ตำรวจ-ทหาร คาดกลุ่มป่วนใต้ก่อเหตุอุกอาจฆ่า 3 ศพ เผารถส่งสินค้า หวังตอบโต้เหตุวิสามัญฆาตกรรมจากความพยายามโจมตีฐาน ชคต.ที่ยี่งอ รวมทั้งเหตุยิงปะทะที่ไม้แก่น สงสัยแกนนำระดับปฏิบัติการที่เคลื่อนไหวในพื้นที่รอยต่อปัตตานี-นราธิวาสสั่งการก่อเหตุ ขณะที่เพจบีอาร์เอ็นปฏิเสธเกี่ยวข้อง
เจ้าหน้าที่เริ่มได้เบาะแสกลุ่มที่เชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุยิงและเผารถปิคอัพขนส่งสินค้า ขณะขับผ่านพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 ราย เป็นพ่อ ลูกสาวและหลานชายที่มากับรถส่งของ โดยสินค้าที่ขนมาเป็นลังโฟมและพลาสติก
พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า พอจะทราบตัวกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบกลุ่มเดิมที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.สายบุรี และ อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ทั้งยังพอจะทราบชื่อคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
“ขณะนี้ได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้งปลอกกระสุนปืนของคนร้ายที่ตกอยู่ และเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ในการเตรียมการก่อเหตุและหลบหนี พร้อมทั้งเข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายจะใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวด้วย” ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี กล่าว
พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ บอกอีกว่า การก่อเหตุของคนร้าย เลือกใช้ช่องว่างเขตรอยต่อระหว่าง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี กับ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส โดยจุดเกิดเหตุอยู่ห่าง อ.บาเจาะ เพียง 200 เมตร ทำให้เกิดช่องโหว่ในการเฝ้าระวังความปลอดภัยเส้นทาง จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยเส้นทางให้มากขึ้น
ส่วนชนวนเหตุในการสังหารโหดและเผารถ เชื่อว่าเป็นการตอบโต้กรณีคนร้ายขว้างระเบิดแสวงเครื่องใส่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ลูโบะบายะ หมุ่ 4 ต.ลูโบะบายะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามเส้นทางสายรองในพื้นที่ กระทั่งเจอเข้ากับชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ (ชป.จรยุทธ์) ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ขณะลาดตระเวนเส้นทางอยู่ จึงเกิดการยิงปะทะกันขึ้น เป็นเหตุให้คนร้ายถูกวิสามัญฆาตรกรรมเสียชีวิต 1 ราย และจับกุมได้ 2 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา
ด้านข้อมูลจากฝ่ายทหาร มีรายงานว่าก่อนเกิดเหตุพบความเคลื่อนไหวของ นายอำมาร์ (สงวนนามสกุล) ชาว อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ โดยก่อเหตุเพื่อตอบโต้สมาชิกขบวนการที่ถูกวิสามัญฯ ทั้งจากเหตุการณ์โจมตี ชคต.ลุโบะบายะ ใน อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 22 เม.ย. และเหตุการณ์โจมตีจุดตรวจในพื้นที่ ต.ตะโละไกรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี จนเกิดการยิงตอบโต้กัน คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี และเสียหลักล้มลงข้างทาง จนต้องวิ่งไปชิงรถของชาวบ้านเพื่อหลบหนีต่อ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบประวัติของ นายอำมาร์ (สงวนนามสกุล) มีหมายจับคดีความมั่นคง ข้อหาฆ่าผู้อื่น เมื่อปี 61 ก่อนหน้านี้ได้เข้าพื้นที่มาพบปะและสั่งการให้ก่อเหตุ
ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แถลงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งทั้ง 3 คนเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ เป็นเพียงชาวบ้านที่ทำมาหากินตามปกติ แต่กลับต้องมาถูกคนร้ายกระทำอย่างโหดเหี้ยมทารุณ บ่งบอกถึงพฤติกรรมอำมหิตผิดวิสัยมนุษย์
นอกจากนี้ยังก่อเหตุในห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐของพี่น้องมุสลิมทั่วโลก ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการทำความดี ละเว้นความชั่วทั้งปวง แต่กลุ่มคนร้ายกลับมุ่งที่จะก่อเหตุสร้างสถานการณ์ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ขัดกับหลักคำสอนของศาสนาอิสลามอย่างร้ายแรง นอกจากจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ยังจะต้องได้รับผลกรรมตามบทบัญญัติแห่งอิสลาม จึงขอให้ทุกภาคส่วนได้รวมพลังต่อต้าน และประณามการกระทำดังกล่าวกันอย่างกว้างขวาง เพื่อไม่ให้กลุ่มคนร้ายสุดโต่งพวกนี้มีที่ยืนในสังคมได้อีก
อีกด้านหนึ่ง ในเพจเฟซบุ๊กของบีอาร์เอ็น ที่ใช้ชื่อว่า BRN Barisan Revolusi National ได้ออกมาปฏิเสธข่าวของทางการว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เผารถกระบะขนสินค้าและสังหารคนในรถถึง 3 ศพ