หลังจาก "กลุ่มดะวะห์" หรือชาวไทยมุสลิมที่ไปร่วมชุมนุมของผู้เผยแผ่ศาสนาที่อินโดนีเซีย ซึ่งเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว 76 คน ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่าครึ่ง จนทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวาง
โดยเฉพาะมีการอ้างข้อมูลและคลิปวีดีโอเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในลักษณะ "ไร้วินัย" และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ซึ่งบางประเด็นยังถูกโยงถึงพิธีกรรมทางศาสนาด้วย ทั้งๆ ที่ไม่มีการยืนยันว่าเป็นพฤติกรรมของกลุ่มดะวะห์กลุ่มนี้จริงหรือไม่นั้น
"ทีมข่าวอิศรา" ได้ตรวจสอบไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์กักกันที่ต้องดูแลกลุ่มดะวะห์กลุ่มนี้
ยะลา-นราฯ ยันกลุ่มดะวะห์ร่วมมือดี-วอนสังคมเห็นใจ
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์สังเกตอาการระดับอำเภอ ที่อำเภอเมืองยะลา ตั้งอยู่ภายในศูนย์พัฒนาการสาธารณสุขชายแดนภาคใต้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลว่า กลุ่มดะวะห์ที่กักตัวที่ จ.ยะลา ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่บางคนอาจจะยังไม่ทราบหรือไม่ตระหนักถึงอันตรายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายๆ ครั้ง ในช่วงของการทำละหมาด ก็ยังละหมาดรวมกันเป็นกลุ่ม แต่เรื่องแบบนี้ละเอียดอ่อนมาก ต้องหาทางสร้างความเข้าใจเพื่อให้ตระหนักมากๆ อาจจะให้โต๊ะอิหม่ามเข้าไปให้ความรู้
ที่ จ.นราธิวาส นายอดิศักดิ์ วงศ์วิทยาพิทักษ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา หรือ สคร.ที่12 ได้เดินทางไปตรวจศูนย์กักตัวกลุ่มดะวะห์กลับจากอินโดนีเซียที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.นราธิวาส ซึ่งใช้สถานที่โรงเรียนแสงธรรมอิสลามวิทยามูลนิธิ ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
ทั้งนี้ นายอดิศักดิ์ ได้รับมอบหมายให้ดูแลผู้กักกัน local quarantine ทั้ง 7 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จ.ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ สอบถามความเป็นอยู่ ตลอดจนอาหารการกิน และเรื่องสุขภาพ เพื่อสร้างความเข้าใจเพื่อไม่เกิดความกังวล
นายมูฮำหมัดฟอซากี มะยูโซ๊ะ หนึ่งกลุ่มดะวะห์ บอกว่า อยากวิงวอนให้ทุกคนเห็นใจและอย่ารังเกียจกลุ่มดะวะห์ ตลอดจนครอบครัวของพวกเขา เพราะทุกคนอยู่ในระบบ คือกักตัวสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วันตามกฎหมาย โดยจะทำตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำทุกอย่าง เพื่อให้สามารถกลับไปอยู่กับครอบครัวได้ตามปกติ
สำหรับกลุ่มดะวะห์จากอินโดนีเซียที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน จ.นราธิวาส มีทั้งสิ้น 7 คน ตรวจพบเชื้อโควิด 2 คน เจ้าหน้าที่จึงนำส่งโรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนอีก 5 คนกักตัวอยู่ที่โรงเรียนแสงธรรมอิสลามวิทยามูลนิธิ
ปธ.อิสลามสตูล แนะผู้เกี่ยวข้องแถลงสร้างความเข้าใจ
นายอรุณ อุมาจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล กล่าวระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกลุ่มดะวะห์ที่กักตัวอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.ละงู จ.สตูล ว่า ได้ตรวจสอบข่าวในแง่ลบที่ออกมาแล้ว โดยสรุปไม่มีผู้ถูกกักตัวคนไหนดื้อ หรือเดินไปเดินมา
และทราบมาว่าทางตัวแทนดะวะห์ได้สอบถามแพทย์ที่ศูนย์กักตัว ว่ามีคนโพสต์ข้อความอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ที่สตูล ทำให้เกิดความเสียหาย เบื้องต้นแพทย์ประจำศูนย์กักตัวยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าทาในศูนย์เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทางกลุ่มดะวะห์จึงขอให้มีการแก้ข่าว เพราะทำให้เกิดปัญหาในวงกว้าง ส่วนตัวเห็นว่าควรให้ตัวแทนกลุ่มดะวะห์ แพทย์ และประธานคณะกรรมการอิสลาม ร่วมกันสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
สำนักจุฬาฯแจงมุสลิมไม่มีเจตนาฝ่าฝืนคำสั่ง
ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรี กล่าวว่า ข่าวที่ออกมาเป็นเรื่องไม่จริง เป็นการออกข่าวโดยที่นักข่าวไม่ได้ไปสืบสาวต้นสายปลายเหตุ เพียงแต่รับมาจากคำบอกเล่าก็เอาไปนำเสนอ ล่าสุดหมอก็ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่จริง
ในส่วนของการรวมตัวละหมาดที่มัสยิด ซึ่งสำนักจุฬาราชมนตรีให้งดเว้นละหมาดวันศุกร์ ซึ่งเป็นการรวมคนจำนวนมากนั้น ดร.วิสุทธิ์ บอกว่า สำหรับการละหมาดอื่นๆ ที่มีการรวมตัวกันไม่เกิน 4-5 คนก็อนุโลมได้ เพราะถือเป็นการรักษามัสยิดให้เป็นมัสยิดเอาไว้ แต่ถ้ามากกว่านั้นก็จะต้องเป็นเรื่องที่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเรียกมาพูดคุยทำความเข้าใจ ถ้าไม่เชื่อฟัง คณะกรรมการอิสลามฯก็มีอำนาจปลดอิหม่ามได้ หรือสั่งพักงานก็ได้
"โดยรวมขณะนี้คิดวาน่าจะเป็นไปในแนวทางเดียวกันแล้ว และส่วนใหญ่ที่ยังมีทำบ้าง ก็ไม่ได้เจตนาจะฝ่าฝืนคำสั่ง เพียงแต่เขาคิดว่าเขาไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เขาอยู่ชนบทที่ไม่ได้ไปสุงสิงกับใคร ก็เลยคิดว่าไม่เป็นไร อย่างนี้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดจะต้องเรียกมาคุย เพราะไม่ว่าจะเสี่ยงหรือไม่เสี่ยงต้องรับฟังประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรีเหมือนกัน เพราะเราถือว่าทุกพื้นที่เสี่ยงหมด" ดร.วิสุทธิ์ กล่าว
ขณะที่ นายนิมุ มะกาแจ ผู้ทรงคุณวุฒิจังหวัดยะลา กล่าวว่า อยากให้ทุกคนตั้งสติ อย่าใช้ความรู้สึก และต้องเชื่อฟังผู้นำ ทุกคนต้องอยู่ในกรอบ อย่าทะเลาะเบาะแว้งเพื่อเอาชนะกัน เพราะทุกคนต้องการชนะโควิด ไม่ใช่เอาชนะกันเอง เชื่อว่าเราจะผ่านไปได้ด้วยดี
เปิดคู่มือมุสลิมเผชิญหน้าโควิด-19
ช่วงที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส มีการแจกจ่ายหนังสือที่ชื่อ "คู่มือมุสลิมในการเผชิญหน้าโรคระบาด คำแนะนำเนื่องในวิกฤติไวรัสโคโรนา COVID-19" ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
คู่มือฉบับนี้เขียนโดย รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี จัดพิมพ์โดยสถาบันอัสสลาม มหาวิทยาลัยฟาฏอนี โดยมีศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ช่วยผลิตและแจกจ่าย
"คู่มือมุสลิมในการเชผิญหน้าโรคระบาด" มีความยาว 72 หน้า แบ่งเป็น 6 บท เนื้อหาหลักๆ ก็เช่น บทที่ 2 วิธีป้องกันจากไวรัสโคโรนา โควิด-19 มีตั้งแต่การรักษาความสะอาด การกินและดื่ม การออกกำลังกาย การกักตัวอยู่ในบ้าน การออกจากบ้านพร้อมดุอาอ์และสวมหน้ากาก งดการรวมตัวคลุกคลีในที่ชุมนุม เป็นต้น
บทที่ 3 วิธีการเอาชนะโรคระบาดโควิด-19 เช่น เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ พยายามหาวิธีการรักษาที่ดี บทที่ 4 แนะนำการละหมาดในยามวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งมีการแบ่งเป็นกรณีๆ ตามความร้ายแรง ได้แก่ กรณีเพิ่งเริ่มระบาด หรือวิกฤติขั้นแรก, กรณีเชื้อโรคกำลังระบาด หรือวิกฤติขั้นที่ 2 และกรณีเชื้อโรคกำลังระบาดอย่างหนัก หรือวิกฤติชั้นที่ 3 พร้อมคำแนะนำให้หมั่นเพียรในการประกอบศาสนกิจส่วนตัวที่บ้าน เป็นต้น
---------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ :
กลุ่มดะวะห์ 76 ชีวิตจากอินโดฯกลับถึงไทย แยกกักปลอดภัย-ไร้โควิด