นิวยอร์กไทมส์เผยรายงานวิจัยโควิดล่าสุด พบศพสามารถแพร่เชื้อได้ หากเสียชีวิตไม่กี่วัน แนะคนใกล้ชิดระวังหากสัมผัสศพผู้เสียชีวิต แต่ยังคงยืนยัน พาหะมีชีวิตแพร่เชื้อได้ดีกว่า
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับโควิด-19 ว่าสำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอเมริกาได้รายงานข่าวผลการวิจัยล่าสุดจำนวนสองชิ้นด้วยกันระบุว่าโควิดนั้นสามารถอยู่ในซากศพของผู้ติดเชื้อได้นานหลังจากการเสียชีวิต
รายงานข่าวระบุด้วยว่านี่เป็นเหตุทำให้บุคลากรทางการแพทย์ นักพยาธิวิทยา และสมาชิกในครอบครัวของผู้เสียชีวิตจึงต้องมีความระวังอย่างยิ่งเมื่อสัมผัสกับศพ
“ในบางประเทศ ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ศพของพวกเขาถูกทิ้งไว้โดยไม่มีใครดูแล หรือนำตัวกลับไปที่บ้านของพวกเขา” นพ.ฮิซาโกะ ไซโตะ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิบะในประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นผู้เขียนงานวิจัยกล่าวกับสำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์ และเน้นย้ำว่าสาธารณชนควรตระหนักถึงข้อมูลใหม่นี้
สำหรับผลการวิจัยของ นพ.ไซโตะแสดงให้เห็นว่าในซากศพนั้นอาจจะมีเชื่อไวรัสอยู่เป็นจำนวนมาก และตัวอย่างจากการทดลองก็แสดงให้เห็นว่าหนูแฮมสเตอร์ที่ตายจากโควิดก็ยังสามารถแพร่เชื้อให้กับเพื่อนร่วมกรงได้
นพ.ไซโตะและทีมของเขาตรวจสอบข้อมูลจากศพของผู้เสียชีวิต 6 ใน 11 ศพ โดยได้มีการทดสอบทั้งจากในจมูกและในปอดหลังจากการเสียชีวิต จนพบว่าไวรัสนั้นจะไปอยู่ในปอดมากที่สุด มากกว่าระบบหายใจส่วนบน ดังนั้นจึงหมายความว่าก๊าซที่ร่างกายได้สร้างขึ้นมาจากปฏิกริยาหลังการเสียชีวิตและปล่อยออกมาทางปากหรือช่องทางอื่นๆนั้นอาจเป็นพาหะนำโรคได้
ทั้งนี้ผลการวิจัยยังไม่ได้มีการตีพิมพ์ลงในวารสารทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามการฝังศพตามแนวทางของญี่ปุ่นเช่นการนำเอาสำลีอุดที่ปาก จมูก และช่องทางอื่นๆนั้นสามารถป้องกันการแพร่เชื้อได้
ขณะที่ผลการศึกษาในสัตว์พบว่าแฮมสเตอร์ที่เสียชีวิตภายในไม่กี่วันก็สามารถส่งต่อเชื้อไปยังสัตว์อื่นๆได้ด้วยเช่นกันหลังจากเสียชีวิตแล้ว
แต่นักวิทยาศาสตร์ได้ยืนยันว่าความเสี่ยงของการแพร่เชื้อจากพาหะที่ยังมีชีวิตก็ยังสูงกว่าพาหะที่ตายแล้วอยู่ดี
“คนส่วนใหญ่อาจยังต้องกังวลกับการรับเชื้อโควิดจากเพื่อนบ้านที่ยังมีชีวิตอยู่มากกว่าคนที่เพิ่งเสียชีวิตไป” พญ. แองเจลา ราสมุสเซ่น นักวิทยาศาสตร์วิจัยที่องค์การวัคซีนและโรคติดเชื้อที่มหาวิทยาลัยซัสแคตเชวันในแคนาดากล่าวกับนิวยอร์กไทมส์ และกล่าวต่อว่าทั้งนี้พวกเขาก็ยังคงต้องระวังกับการสัมผัสกับศพของคนรู้จัก
สำหรับสถานการณ์โควิดทั่วไปในสหรัฐฯ นั้นมีรายงานว่า การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อและผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้นอาจจะหมายความว่าจะต้องมีมาตรการให้สวมใส่หน้ากากอนามัยกันอีกครั้งหนึ่ง
โดยนับตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนระบุว่าจํานวนผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเร็วๆ นี้อาจสูงพอ จนทำให้ต้องมีการออกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่ในร่มเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส
ขณะที่รายงานประจำสัปดาห์ของหน่วยงานระบุว่ามีชุมชนหลายแห่งรวมไปถึงในนิวยอร์กซิตี้และลอสแอนเจลิสเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการแพร่เชื้อสูง
เรียบเรียงจาก: https://www.nytimes.com/2022/12/15/health/covid-dead-bodies.html