มีควันหลงจากเหตุการณ์รุนแรงหลายจุดเมื่อกลางดึกของวันพฤหัสบดีที่ 31 ต.ค.62 ส่งท้ายเดือนตุลาฯ ทั้งคาร์บอมบ์ โจมตีฐานปฏิบัติการ และยิงปะทะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเชื่อว่าทุกเหตุการณ์มีความเชื่อมโยงกัน และเป็นการวางแผนล่วงหน้าของกลุ่มก่อความไม่สงบ
สรุปเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นซึ่งมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน ได้แก่
- 18.00 น. คนร้าย 3 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ บุกปล้นรถกระบะสี่ประตูของ อบต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี พร้อมจับเจ้าหน้าที่ รปภ.ของ อบต.มัดไว้ แล้วนำตัวไปปล่อยห่างจากจุดปล้นรถราว 1.3 กิโลเมตร จากนั้นจึงขับรถไปติดตั้งระเบิด
- 22.10 น. คนร้ายได้นำรถกระบะไปติดตั้งระเบิดเป็นคาร์บอมบ์ แล้วนำไปจอดไว้บริเวณกำแพงด้านหน้า สภ.ไม้แก่น หลังเก่า ซึ่งปัจจุบันเป็นที่พักของครอบครัวตำรวจ ก่อนกดจุดชนวนระเบิด ทำให้กำแพงและรถยนต์ของตำรวจได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ระเบิดที่คนร้ายใช้บรรจุในถังแก๊สไม่ทราบขนาด พบขวดพลาสติกคาดว่าใช้บรรจุน้ำมันเพื่อขยายแรงระเบิดและทำให้เกิดเพลิงไหม้ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดพบพฤติการณ์ของคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์นำหน้ารถคาร์บอมบ์ คล้ายเป็นหน่วยล่วงหน้า และยังมีรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งขับปิดท้าย เป็นขบวน 3 คัน โดยรถจักรยานยนต์คันที่ตามหลัง ใช้รับคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดเพื่อหลบหนี
- 22.15 น. คนร้ายไม่ต่ำกว่า 6-7 คน ใช้รถกระบะ 2 คัน ขับไปใกล้ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี จากนั้นใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่ ทำให้เกิดการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ภายในฐาน ก่อนที่คนร้ายจะล่าถอยไป คาดว่าฝ่ายคนร้ายมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บด้วย เพราะมีผู้บาดเจ็บจากการถูกยิงโทรติดต่อให้เพื่อนไปรับ และพาส่งโรงพยาบาล
- 22.50 น. ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ออกลาดตระเวนเส้นทางใน ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี พบวัตถุต้องสงสัยเป็นตะกร้าใส่ผลไม้ มีตาข่ายปิดอำพรางเอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นพื้นที่ และประสานชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ EOD เข้าตรวจสอบ ปรากฏว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 20–25 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร
- 22.55 น. ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 อีกชุดหนึ่ง ตั้งจุดตรวจห่างจากจุดที่พบระเบิด ระยะทางขับรถประมาณ 5 นาที อยู่ในท้องที่ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี เช่นกัน และได้เปิดฉากยิงต่อสู้กับชายต้องสงสัย 2 คนที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาและมีพิรุธ พยายามเลี้ยวรถหลบหนี จนเกิดการยิงปะทะกัน ทำให้ชายต้องสงสัยทั้ง 2 คนเสียชีวิต
ผู้ต้องสงสัยคนแรกเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ สวมถุงมือไหมพรมสีแดงทั้ง 2 ข้าง และใช้ผ้าปิดปาก พร้อมทั้งใช้ผ้าคลุมศีรษะเพื่ออำพรางใบหน้า ทราบชื่อคือ นายอัมรัน บือราเฮง เป็นสมาชิกแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบ ผู้ต้องสงสัยอีกคนเป็นคนซ้อนท้าย สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ใส่ถุงมือยางที่มือซ้าย พร้อมทั้งใช้ผ้าคลุมศีรษะอำพรางใบหน้า ทราบชื่อคือ นายลุกมาน สาและ เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวว่า ทุกเหตุการณ์มีความเชื่อมโยงกัน และมีการวางแผนลักษณะแบบรวมการณ์ เพื่อสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐและพี่น้องประชาชน
ส่วนผู้ต้องสงสัยที่เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นบุคคลที่เคยถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกเข้ามาปรับทัศนคติในศูนย์ซักถามแล้วทั้งสิ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีหลายฝ่ายพยายามออกมาต่อต้านและเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายพิเศษ โดยมีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่รัฐใช้กฎหมายพิเศษทั้ง 3 ฉบับไปคุกคามและละเมิดสิทธิของพี่น้องประชาชน แต่จริงๆ แล้วเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามขั้นตอนและระเบียบที่กำหนดไว้ โดยคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญ
-------------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ :
ปล้นรถ อบต.น้ำดำทำคาร์บอมบ์ถล่มหน้าโรงพักเก่าไม้แก่น
สรุปใต้ป่วนส่งท้ายตุลาฯ คาร์บอมบ์-กราดยิง-ปะทะดับ 2 ศพ