กลุ่มก่อความไม่สงบฉวยโอกาสก่อเหตุโจมตีเจ้าหน้าที่ช่วงสับเปลี่ยนกำลังรับปีงบประมาณใหม่ แขวนตัวจุดระเบิดไว้บนต้นไม้ในร่องน้ำกลางถนน ก่อนตูมสนั่นขบวนรถทหาร ทำกำลังพลสละชีพ 1 นาย บาดเจ็บอีก 6 นาย ขณะที่กองทัพเรือจัด "หมู่เรือลำเลียงพล" นำโดย "เรือหลวงอ่างทอง" พากำลังพลจากสัตหีบ ยกพลขึ้นหาดบ้านทอน นราธิวาส
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงสับเปลี่ยนกำลังพลรับปีงบประมาณใหม่ มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นตามคาด โดยเมื่อเวลา 11.45 น. วันพฤหัสบดีที่ 1 ต.ค.63 ซึ่งเป็นวันแรกของปีงบประมาณ พ.ศ.2564 พ.ต.อ.ปัญญวัฒน์ เพชรชุม ผู้กำกับการ สภ.เทพา จ.สงขลา รับแจ้งเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดแสวงเครื่องโจมตีขนวบรถสับเปลี่ยนกำลังพลของกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 (ร.15 พัน 1) เหตุเกิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 43 (หาดใหญ่-ปัตตานี) ใกล้ทางเข้าเทพาบีช รีสอร์ท ท้องที่หมู่ 4 บ้านคลองประดู่ ต.ปากบาง อ.เทพา
หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เทพา พร้อมด้วยฝ่ายทหารและฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบขบวนรถสับเปลี่ยนกำลังพลจอดเรียงกันอยู่ 5 คัน มีทั้งรถบรรทุกและรถบัส โดยรถคันที่โดนระเบิดเป็นรถบรรทุกแบบ 2 ตันครึ่ง หรือ FTS แรงระเบิดทำให้ตัวรถได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่ทำให้กำลังพลเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บอีก 6 นาย ทราบชื่อคือ
1. พลทหาร อรรถพล พลายชนะ ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านขวา มีเลือดคั่งในปอด ส่งต่อโรงพยาบาลปัตตานี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
2. จ่าสิบเอก สัญญา บุรีรักษ์ มีอาการหูอื้อ มึนศีรษะ เลือดออกจมูก
3. สิบโท จักรกฤษ เพชรทอง ได้รับบาดเจ็บบริเวณหลังหูขวา
4. สิบตรี เอกราช วิชาศาสตร์ ถูกสะเก็ดบริเวณต้นขาขวา อาการสาหัส นำส่งโรงพยาบาลปัตตานี
5. พลทหาร อารียะ สาและ ถูกสะเก็ดบริเวณไหล่ขวา
6. พลทหาร พงศกร ไหมร่วง ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณแผ่นหลังด้านขวา
7. พลทหาร ฮารอฟัด มะเซ็ง ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหัวเข่า
ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายจุดชนวนระเบิดเมื่อเวลาประมาณ 11.20 น. โจมตีขบวนยานยนต์ของ ร.15 พัน 1 ขณะเคลื่อนย้ายเพื่อสับเปลี่ยนกำลังจาก ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ไปยังกองพันทหารราบเชิงรุก (พัน.ร.เชิงรุก) บ้านนูโร๊ะ หมู่ 1 ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส โดยคนร้ายวางระเบิดไว้ริมถนน น้ำหนักดินระเบิดประมาณ 15 กิโลกรัม แต่แขวนตัวจุดระเบิดไว้บนต้นไม้ที่ปลูกอยู่ในร่องระบายน้ำกลางถนน และกดจุดระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร สันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พบว่าคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องแบบเร่งด่วน สะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดท่อน จุดระเบิดระบบวิทยุสื่อสาร โดยผูกติดตัวจุดระเบิดไว้กับต้นไม้ โดยตัววัตถุระเบิดถูกประกอบใส่ไว้ในท่อเหล็ก
เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนใต้มานาน กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า การเลือกก่อเหตุในช่วงสับเปลี่ยนกำลังเป็นพฤติกรรมที่คนร้ายก่อขึ้นทุกปี เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้นก็โยงไปได้หลายอย่าง ทั้งการยืนยันว่าขบวนการก่อความไม่สงบยังมีอยู่ รวมไปถึงประเด็นขัดแย้งสำคัญๆ ในพื้นที่ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ซึ่งมีบางฝ่ายออกมาคัดค้าน จนอาจมีบางกลุ่มฉวยโอกาสก่อเหตุเพื่อซ้ำเติมสถานการณ์
ทร.จัด "เรือหลวงอ่างทอง" นำหมู่เรือสับเปลี่ยนกำลัง
อีกด้านหนึ่ง กองทัพเรือได้จัดตั้งหมู่เรือลำเลียงกำลังพลผลัดเปลี่ยน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ระหว่างวันที่ 25 ก.ย. - 4 ต.ค. 63 โดยมี น.อ.ประสงค์ ชัยมะณี เป็นผู้บังคับหมู่เรือลำเลียงกำลังพลผลัดเปลี่ยน โดยกำลังประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เป็นเรือหมู่ (เรือหัวหน้า), เรือหลวงกันตัง (เรือคุ้มกันในพื้นที่), ชุดปฏิบัติการพิเศษ และชุดปฏิบัติงานชายหาด พร้อมด้วยกำลังพลและยุทโธปกรณ์ของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน เดินทางจากฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ถึงค่ายจุฬาภรณ์ หาดบ้านทอน จ.นราธิวาส เพื่อปฏิบัติภารกิจแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
การลำเลียงกำลังพลผัดเปลี่ยนของกองทัพเรือ ดำเนินการภายใต้กรอบการปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบก ประกอบด้วยขั้นตอน
- การวางแผน ระหว่างกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการ ร่วมกับหน่วยต่างๆ เพื่อกำหนดแนวทางในการปฏิบัติ
- การขึ้นสู่เรือ เป็นการรับกำลังพลและยุทโธปกรณ์ขึ้นสู่เรือหลวงอ่างทอง ที่ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ
- การซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติ และการยาตราเรือ จากฐานทัพเรือสัตหีบ ถึงหาดบ้านทอน จ.นราธิวาส
- การเคลื่อนกำลังจากเรือสู่ฝั่งที่ค่ายจุฬาภรณ์ โดยเรือหลวงอ่างทอง เป็นเรือควบคุมหลัก และจัดเรือระบายพลขนาดเล็ก (LCVP) ร่วมกับเรือยางท้องแข็ง (RHIB) เป็นเรือดูแลความปลอดภัยขณะทำการลำเลียงขนถ่าย (SAFETY BOAT) อีกทั้งมี "เรือหลวงกันตัง"เป็นเรือลาดตระเวนคุ้มกันโดยรอบพื้นที่ปฏิบัติการ
------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า, ภาพจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ และภาพจากกองทัพเรือ
