'อินเดีย' ประกาศค้นพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ BA.12 ในรัฐพิหาร คาดอันตรายกว่า BA.2 ถึงสิบเท่า ขอ ปชช.อย่าตระหนก แต่ให้ทำตามมาตรการควบคุมโรคเคร่งครัด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสว่าหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐพิหาร ประเทศอินเดียได้ออกมาประกาศว่า นักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์อินทิรา คานธี (IGIMS) ค้นพบไวรัสโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ใหม่ชื่อว่า BA.12 ที่มีความอันตรายมากกว่าโควิดสายพันธุ์ BA.2 ถึงสิบเท่า ซึ่งไวรัสโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวนั้นถูกพบในระหว่างการระบาดระลอกที่สามที่ประเทศอินเดีย
โดย พญ. นัมราตา กุมารี หัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยาของ IGIMS ได้ออกมาให้สัมภาษณ์โดยระบุว่าทางหน่วยงานสาธารณสุขนั้นได้เริ่มมีการถอดตัวอย่างทางพันธุกรรมของไวรัสโควิดสายพันธุ์ย่อยพบว่า “จากการทดสอบตัวอย่างจำนวน 13 ตัวอย่างพบว่ามีผู้ติดเชื้อหนึ่งรายมีโควิดสายพันธุ์ BA.12 ขณะที่อีก 12 รายที่เหลือเป็น BA.2”
อนึ่งการกลายพันธุ์ของไวรัสนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไวรัสมักจะทำอยู่แล้วเพื่อที่จะปรับตัวและอยู่รอด โดยการกลายพันธุ์ที่กลายเป็นภัยมากที่สุดก็คือการกลายพันธุ์ของโควิดสายพันธุ์เดลต้าและโอไมครอน ที่มีความแตกต่างจากสายพันธุ์ก่อนหน้านี้อย่างมีนัยยะสำคัญ อย่างไรก็ตามการกลายพันธุ์หลังจากนี้นั้นโดยเฉพาะการเกิดขึ้นของไวรัสโควิดสายพันธุ์ BA.2 นั้นพบว่าทำให้มีศักยภาพในการแพร่เชื้อที่มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังไม่ถือว่าเป็นอันตรายเท่ากับโควิดสายพันธุ์เดลต้า
แต่ทางด้านของ พญ.กุมารีได้ตั้งข้อสังเกตุว่าโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ BA.12 ที่พบในรัฐพิหารนั้นจะมีความอันตรายมากกว่า BA.2 ถึงสิบเท่า
โดย ณ เวลานี้นักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้คนอย่าเพิ่งกังวลจากการค้นพบโควิดสายพันธุ์ย่อยดังกล่าวนี้ และขอให้ปฏิบัติตามข้อควรระวังต่างๆอย่างเคร่งครัด เนื่องจากว่าทุกครั้งที่ผ่านมาหลังจากที่เกิดโควิดสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นมานั้น จะเกิดผลกระทบต่อจำนวนผู้ติดเชื้อแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตามผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดนั้นจะเป็นประชากรกลุ่มเปราะบางซึ่งมีภาวะปัญหาสุขภาพพื้นฐานอยู่แล้ว