'ฟิลิปปินส์' อ้างอิงผลการศึกษา ม.เชียงใหม่ ฉีดวัคซีนโดส 4 แบบ mRNA หรือไวรัลเวกเตอร์พบมีประสิทธิภาพกันติดโอไมครอนได้สูง ด้านแอสตร้าเซนเนก้าฟิลิปปินส์เผยฉีดวัคซีนวัคซีนไวรัลเวกเตอร์โดสสี่ตามหลังวัคซีนป้องกันโควิดแบบไหนก็ได้กันโอไมครอนได้ 73 เปอร์เซ็นต์ ส่วน mRNA โดสสี่พบกันโอไมครอนได้ 71 เปอร์เซ็นต์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 จากต่างประเทศว่าหน่วยงานสาธารณสุขของประเทศฟิลิปปินส์ได้อ้างอิงผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาว่าการฉีดวัคซีนในโดสที่สี่หรือที่เรียกกันว่าการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ในโดสที่สอง ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนแบบ mRNA หรือวัคซีนประเภทไวรัลเวกเตอร์ก็ตาม พบข้อมูลว่าการฉีดวัคซีนสี่โดสดังกล่าวนี้มีศักยภาพในระดับค่อนข้างสูงในแง่ของการป้องกันการติดเชื้อจากโควิดสายพันธุ์โอไมครอน
ขณะที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ประเทศฟิลิปปินส์ได้ออกมากล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า วัคซีนของบริษัทนั้นมีประสิทธิภาพอยู่ที่ 73 เปอร์เซ็นต์ในแง่ของการป้องการสายพันธุ์โมครอนที่มีศักยภาพในการแพร่เชื้อและหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้มากขึ้น โดยการจะให้ได้ประสิทธิภาพดังกล่าวนั้นต้องมีการฉีดบูสเตอร์ในโดสที่สอง หรือว่าการฉีดวัคซีนในโดสที่สี่ ซึ่งวัคซีนในสามโดสก่อนหน้านี้จะเป็นวัคซีนป้องกันโควิดแบบไหนก็ได้
ส่วนผลการศึกษาเกี่ยวกับวัคซีนแบบ mRNA นั้นแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันอยู่ที่ประมาณ 71 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการศึกษาดังกล่าวนี้เป็นการศึกษาที่กระทำในประเทศไทยในช่วงที่มีการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้พบข้อมูลว่าประเทศเพื่อนบ้านของประเทศไทยได้พบกับการระบาดของโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 หรือที่เรียกกันว่าเซนทอรัส ขณะที่ทางด้านของ พ.ญ.มาเรีย โรซาริโอ เวอร์เจียร์ เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบและรองอธิบดีกรมอนามัยกล่าวเมื่อวันที่ 22 ก.ค.เช่นกันว่าสิ่งนี้นั้นดูเหมือนว่าจะมีศักยภาพในการแพร่เชื้อสูงมาก และว่ายังมีหลักฐานน้อยนิดเกี่ยวกับความร้ายแรงของมัน
อนึ่งกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ได้ดำเนินการในสิ่งที่เรียกว่าการฉีดบูสเตอร์ PinasLakas เมื่อประมาณวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมาเพื่อเร่งให้มีการฉีดบูสเตอร์ โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่ามีแค่ 15.8 ล้านคน หรือประมาณ 20.2 เปอร์เซ็นต์ของประชากรกลุ่มเป้าหมายเท่านั้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ไปในโดสแรก และมีแค่ 1.1 ล้านคนของกลุ่มที่เข้าเกณฑ์ที่ได้รับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ไปในโดสที่สอง
เรียบเรียงจาก:https://newsinfo.inquirer.net/1633113/study-viral-vector-mrna-work-vs-omicron