ภาพสะท้อนคนไทยการ์ดตก เริ่มปรากฏเพิ่มขึ้นหลายเหตุการณ์ในหลายๆ พื้นที่ของประเทศ ทำให้เสี่ยงต่อการระบาด "คลื่นลูกที่ 2" ของโควิด-19
ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์ที่สาขาของธนาคารรัฐแห่งหนึ่งใน ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งช่วงนี้มีชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุไปรอรับบัตรคิวเพื่อเข้าไปทำธุรกรรมในธนาคารเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน (ชมคลิปด้านล่าง)
จากภาพในคลิปจะเห็นได้ว่ามีคนเป็นร้อยไปยืนแออัดเบียดเสียดกันโดยไม่เว้นระยะห่างทางสังคม บางคนไม่สวมหน้ากากอนามัยด้วยซ้ำ ขณะที่หลายคนแม้จะสวมหน้ากากฯ แต่ก็ดึงลงมาใต้จมูก เพราะอากาศร้อน
สาเหตุที่มีคนไปออกันหน้าธนาคารจำนวนมาก ก็เพราะชาวบ้านในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับเงินเยียวยาเกษตรกรกันเยอะ เนื่องจากส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นเกษตรกร ทั้งทำสวนยางพารา ปศุสัตว์ เลี้ยงสัตว์ และประมง นอกจากนั้นยังมีเบี้ยคนชราที่เงินเข้าบัญชีในช่วงนี้เช่นกัน รวมถึงเงินเยียวจากโครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" ในกลุ่มของผู้ที่ยื่นทบทวนสิทธิ์ด้วย ทำให้มีเงินเข้าบัญชีประชาชนจำนวนมาก แต่คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่มีบัตรเอทีเอ็ม โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ทำให้ต้องนำสมุดบัญชีไปทำธุรกรรมกันเองที่ธนาคาร
ขณะที่ทางธนาคารแต่ละสาขาก็มีมาตรการจำกัดจำนวนคนที่เข้าทำธุรกรรมในแต่ละวัน ซึ่งเป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงต้องมีระบบแจกบัตรคิวที่หน้าธนาคารแทน เพื่อกำหนดวันนัดเข้าทำธุรกรรม ซึ่งคนที่ไปรอหน้าธนาคารวันนี้ จะได้รับบัตรคิวเข้าทำธุรกรรมเดือนหน้า ทำให้มีการแห่กันไปรอรับบัตรคิวตั้งแต่เช้ามืด บางคนไปตั้งแต่ตี 4 เพื่อแย่งคิวที่เร็วที่สุด เพราะต้องการใช้เงิน คิวของธนาคารบางแห่งเต็มยาวจนถึงเดือน ก.ค.แล้ว
ชมคลิป : ชาวบ้านแห่รอรับบัตรคิวธนาคารไม่เว้นระยะห่าง เหตุเกิดที่ตันหยงมัส(1)
ช่วงหนึ่งในคลิปมีคนตะโกนต่อว่าเจ้าหน้าที่ว่ามาตั้งแต่ตี 4 แต่ยังไม่ได้รับบัตรคิว ทำไมถึงไม่จ่ายบัตรให้ก่อน และเมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่าใครมาตั้งแต่ตี 4 บ้าง ก็มีคนยกมือจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียดท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว และเบียดเสียดเยียดยัดเสี่ยงโควิด-19 แพร่ระบาด
ชมคลิป : ชาวบ้านแห่รอรับบัตรคิวธนาคารไม่เว้นระยะห่าง เหตุเกิดที่ตันหยงมัส(2)
ส่วนที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอสุไหงโกลก รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีผู้ลักลอบกลับมาจากประเทศมาเลเซียโดยผ่านทางช่องทางธรรมชาติแล้วแอบกลับบ้านโดยไม่เข้าศูนย์กักกัน
หลังรับแจ้ง นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโกลก จึงได้มอบหมายให้ นายพิมล จงรักษ์ ปลัดอำเภอสุไหงโกลก ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบ้านเป้าหมายที่ถนนเจริญเขต ซอย7 พบหญิงสาวอายุ 27 ปีอาศัยอยู่ในบ้าน สอบถามเบื้องต้นได้ความว่า เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียโดยใช้ช่องทางธรรมชาติ และได้มาพักอาศัยอยู่ที่บ้านกับครอบครัวมาแล้ว 2 วันในช่วงฮารีรายอ ไม่ได้รายงานตัวเพื่อเข้ากักกัน เพราะกังวลกับเข้าไปอยู่ภายในศูนย์กักกัน
หลังจากได้ข้อมูลครบถ้วน เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวหญิงสาวรายนี้เข้าสู่กระบวนการคัดกรอง จากการตรวจสุขภาพไม่พบว่ามีไข้ จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับ และนำเข้าศูนย์กักกัน Local Quarantine ของอำเภอสุไหงโกลก
นายอำเภอสุไหงโกลก กล่าวว่า การรายงานตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองและกักกัน ที่ศูนย์กักกัน Local Quarantine ภายหลังกลับจากต่างประเทศ และจังหวัดเสี่ยงที่พบการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่พึงปฏิบัติ โดยเฉพาะการเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียซึ่งหากเข้ามาอย่างถูกกฎหมายก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะมีมาตรการควบคุมกำกับที่ชัดเจน แต่กรณีลักลอบเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำโกลกเข้ามา ก็ต้องมีความตระหนักถึงการรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เพราะถือว่ทาเดินทางมาจากประเทศเสี่ยงที่ยังพบการแพร่ระบาดของไวรัส ซึ่งอาจเป็นผู้ที่ติดเชื้อ แล้วมาแพร่เชื้อให้กับคนที่บ้านหรือคนในชุมชนได้
---------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ศปก.อำเภอสุไหงโกลก เอื้อเฟื้อภาพการตรวจบ้านผู้ต้องสงสัยลักลอบข้ามแดนไม่ผ่านกระบวนการกักกันตัว