เสน่ห์ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ความเป็นดินแดนประวัติศาสตร์ และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ทั้งศาสนา ภาษา และวิถีแห่งชีวิต
การท่องเที่ยวเพื่อสัมผัส “พหุวัฒนธรรม” จึงกลายเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่สำคัญยิ่งของปลายด้ามขวาน
ดังเช่น “คลองปูลาไซร์” ลำคลองสายโบราณที่กำลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวคลายร้อนแห่งใหม่ของชาวนราธิวาส
คลองแห่งนี้ทอดยาวอย่างสงบอยู่ที่บ้านปูลาไซร์ หมู่ 8 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ ในอดีตเคยเป็นเส้นทางสัญจรของเจ้าเมืองระแงะ
เป็นการสัญจรทางชลมารค ที่ใช้เส้นทางเชื่อมของแม่น้ำลำคลองระหว่างวังเจ้าเมืองระแงะ สู่เมืองมะนารอ ซึ่งเป็นชื่อเดิมของเมืองนราธิวาส
คลองปูลาไซร์จึงเป็นสายน้ำแห่งอารยธรรม...
หากล่องเรือสำรวจคลองสายนี้ จะพบความอุดมสมบูรณ์ในระดับสูงมาก บางช่วงบางตอนมีหาดทรายที่สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อน ผู้คนสามารถลงเล่นน้ำได้
ทั้งยังมีความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ต้นไม้ใหญ่ที่มีรูปทรงคล้ายซุ้มประตูบ้านโบราณ และมีก้อนหินที่มีรูปทรงแปลกตา ถูกจัดวางเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม กลายเป็นจุดเช็คอินแห่งยุคสมัย
“คลองปูลาไซร์” จึงกำลังเป็นจุดหมายปลายทางของใครหลายๆ คนที่ต้องการพักผ่อน หย่อนใจ และหลบร้อนท่ามกลางธรรมชาติงดงาม
ขณะที่ “หมู่บ้านปูลาไซร์” ก็ยังเป็นหมู่บ้านในโครงการพัฒนาหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ 9;10 ปฏิบัติบูชา ”สืบสาน รักษา ต่อยอด” เพื่อพัฒนาชุมชนประจำปี 2567 ของ จ.นราธิวาส มีการสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง ด้วยความที่เป็นผืนป่าเล็กๆ เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ มีพืชพรรณแปลกๆ ขึ้นอยู่ตามริมคลอง ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่ยังคงเป็นสีเขียว ร่มรื่น เป็นที่ตื่นตาและอิ่มใจ
โครงการ 9 ; 10 ปฏิบัติบูชา “สืบสาน รักษา ต่อยอด” เพื่อพัฒนาชุมชน เป็นโครงการเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงชนชาวไทย
และสนองพระราชปณิธาน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด แนวพระราชดำริฯ รวมทั้งเป็นการปฏิบัติบูชา สืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 สู่การปฏิบัติจริงและประยุกต์ใช้ของประชาชน
ปัจจุบันมีหมู่บ้านลักษณะนี้กระจายอยู่ทุกจังหวัด และหมู่บ้านปูลาไซร์ คือชุมชนตัวอย่างของนราธิวาส
การได้แวะเวียนไปเยี่ยมเยือนจึงถือเป็นการท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชนอย่างแท้จริง ผู้คนสามารถสัมผัสเอกลักษณ์โดดเด่นของชุมชน กลายเป็นเสียงสะท้อนปากต่อปากแห่งหลงใหล ประทับใจ เคยไปแล้วก็ยังอยากไปอีก
ไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ คือ การล่องเรือชมวิวของธรรมชาติที่คลองปูลาไซร์ ล่องเรือบนผิวน้ำที่นิ่งสงบ เพลิดเพลินไปกับวิวสองข้างทาง ทั้งต้นไม้ใหญ่ที่เหมือนซุ้มประตูโบราณ และกองหิน สลับวิถีชีวิตของผู้คน
การล่องเรือจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00 น.-16.30 น. แบ่งเป็น 2 รอบ คือรอบเช้า กับรอบบ่าย โดยทางชุมชนพยายามจัดคิวล่องเรือในช่วงที่แดดอ่อน เพื่อไม่ให้ร้อนจนเกินไป
รอกือลัง ตาเย๊ะ ผู้บริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว “คลองปูลาไซร์” เล่าว่า เปิดบริการนักท่องเที่ยวมาประมาณเดือนเศษแล้ว ตั้งแต่เข้าประกวดหมู่บ้านเศรษฐกิจ พัฒนาตามแนวพระราชดำริฯ เราได้บริหารจัดการเพื่อหารายได้เสริมให้กับหมู่บ้าน โดยหลักๆ ก็เน้นให้เยาวชนได้มีงานทำ กลุ่มสตรีมีรายได้เสริมหลังจากกรีดยาง
“ช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวประมาณ 1,000 คนต่อวัน โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน แหล่งท่องเที่ยวหลายๆ แห่งน้ำจะแห้ง ผู้คนส่วนใหญ่เลยมาเล่นน้ำกันที่นี่ เพราะไม่มีการเก็บค่าบริการ หลักๆ ก็จะเป็นการหารายได้เสริมจากการมีเรือให้นักท่องเที่ยวได้พายล่องชมคลอง โดยเก็บค่าบริการคนละ 20 บาทเท่านั้น นำรายได้มาพัฒนาหมู่บ้าน เพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ผู้ยากไร้ในชุมชน” รอกือลัง กล่าว
เชิญไปสัมผัสคลองปูลาไซร์ สายน้ำแห่งอารยธรรมที่ยังคงทำหน้าที่หล่อเลี้ยงและสร้างสุขให้กับชีวิตผู้คน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน...
——————————
ท่านที่สนใจเที่ยวชมคลองปูลาไซร์เพื่อพักผ่อนหรือล่องเรือชมธรรมชาติริมน้ำ จะมาเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 093-6275156