'จีน'เผยผลวิจัย เว้นระยะห่างงวัคซีนโดสสองและสามนานขึ้น 4-6 เดือน ก่อนฉีดบูสด้วยวัคซีนโปรตีนซับยูนิตที่ทำในจีนเพิ่มประสิทธิภาพแอนติบอดีรับมือโควิดโอไมครอนได้ถึงสายพันธุ์ย่อย BA.5
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสว่าที่ประเทศจีนได้มีการเปิดเผยผลการวิจัยว่า การเพิ่มระยะห่างระหว่างโดสฉีดวัคซีนให้นานขึ้นนั้นอาจจะมอบภูมิคุ้มกันที่สูงกว่าเมื่อต้องเจอกับไวรัสโควิด19 โอไมครอนในสายพันธุ์ย่อยตต่างๆ
โดยผลการวิจัยดังกล่าวนั้นถูกเผยแพร่บนวารสารทางการแพทย์นิวอิงด์แลนด์เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เขียนงานวิจัยคือ นพ.เกา ฟู่ นักวิชาการของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน (CAS) และหัวหน้าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของประเทศจีน
ทั้งนี้นักวิจัยที่ดำเนินการศึกษาดังกล่าวนั้นได้มีการประเมินระดับสารภูมิคุ้มกันหรือว่าแอนติบอดีต่อโควิด-19 โอไมครอนสายพันธุ์ย่อยต่างๆรวมไปถึงสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 จากตัวอย่างเลือดของผู้ที่ได้รับวัคซีนจำนวนสามกลุ่มด้วยกันได้แก่ 1.ผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายที่ผลิตในประเทศจีนจำนวนสามโดส 2.ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแบบโปรตีนซับยูนิตรุ่น ZF2001 จำนวนสามโดส และ 3.ผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายจำนวนสองโดสและฉีดบูสเตอร์ด้วยวัคซีน ZF2001
พบข้อมูลในทุกกลุ่มวัคซีนว่าระดับแอนติบอดีที่เป็นกลางเพื่อรับมือกับโควิดโอไมครอนนั้นต่ำกว่าโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิมอย่างมีนัยยะสำคัญ จึงเป็นข้อบ่งชี้ว่าไวรัสสายพันธุ์ย่อยนี้สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้
อย่างไรก็ตามในกลุ่มที่ฉีดวัคซีน ZF2001 นักวิจัยพบว่าระดับแอนติบอดีที่เป็นกลางนั้นจะพุ่งสูงขึ้นมากถ้าหากมีการเว้นระยะห่างให้นานขึ้นระหว่างโดสที่สองและโดสที่สาม ซึ่งแอนติบอดีที่เป็นกลางดังกล่าวนั้นก็รวมไปถึงแอนติบอดีที่สามารถรับมือกับโควิดโอไมครอนได้ด้วย
ทั้งนี้สำหรับผู้ที่รับวัคซีนพบว่าถ้าหากมีการเว้นระยะห่างให้นานขึ้นระหว่างโดสสองและโดสสาม โดยอยู่ที่ประมาณ 4-6 เดือน ระดับแอนติบอดีที่เป็นกลางนั้นจะมีค่าสูงมากกว่าผู้ที่เว้นระยะห่างระหว่างโดสแค่เพียงหนึ่งเดือน
นักวิจัยได้อธิบายว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าประสิทธิภาพของวัคซีนรุ่น ZF2001 นั้นเกิดจากการใช้โดเมนที่มีผลผูกพันกับตัวรับของเซลล์ในร่างกายที่เป็นแอนติเจน ซึ่งเป็นเหตุทำให้เกิดการพุ่งขึ้นของระดับแอนติบอดีที่เป็นกลางต่อโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ย่อย ผ่านการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ที่มีความหลากหลาย
อนึ่ง วัคซีน ZF2001 นั้นเป็นวัคซีนที่ได้รับการพัฒนาร่วมกันระหว่าง สถาบันจุลชีววิทยาภายใต้การกำกับดูแลของ CAS และ บริษัท Anhui Zhifei Longcom Biopharmaceutical Co. Ltd. ประเทศจีน โดยวัคซีนดังกล่าวนั้นได้รับการอนุมัติให้ใช้งานในประเทศจีนได้แบบมีเงื่อนไขนับตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา