ปลัดกระทรวงสาธารณสุข บินด่วนลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โควิดในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส หลังพบติดเชื้อร้อยกว่าราย ทั้งนำมาตรการ BUBBLE AND SEAL เหมือนที่สมุทรสาครมาใช้ คาด 28 วันควบคุมได้ทั้งหมด ด้านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยตัวเลขติดเชื้อโควิดที่เรือนจำนราฯ ล่าสุด 120 ราย ขณะที่เรือนจำเบตง งดญาติเยี่ยม 1 เดือน ขณะที่ผู้ว่าฯ ยะลาสั่งยกระดับมาตรการเฝ้าระวัง ส่วนสสจ.ปัตตานี แจงตรวจโควิดครบ 133 คน ร่วมงานสุราษฎร์ฯ
วันที่ 4 เม.ย. 64 ที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามโควิด-19 หลังได้รับรายงานมีการแพร่ระบาดพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส จึงมีการเข้าดำเนินการเชิงรุกในการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อ โดยมีนายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
จากนั้นปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะได้เดินทางไปยังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ และตรวจสภาพการระบาดในเรือนจำ ซึ่งได้ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการรองรับการระบาดที่เรือนจำและทางจังหวัดกำหนด ด้วยการ BUBBLE AND SEAL เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ ไม่ให้ออกมาสู่ภายนอก , SEPARATE ดำเนินการแยกกักผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ผู้ที่มีประวัติเสี่ยง กักกันสังเกตอาการในสถานที่แยกที่จัดเตรียมไว้ และ Mobile Field Hospital จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยใช้พื้นที่เรือนจำเก่า เพื่อรองรับผู้ติดเชื้ออาการไม่รุนแรง
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานจากทางสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสเมื่อ 2 วันก่อน พบว่ามีการระบาดของเชื้อโควิด-19 เกิดขึ้นในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นเรือนจำแห่งใหม่ พบมีเหตุเป็นผู้ป่วยมีอาการหนักและมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล เป็นการตรวจพบเป็นครั้งแรกและมีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ ในขณะนี้กำลังสืบหาต้นเชื้ออยู่ โดยการตรวจเบื้องต้น ซึ่งตรวจไปแล้ว 300 กว่าคน พบว่า มีผู้ติดเชื้อบวกถึง 100 กว่าคน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูง แต่โชคดีที่ระบบเรือนจําเป็นระบบปิด การควบคุมดูแลจึงกระทำได้โดยง่าย
"ในวันนี้ ได้เข้าไปในเรือนจำ พบว่า มีลักษณะเป็นพื้นที่ปิดอยู่แล้ว เนื่องจากว่า แยกเป็นแดน การควบคุมผู้ที่ติดเชื้อไม่ให้แพร่เชื้อน่าจะทำได้โดยง่าย และที่สำคัญก็มีสถานพยาบาลภายใน ที่ได้ปรับเป็นโรงพยาบาลสนาม จำนวน 200 เตียงและสามารถขยายได้อีกสามารถขยายได้ถึง 800-900 เตียง จึงไม่มีปัญหาในการดูแลผู้ป่วย หากผู้ป่วยมีอาการหนักต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์และโรงพยาบาลใกล้เคียง"
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า เรือนจำจังหวัดนราธิวาส เหมาะที่จะใช้มาตรการ BUBBLE AND SEAL ที่เรามีประสบการณ์ที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยจะใช้มาตรการนี้เข้ามาคาดว่า น่าจะควบคุมโรคได้ภายใน 28 วัน ซึ่งจะอยู่ในแผนควบคุมทั้งหมด โดยนักโทษใหม่ก็จะมีแดนแยกอยู่แล้ว และนักโทษที่จำหน่ายก็จะเข้าไปอยู่ใน Local Quarantine อีก 14 วัน จะช่วยควบคุมไม่ให้มีการแพร่เชื้อต่อไปได้
@@อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตรวจเรือนจำนราฯ เผยตัวเลขติดเชื้อโควิดที่เรือนจำนราฯ รวม 120 ราย
ส่วนที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดนราธิวาส พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ในการปฏิบัติงาน โดยมีนายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนราธิวาสและเจ้าหน้าที่ร่วมประชุมหารือมาตรการรองรับการระบาดของโควิด-19ในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดนราธิวาสติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 ที่ตรวจไปแล้วมีเชื้อเป็นบวกจำนวน 95 ราย เจ้าหน้าที่จำนวน 25 ราย รวมทั้งสิ้นจำนวน 120 ราย สำหรับผู้ต้องขังได้กักตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาสที่แดนพยาบาล ส่วนเจ้าหน้าที่ 20 รายแยกกักตัวอยู่ที่เรือนจำเก่า ส่วนเจ้าหน้าที่อีก 5 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
จากการลงพื้นที่ในวันนี้ ได้สั่งการให้ผู้บัญชาการเรือนจำนราธิวาสเพิ่มมาตรการ 3 ระดับประกอบด้วย 1.มาตรการ BUBBLE AND SEAL คือการแยกแยะบุคคลใกล้ชิด เช่น บุคคลในครอบครัวไม่ให้ไปแพร่เชื้อสู่ภายนอก 2. แยกแยะในเรื่องของผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ออกจากผู้ต้องขังที่ไม่มีเชื้อและรักษาให้หายให้ได้ 3.ให้ดูเรื่องโรงพยาบาลสนาม ซึ่งเรือนจำนราธิวาสแห่งใหม่นี้ มีพื้นที่ที่สามารถจัดโรงพยาบาลสนามได้ คือ ที่แดนพยาบาล และ แดน 6 ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางที่จะทำโรงพยาบาลสนามได้จากกรณีที่ผู้ต้องขังติดเชื้อ โควิด-19 เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้ นายวีระกิตต์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ อยู่ในพื้นที่ เพื่อดูแลความเรียบร้อย พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในเขต 9 มาช่วยเรือนจำจังหวัดนราธิวาสในการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 30 ราย เพื่อเสริมอัตรากำลัง โดยในช่วงนี้กรมราชทัณฑ์สั่งงดเยี่ยมเป็นเวลา 1 เดือนทั่วประเทศ ซึ่งญาติผู้ต้องขังสามารถซื้อของหรือเยี่ยมญาติผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ หรือผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่น LINE ได้
นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า เนื่องด้วยมีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นผู้ต้องขัง อยู่ในพื้นที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ขณะนี้ทางสาธารณสุขจังหวัดกำลังดำเนินการหาไทม์ไลน์ ซึ่งสถานการณ์ของโรคยังถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาสเท่านั้น ในส่วนของกิจกรรมคืนคนดีสู่สังคมต้านภัยยาเสพติดที่จัดขึ้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ไม่พบว่าผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดอื่นๆติดเชื้อโควิด-19 ยกเว้นผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งถือว่าเป็นการติดเชื้อก่อนเข้ากิจกรรมดังกล่าว และในขณะนี้กำลังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ตอนนี้สถานการณ์ยังอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขพื้นที่ เพื่อให้เหตุการณ์คลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว
@@เรือนจำเบตง งดเยี่ยม 1 เดือนป้องกันโควิด ตามประกาศกรมราชทัณฑ์
นายจรูญ นาคแก้า ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเบตง กล่าวว่า การดำเนินมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด -19 ในเรือนจำอำเภอเบตงนั้น ยังคงเข้มในการดูแลผู้ต้องขัง เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคภายในเรือนจำ ด้วยการงดการเยี่ยมญาติ นับตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.64 ถึง 5 พ.ค.64 ตามประกาศของกรมราชทัณฑ์ เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคภายในเรือนจำ แต่ยังสามารถเปิดให้มีการเยี่ยมญาติผ่านทาง Application Line และยังเปิดให้บริการฝากเงินและซื้อสินค้าที่จำเป็นผ่านร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังได้และให้ยึดมาตรการคนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้าทุกกรณี ยกเว้นมีเหตุจำเป็น ทั้งนี้ให้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันและขอให้ให้ประชาชนได้มั่นใจในการดูแลผู้ต้องขังเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ภายในเรือนจำอย่างแน่นอน
@@ ผู้ว่าฯ ยะลา สั่งยกระดับการเฝ้าระวัง หลังนราฯ เจอป่วยโควิดร้อยกว่าราย
ที่ จ.ยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ของจังหวัดยะลา ให้เฝ้าระวังกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค โดยกำชับขอให้ประชาชนยกการ์ดให้สูง สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งเวลาออกไปในที่สาธารณะ ล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1 เมตร รวมทั้งอย่าลืมสแกนแอพฯ ไทยชนะเวลาเข้า-ออกสถานที่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางจังหวัดยะลา ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อเนื่อง โดยได้กำชับกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ยกระดับการเฝ้าระวังให้สูงขึ้น เนื่องจากจังหวัดยะลา ยังไม่พบผู้ป่วยยืนยันในการระบาดระลอกใหม่ จึงขอให้ประชาชนได้มั่นใจในมาตรการของจังหวัดและเน้นย้ำให้ประชาชนได้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อให้จังหวัดยะลาปลอดภัยจากโควิด 19
@@ สสจ.ปัตตานี แจงตรวจโควิดครบ 133 คน ร่วมงาน จ.สุราษฎร์ฯ
จากกรณีที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในงานนิทรรศการที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา และในกิจกรรมดังกล่าวได้มีเยาวชนและบุคลากรจากจังหวัดปัตตานีไปร่วมกิจกรรมด้วยรวมทั้งหมด 133 คน
ทางสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ได้มีการติดตามและทำการตรวจคัดกรอง เพื่อหาเชื้อโควิด-19 จากเยาวชนและบุคลากร ครบทั้ง 133 คนแล้ว พร้อมให้มีการกักตัวเฝ้าสังเกตอาการตามมาตรฐานการกักตัวครบทุกคน จึงขอประกาศให้ชาวปัตตานีได้รับทราบความคืบหน้าและเพื่อความสบายใจของประชาชนในพื้นที่
แต่อย่างไรก็ตาม ชาวปัตตานียังคงต้องป้องกันตนเองตามมาตรการ DMHTT เพื่อความปลอดภัยของเราทุกคน คือ เว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเหมาะสม สวมใส่หน้ากากปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ล้างมือบ่อยๆอย่างถูกต้อง ตรวจวัดอุณหภูมิสม่ำเสมอและใช้แอพฯ ไทยชนะ