แม่ทัพภาค 4 สั่งเข้มชายแดน 5 จังหวัดใต้ พร้อมนำ "ยะลาโมเดล" กลับมาใช้กันโควิดระบาด หลังตลาดกลางกุ้งสมุทรสงครามทำยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง 689 ราย ส่วนที่ปัตตานีจับตาแรงงานและเรือประมงต่างถิ่นเข้าพื้นที่ ด้าน สสจ.สงขลา เผยกักตัวดูอาการ 7 แรงงานกลับจากสมุทรสาคร
จากการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 จำนวนมากในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งข้อมูลผู้ติดเชื้อล่าสุด ณ เวลา 15.00 น.ของวันนี้ (20 ธ.ค.63) มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จำนวน 689 ราย และพบรายงานผู้ติดเชื้อจาก จ.สมุทรสาครกระจายอยู่ในพื้นที่รอบข้างอีก 5 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สุพรรบุรี ราชบุรี และนครปฐม
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้หลายพื้นที่ หลายจังหวัด รวมถึงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการเพิ่มมาตรการการเฝ้าระวังกันมากขึ้น
พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดรอบใหม่ของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ในส่วนของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้สั่งการไปยังทุกหน่วยให้เพิ่มความเข้มงวด โดยเฉพาะตามแนวชายแดนที่เป็นเขตรอยต่อ ทั้งกับประเทศเพื่อนบ้าน และรอยต่อระหว่างจังหวัด เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย หรือเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างผิดสังเกต
ส่วนมาตรการด้านสาธารณสุข ได้ประสานกับฝ่ายปกครอง นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด และฝ่ายสาธารณสุข นำโดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ให้นำมาตรการควบคุมโรคติดต่อมาใช้อย่างเต็มที่ทุกมาตรการ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อในพื้นที่ รวมถึงมาตรการตรวจเชื้อเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งที่ผ่านมาทางจังหวัดยะลา และจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ได้ดำเนินการกระทั่งได้รับคำชมจากกระทรวงสาธารณสุขและยกให้เป็น "ยะลาโมเดล" มาแล้ว ก็จะนำมาตรการเหล่านั้นกลับมาใช้ใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ซึ่งในพื้นที่มีแรงงานภาคประมงอยู่จำนวนหนึ่ง
@@ ผู้ว่าฯยะลาสั่งเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงข้ามชายแดนเข้าพื้นที่
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้ จะสังเกตเห็นว่า เริ่มมีบุคคลที่ลักลอบเข้าจากประเทศกลุ่มเสี่ยงโดยผิดกฏหมายคือไม่ได้ผ่านการคัดกรองโควิด-19 และเข้ามายังประเทศไทย ซึ่ง จ.ยะลาหลายคนอาจมีความกังวลใจว่า อ.เบตง จะเป็นเส้นทางที่อาจจะมีการลักลอบเข้ามาของผู้คนที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย อาจมีความพยายามข้ามรั้วชายแดนเพื่อเข้ามาหนีภัยโควิด-19 แต่ก็ต้องชื่นชมทางเจ้าหน้าที่ที่คอยสกัดกั้นทุกครั้งและนำเข้าสู่กระบวนการคัดกรองตามระบบสาธารณสุข จนทำให้ชาวยะลาปลอดภัยจากโควิด-19 มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง แม้ระยะหลังหลังอาจมีกระแสข่าวในโลกออนไลน์ก็ตาม
สำหรับเรื่องดังกล่าว ตนได้มีการกำชับกับทุกหน่วยในพื้นที่ของ จ.ยะลาไปแล้ว ถึงเรื่องการเพิ่มความเข้มงวด ยกระดับมาตรการการป้องกันให้สูงขึ้น ด้วยการสกัดกั้นผู้ที่จะลักลอบเดินทางเข้ามาใน จ.ยะลา โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ต้องพยายามตามหาบุคคลที่หลบหนีเข้ามายังประเทศและเข้ามาพักอาศัยใน จ.ยะลา อีกประการหนึ่งคือ การดำเนินการตามมาตรการป้องกัน จริงอยู่ในระยะหลังที่ผู้คนมีความหย่อนยานในเรื่องของการใช้มาตรการอยู่บ้างเนื่องจากเห็นว่า สถานการณ์เริ่มดีขึ้น แต่มาในวันนี้สถานการณ์เริ่มที่จะกลับมาอีกครั้ง ดังนั้นเร็วๆนี้ทางจังหวัดยะลา อาจมีการเริ่มประกาศใช้คำสั่งบางประการและเชิญผู้เกี่ยวข้องมาหารือกัน ทั้งส่วนราชการรรวมทั้งผู้ประกอบการ สุดท้ายคือ ขอให้ทุกคนเร่งสร้างความตระหนักให้กับประชาชนได้ทราบเพื่อเป็นการป้องกันในระยะยาวได้
@@ ประมงปัตตานี จับตาแรงงานและเรือประมงต่างถิ่น
นายสุรัตน์ รัตนศิธร เจ้าของเรือประมง เรือ น. ลาภประเสริฐ กล่าวว่า ตอนนี้ในส่วนของท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลาจังหวัดปัตตานี เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบแรงงานต่างชาติ ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการเข้มงวดของผู้ที่จะเข้ามาค้าขาย โดยจะทำการตรวจจากท่าเทียบเรือที่สมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี เพราะที่นี่จะมีรถสิบล้อขนสัตว์น้ำขึ้นไปขายที่มหาชัยด้วย ส่วนในเรือประมง โดยเฉพาะเรือที่มาจากต่างพื้นที่จะโดนตรวจเข้มเป็นพิเศษ
แม้มาตรการดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อการทำประมงบ้าง แต่ก็ยินดี ถือเป็นเรื่องปกติ ขอเพียงอย่ามีปรากฎในพื้นที่เราเองก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ฉะนั้นเราต้องร่วมกันเฝ้าระวัง ซึ่งวันนี้ (20 ธ.ค.) บ่าย 3 โมง เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี จะมาเตรียมที่สมาคมประมงจังหวัดปัตตานี เพื่อจะช่วยทำการตรวจในวันพรุ่งนี้
นายแพทย์อุดมเกียรติ พูลสวัสดิ์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ปัตตานี กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่มีการระบาดในเมืองอู่ฮั่นต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันและมีแนวโน้มจะยาวไปถึงปี 64 ประเทศไทย ตั้งแต่ต้นปี 63 เป็นต้นมาเราก็มีผู้ป่วยราว 4,000 คนเสียชีวิต 60 คน ส่วนที่ จ.ปัตตานี มีผู้ป่วย 91 คนเสียชีวิต 1 คน ซึ่งจ.ปัตตานี ถือเป็น 1 ใน 10 จังหวัดที่มีตัวเลขผู้ป่วยค่อนข้างสูง ขณะนี้ทางสาธารณสุขและหน่วยงานในสังกัดได้มีการวางมาตราการอย่างเต็มที่ เพื่อเฝ้าระวังการระบาดในรอบสองนี้
@@ สงขลากักตัว 7 แรงงานกลับจากสมุทรสาคร
นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวถึงมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด19 ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่มีการระบาดโควิด19 ที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เราก็เริ่มนโยบายการรณรงค์ให้ประชาชนมีการสแกนและตรวจเข้มผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างเชียงใหม่ เชียงรายที่จะเข้ามาในพื้นที่ ตอนนี้เราก็ยังทำมาตราการนั้นอยู่
ส่วนมาตรการตรวจจับแรงงานแบบนอกกฎหมายที่เข้ามาในพื้นที่ ประสานกับทางฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคงและก็ อสม.ในพื้นที่ ให้ตรวจจับในชุมชนไม่ให้มีการเล็ดลอดเข้ามา ที่เล็ดลอดเข้ามาเราจับได้หมด แล้วทางสาธารณสุขจะไปดำเนินการเพาะเชื้อแล้วให้กักตัวไว้ ขณะนี้ที่เจออยู่ก็มีแค่ 7 รายเป็นแรงงานถูกกฎหมายที่เดินทางกลับมาจากสมุทรสาคร ซึ่งเขาไปลงทะเบียนต่ออายุกลับมาแล้ว ไม่มีอาการแต่อย่างใด ปกติทุกราย เราได้เข้าไปดูแลไปควบคุมให้เขากักตัวในแคมป์ของเขาและทำการเพาะเชื้อทุกราย ส่วนปัญหาแรงงานหลบหนีเข้ามานั้น เกิดจากทางมาเลเซียพยายามผลักดันแรงงานเหล่านี้ออกมา ถ้าเราไปหลงกลหรือจับ ปัญหาก็จะตกที่เราทันที นโยบายบางเรื่องต้องดำเนินการผลักดันกลับไปเลยไม่ให้เข้ามาในประเทศ ผมว่าเป็นนโยบายเบื้องต้นเลย ที่จะป้องกันไม่ให้เรามานั่งรับภาระ
นายแพทย์อุทิศศักดิ์ กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยกว่าแรงงานต่างด้าวก็คือเรื่องการขนส่งสินค้าชายแดน เรามีการเข้มงวดเรื่องพนักงานขับรถชาวมาเลเซียที่ข้ามด้านชายแดนเพื่อส่งสินค้าระหว่างไทย-มาเลเซีย เราทำกันอย่างเข้มงวด คือ พนักงานจะต้องจอดรถในจุดที่เรากำหนดเป็นจุดพักสินค้า ถ่ายสินค้า ในประเทศไทย เราจะไม่ให้พนักงานขับรถหลุดออกมาทานข้าวข้างทางหรือไปไหนเลย เพื่อไม่ให้ออกมาแพร่เชื้อ
ในส่วนของ จ.สงขลา ผมว่าเรากลัวทางมาเลเซียมากกว่า เพราะสถานการณ์ไม่ต่างจากทางฝั่งประเทศเมียนมาเท่าไหร่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่หลักพันทุกวัน เพียงแต่ว่าสถานการณ์ในมาเลย์จะระบาดหนักในพื้นที่ภาคกลางของเขา พื้นที่เกาะ รัฐซาบะฮ์ รัฐซาราวัก ส่วนรัฐเคดาห์ที่ติดกับไทยการระบาดเบาบางลงแล้ว เขาควบคุมได้เราก็เบาใจได้อยู่
สำหรับการลักลอบข้ามชายแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ จ.สตูล เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชายชาวเมียนมา จำนวน 11 คน ได้ลักลอบเข้ามาจากเกาะลังกาวีและมาพักอยู่ในบ้านที่กำลังก่อสร้างในพื้นที่ ม. 6 ต.ควนขัน ต.ควนขัน อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าทำการตรวจสอบแรงงานทั้ง 11 คนแล้ว
@@ นายกฯ ขอประชาชนร่วมมือป้องกันโควิด
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบสถานการณ์ล่าสุดของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เพิ่มขึ้นในจังหวัดสมุทรสาคร และได้ให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร โรงพยาบาลสมุทรสาคร ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เฝ้าระวัง สอบสวน และเร่งดำเนินการตรวจค้นหาผู้ป่วยในจังหวัดสมุทรสาครในเชิงรุกต่อไป เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และเพื่อให้การรักษาผู้ป่วยเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ นายกฯ ขอความร่วมมือประชาชน ที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงในจังหวัดสมุทรสาคร ให้ดำเนินการตามแนวทางที่ฝ่ายปกครองและฝ่ายจังหวัด ได้แนะนำอย่างเคร่งครัด
ส่วนประชาชนที่เคยเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงของจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.63 เป็นต้นมา ขอให้เฝ้าระวัง สังเกตอาการตนเอง เป็นเวลา 14 วัน และให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้อื่น โดยไม่ควรไปในที่ชุมชน หากเริ่มมีอาการป่วยทางเดินหายใจ ให้รีบไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โดยหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยรถสาธารณะ และขอให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าขณะเดินทางตลอดเวลา
สำหรับประชาชนทั่วไป ให้ติดตามข้อมูลจากศบค. และใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงที่แออัด ล้างมือบ่อยๆ สแกนไทยชนะเมื่อเข้าสู่พื้นที่สาธารณะ ซึ่งจะเป็นมาตรการสำคัญในการป้องกันการแพ่รระบาดโรคในที่อื่นๆ
ทั้งนี้ จากการประเมินสถานการณ์ล่าสุดทางด้านสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อมั่นว่า จะสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ โดยความร่วมมือของประชาชน เนื่องจากส่วนใหญ่ยังเป็นการระบาดในพื้นที่จำกัด และไม่มีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง
นายอนุชา กล่าวว่า หากประชาชนมีข้อสงสัย ให้ติดต่อสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 และติดต่อสอบถามได้เพิ่มเติมที่สายด่วนสมุทรสาคร หมายเลข 065-549-3322 และ 034-871-274 ตลอด 24 ชั่วโมง