ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (Yunus Center at AIT) ศูนย์ยูนุสเพื่อสังคมแห่งประเทศไทย ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ Thailand Social Business Initiative:TSBI จัดการประชุมระดับโลก Social Business Day 2019 ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และครั้งที่ 9 ของโลก ณ บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
จุดประสงค์และเป้าหมายของการจัดประชุมฯครั้งนี้เพื่อผลักดันให้เกิดชุมชนธุรกิจเพื่อสังคมขึ้นในทุกประเทศทั่วโลกและเพื่อเป็นเครือข่ายขับเคลื่อนแนวคิด “Social Business” ให้เป็นต้นแบบในการช่วยแก้ปัญหาสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยในปีนี้ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Making Money is Happiness, Making Other People Happy is Super Happiness” (การสร้างรายได้คือความสุข แต่การสร้างความสุขให้คนอื่นคือความสุขที่แท้จริง) เพื่อเน้นย้ำความสุขที่แท้จริง อีกทั้งตั้งเป้าหมายที่จะร่วมกันแก้ปัญหาที่เป็นประเด็นสำคัญของโลกใน 4 ด้าน ได้แก่
1. ธนาคารและไมโครไฟแนนซ์ (Banking&Microfinance)
2. มลพิษและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Pollution&Climate Change)
3. ขยะพลาสติกและเศรษฐกิจหมุนเวียน (Plastic Waste&Circular Economy)
4.ธุรกิจเพื่อสังคมและการกีฬา (Social Business&Sports)
โดยในภาคเอกชน อาทิ C-ASEAN, บางจาก คอร์ปอเรชัน และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ให้ความสนใจ เนื่องจากเล็งเห็นถึงแนวคิดช่วยเหลือสังคมจะช่วยแก้ปัญหาสังคมได้และทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข จึงเชื่อมั่นในแนวคิด Social Business อีกทั้งสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กร
ทั้งนี้ ในเวทีมีการประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ กับ Yunus Thailand ซึ่งดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ผู้ช่วยบริหาร สำนักประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นตัวแทนเครือฯ ร่วมแสดงจุดยืนในการขับเคลื่อนเรื่องธุรกิจเพื่อสังคมในอนาคต ผ่านแพลตฟอร์ม Corporate Action Tank
ภายในงานประชุมฯ ยังมีวิทยากรเข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำธุรกิจเพื่อสังคม ได้แก่ Parveen Mahmud (Grameen Telecom Trust), Luciano Gurgel (YSB Brazil), Eric Lesueur(VEOLIA) และ Sohel Ahmed (Grameen Shakti) ซึ่งทำให้แนวคิดการทำธุรกิจเพื่อสังคมและสร้างแรงบันดาลใจที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมให้ยั่งยืน และบรรยากาศบนเวทีการประชุมระดับโลก Social Business Day 2019 ได้จัดให้มีการประชุมกลุ่มย่อย (Breakout Session) 9 กลุ่ม การประชุมกลุ่มประเทศ (Country Forum) 7 กลุ่ม การประชุมกลุ่มเยาวชน (Youth Workshop) 6 กลุ่ม และการประชุมคู่ขนานสำหรับภาคการศึกษา (Academia Conference) ในประเด็นเกี่ยวกับ การศึกษา เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร สุขภาวะ การเงิน สิ่งแวดล้อม พลังงานสีเขียว ศิลปวัฒนธรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ธุรกิจเพื่อสังคมกับการกีฬา กิจการขนาดใหญ่กับธุรกิจเพื่อสังคม เทคโนโลยีกับธุรกิจเพื่อสังคม ภาวะผู้นำเยาวชนกับธุรกิจเพื่อสังคม สินเชื่อไมโครไฟแนนซ์กับธุรกิจเพื่อสังคม ฯลฯ
นายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ : “ความท้าทายของธุรกิจเพื่อสังคม” กล่าวว่า ธุรกิจเพื่อสังคมเป็นโมเดลเพื่อหาทางออกในการช่วยแก้ปัญหาสังคม โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นแก้ปัญหาที่เป็น pain point ของสังคมยึดแนวทางการรับรู้และความเข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาในระดับสังคมอย่างยั่งยืน เช่น เครือฯได้ส่งเสริมการปลูกกาแฟแทนการปลูกข้าวโพดให้คนในชุมชนทางภาคเหนือ เป็นต้น การทำธุรกิจเพื่อสังคมจะต้องเป็นได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย ที่มีธุรกิจชั้นนำในประเทศไทยกว่า 40 แห่ง ตระหนักถึงความท้าทายในการมีส่วนร่วมเพื่อแก้ปัญหาสังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่ปัญหาของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาที่ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน โดยเครือซีพีได้ร่วมกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการสร้างสรรค์ธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน และมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษาในประเทศไทย เพื่อผลักดันให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงเรื่องนี้ด้วย ถึงแม้การประสบความสำเร็จในธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องเป็นองค์กรที่ดีมีจริยธรรมและมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ ที่สร้างประโยชน์ให้สังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่ศาสตราจารย์มูฮัมหมัด ยูนุสได้พิสูจน์มาแล้ว และเครือซีพีมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ควบคู่กับการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน
เครือซีพี ตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญ 3 ข้อ คือ 1. เพื่อรับทราบว่าความรับผิดชอบต่อสังคมที่แท้จริงนั้นมาจากภายใน โดยเริ่มต้นจากพนักงาน 350,000 คนของเราที่อาศัยอยู่ใน 21 ประเทศที่เครือฯลงทุนดูแลเอาใจใส่พวกเขาในฐานะครอบครัวและดูแลพันธมิตรทางธุรกิจและผู้แทนจำหน่าย (Supplier) 2. ตระหนักถึงบทบาทและความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมโลกและสิ่งแวดล้อมเนื่องจากขนาดและขอบเขต ตลอดจนโอกาสในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง และ 3. เพื่อส่งเสริมนวัตกรรมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการเป็นผู้ประกอบการที่ยั่งยืนโดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กรชั้นนำ
“ผมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายการเยียวยาปัญหาของสังคมโลกร่วมกันได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” นายศุภชัยทิ้งทาย
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/