นราธิวาสพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เป็นชายเดินทางกลับจากมาเลเซีย จังหวัดเตรียมแถลงพรุ่งนี้ ส่วนปัตตานี-สงขลาเข้ม สั่งปิดสนามมวย ชนโค ชนไก่ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก ด้านรองผู้ว่าฯยะลา ยืนยันหน้ากากอนามัยยังมีเพียงพอให้ประชาชน ไม่ได้ขาดแคลน ขณะที่ ตม.จับเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง ช่องทางเดิม "ตากใบ"
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID-19 ระลอกใหม่ ในพื้นที่ของ จ.นราธิวาส ที่ผ่านมา ได้พบผู้ติดเชื้อโควิด -19 รายแรกเมื่อวันที่ 27ธ.ค.63 เป็นหญิง วัย 57 ปี อยู่ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยติดเชื้อมาจากลูกชาย ซึ่งอยู่ที่ จ.สงขลา ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน
วันที่ 6 ม.ค.64 ล่าสุดมีรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 48 ปี สัญชาติไทย ซึ่งได้เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งผลการตรวจในเบื้องต้นพบเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ไม่แสดงอาการป่วยแต่อย่างใด ขณะนี้เข้ารับการกักตัวของ Local Quarantine นราธิวาส ได้รับการดูแลจากทีมแพทย์โรงพยาบาลยี่งอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการพบผู้ติดเชื้อชายรายใหม่ ซึ่งเป็นรายที่ 2 ของ จ.นราธิวาส ในช่วงการระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ทางจังหวัดนราธิวาส เตรียมจะดำเนินการแถลงข่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้
@@ปัตตานี มีคำสั่งปิดสนามมวย ชนโค ชนไก่
วันที่ 6 ม.ค.64 ที่ห้องประชุมพญาตานี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายราชิต สุดพุ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา COVID-19 เพื่อติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาของจังหวัดปัตตานีและแจ้งคำสั่งจังหวัดปัตตานีเรื่อง ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ประกอบด้วย 1.สนามมวย 2. สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่ 3. สนามชนโคและสนามซ้อมชนโค 4. สนามแข่งขันนกทุกประเภทหรือสถานที่อื่นใดที่มีการต่อสู้ของสัตว์ 5.บ่อนการพนัน หรือสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับบ่อนการพนัน ซึ่งคำสั่งใดขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ให้ใช้คำสั่งนี้แทน
หากมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ มีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติ โรคติดต่อ พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและหรือเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายราชิต ยังกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งปฏิบัติงานเชิงรุกในทุกพื้นที่ที่มีความเสี่ยง พิจารณาปิดหรือจำกัดเวลาเปิด-ปิด สถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดตามความเหมาะสม ทั้งติดตามกลุ่มผู้มีความเสี่ยงต่าง ๆที่เดินทางมาจากจังหวัดกลุ่มเสี่ยง 28 จังหวัด ให้มีความครอบคลุม พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนทั้งภายในและภายนอกจังหวัดให้ช่วยกันเฝ้าระวังตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
รวมถึงกำกับดูแลให้ประชาชนในพื้นที่ จ.ปัตตานี ที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด คือ การสวมหน้ากากอนามัย/ผ้า 100% ทำความสะอาดสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก มีการติดตั้งและสแกนแอปพลิเคชัน "ไทยชนะ" (สถานที่ราชการ ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ)
@@สงขลาก็สั่งปิด - ทั้งควบคุมเข้มสถานบริการ 30 ประเภท
เช่นเดียวกับที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลาเมื่อ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ได้พิจารณาและเห็นชอบมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ได้มีคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ได้แก่ สนามชนโค ชนไก่ สนามแข่งนกและรวมถึงสนามซ้อม ตลอดจนสนามกัดปลา และสนามมวย
ทั้งยังมีการกำหนดให้สถานประกอบการในพื้นที่ จำนวน 30 ประเภท ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโดยเคร่งครัด ได้แก่ 1.สถานบริการ ผับ บาร์และสถานบริการในลักษณะคล้ายกัน 2.ร้านเกมส์และอินเอตร์เน็ต 3.สวนน้ำ สวนสนุก สนามเด็กเล็ก 4.สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง สเก็ต โต๊ะสนุกเกอร์ 5.ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม รถเข็น หาบเร่แผงรอบ ภัตตาคาร สวนอาหาร 6.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ 7.ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม และสถานที่จัดนิทรรศการ 8.สถานที่ให้บริการจัดเลี้ยง 9.ห้องประชุมในโรงแรม 10.ร้านค้าปลีกหรือค้าส่งขนาดย่อย ค้าส่งชุมชน ตลาดน้ำและตลาดนัด 11.ร้านค้าปลีก ค้าส่ง หรือตลาดขนาดใหญ่ 12.ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผม 13.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 14.สถานรับเลี้ยงเด็กหรือดูแลผู้สูงอายุ 15.สถานเสริมความงาม สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง 16.สปา สถานประกอบการนวดแผนไทย 17.คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ร้านทำเล็บ 18.สนามกอล์ฟและสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ 19.สนามกีฬาและสนามแข่งขันอื่นที่ไม่ได้มีคำสั่งปิด 20.สวนสาธารณะ 21.สถานบริการดูแลรักษาสัตว์ 22.ฟิตเนส 23.สนามออกกำลังกายในร่ม 24.สระว่ายน้ำ 25.พิพิทธภัณฑ์ ห้องสมุด หอศิลป์ 26.สระน้ำเพื่อการเล่นกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำ 27.โรงภาพยนตร์ โรงละคร 28.สวนสัตว์ 29.อาบอบนวด 30.ศูนย์พระเครื่อง
ส่วนสถานที่และสถานประกอบการนอกเหนือจากทั้ง 30 ประเภทดังกล่าว ให้ใช้มาตรการป้องกันโรคโดยการตรวจวัดอุณหภูมิคัดกรองผู้เข้าใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า จัดให้มีแอลกอฮอล์เจล หรือยาฆ่าเชื้อโรค เว้นระยะห่าง 1 เมตร หมั่นทำความสะอาดพื้นที่ ผิวสัมผัสและให้มีการลงทะเบียนผ่านแอพปิเคชั่น"ไทยชนะ"ทุกครั้ง
@@ รองผู้ว่าฯ ยะลา ยืนยันมีหน้ากากอนามัยเพียงพอไม่ขาดแคลน
วันที่ 6 ม.ค.64 นายชัยสิทธิ์ พานิชพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมสำนักงานสาธารณสุข จ.ยะลา ได้เร่งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ที่กลับจากจังหวัดควบคุมสูงสุด (28 จังหวัด) ประกอบด้วย ตาก นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง นครนายก กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว สมุทรปราการ จันทบุรี ชลบุรี ตราด ระยอง ชุมพร ระนอง และกรุงเทพฯ ให้เข้าแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านหรืออสม. ผู้นำชุมชนในพื้นที่ทันทีหรือโทรแจ้งสายด่วน 093-3591300 , 081-8983651 พร้อมกับปฏิบัติตัวตามคำแนะนำแยกตัวสังเกตอาการตนเอง อยู่ในที่พักอาศัยจนครบ 14 วัน หากมีอาการ ไข้ ไอ มีน้ำมูก หายใจหอบเหนื่อย ให้สวมหน้ากากและรีบไปพบแพทย์ ไม่รับประทานอาหาร/ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่นสวมหน้ากากตลอดเวลา-ล้างมือบ่อยๆ งดไปที่สาธารณะ - ที่แออัด
นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ยะลาปัจจุบัน ยังไม่ปรากฏพบผู้ป่วยในพื้นที่ ขณะเดียวกันการเฝ้าระวังของพื้นที่เราทำเต็มที่และมีการรณรงค์ ให้ชาวบ้านสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้านให้มี การเว้นระยะห่าง ตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้เชื่อว่า ชาวยะลามีประสบการณ์จากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่วนผู้ที่มาจากจังหวัดเสี่ยงที่ประชุมมีมติว่า เมื่อกลับมาแล้วให้รายงานตัวแล้วก็ต้องกักตัว ซึ่งทาง่ทานผู้ว่าฯ ได้สั่งการให้ทุกอำเภอเตรียมสถานที่รองรับการตั้งจุดด่านตรวจให้กลับไปเหมือนช่วงต้นปี ให้มีความเข้มข้นและมีการรณรงค์ให้ชาวบ้านตระหนักว่า เราต้องไม่ประมาท พื้นที่ของเรายังอยู่ในขั้นของการเฝ้าระวัง ซึ่งผู้ติดเชื้อ จ.ยะลายังเป็นศูนย์คน
ส่วนประเด็นเรื่องหน้ากากอนามัยนั้น ยืนยันว่า ปัจจุบันหน้ากากอนามัยยังมีเพียงพอสำหรับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ล่าสุดได้มีการออกตรวจร้านค้าขายหน้ากากอนามัยเพราะหน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมราคาสินค้า เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าเอาเปรียบประชาชนในพื้นที่ จากการตรวจทุกร้านมีสินค้าจำหน่ายทั้งประเภทแยกชิ้นและเป็นกล่องราคาไม่ได้เกินจากมาตรฐาน หลังจากการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรค สต๊อกหน้ากากอนามัยที่มีอยู่ในโรงพยาบาลยะลาสาธารณสุขจังหวัดสามารถใช้ในพื้นที่ จ.ยะลากับประชาชนได้อีก 7 เดือน ซึ่งแสดงว่า สต๊อกตรงนี้ไม่ได้ขาดแคลนแน่นอน
@@เบตงควบคุมเข้มสถานที่ท่องเที่ยวตามมาตรการป้องกันโควิด
นายสุริยา บุญพันธ์ ปลัดอาวุโสอำเภอเบตง รักษาราชการแทนนายอำเภอเบตง เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเบตง เพื่อเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดใหม่ของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมไกรลาส ที่ว่าการอำเภอเบตง อ. เบตง จ.ยะลา
นายสุริยา บุญพันธ์ ปลัดอาวุโสอำเภอเบตง รักษาราชการแทนนายอำเภอเบตง กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งมีการแพร่ระบาดในหลายจังหวัดอย่างรวดเร็ว มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน นอกจากนี้อำเภอเบตงเป็นเมืองท่องเที่ยวถือว่ามีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว จึงให้ปฏิบัติตามมาตรการในการเฝ้าระวังป้องกันการระบาดใหม่ของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์ของหน่วยงานต่างๆ ทั้งด้านวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ สถานที่สังเกตอาการเริ่มป่วย (LQ) สถานที่รักษาผู้ป่วย มาตรการควบคุมการจัดกิจกรรมหรือสถานที่ที่มีการรวมคนจำนวนมาก เช่น ร้านอาหาร โรงแรม สถานบริการ ร้านน้ำชาและกาแฟ จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เขตเทศบาลเมืองเบตง มาตรการป้องกันเฝ้าระวังในสถานศึกษา การตรวจสอบควบคุมพื้นที่ อสม. และอาชีพที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก เช่น รถรับจ้าง (รถตุ๊กตุ๊กและรถตู้) และพนักงานสถานบริการ รวมถึงการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจและจุดสกัดในการคัดกรองบุคคลเข้ามาใน อ.เบตง และการลงโทษผู้ที่ไม่สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากเคหสถาน เพื่อเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่
นอกจากนี้ขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางกลับจากจังหวัดควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านและอสม.และผู้นำชุมชนทันทีและแยกตัวสังเกตอาการในที่พักจนครบ 14 วัน โดยงดไปที่สาธารณะและที่แออัด
@@ตม.จับเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองที่ อ.ตากใบ
เมื่อเวลา 01.45 น.วันที่ 6 ม.ค.64 ทางกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 6 ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองร้อยประจำชายแดนที่ 2 ทำการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ที่บริเวณท่าเทียบเรือธรรมชาติ ชุมชนตาบาตะปอเยาะ ม.1 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส สืบเนื่องมาจากการแจ้งข่าวของประชาชนในพื้นที่ว่า พบเห็นกลุ่มบุคคลลักษณะคล้ายบุคคลต่างด้าวไม่ทราบสัญชาติเข้ามาในพื้นที่
ทางเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง กำลังนั่งอยู่บริเวณดังกล่าวจริง จึงควบคุมตัวได้ทั้งหมดรวม 7 คน มีสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางมาแสดงได้แต่อย่างใด จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
จากการสอบถามทราบว่า บุคคลต่างด้าวทั้ง 7 ประกอบอาชีพประมงในประเทศมาเลเซียและเดินทางมาจากประเทศมาเลเซียด้วยตนเองไม่มีผู้นำพา เมื่อเดินทางถึงชายแดนได้มีการจ้างเรือมาจากฝั่งประเทศมาเลเซีย ด้วยค่าจ้าง 5,000 บาท เพื่อลักลอบเข้าสู่ประเทศไทย โดยผ่านทางช่องทางธรรมชาติไม่ทราบจุดใด เพื่อจะเดินทางกลับภูมิลำเนาตนเองที่ประเทศเมียนมา