มีความคืบหน้าการช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยที่ถูกจับกุมในประเทศมาเลเซีย ในข้อหาไม่มีใบอนุญาตทำงาน แต่กลับเข้าไปเช่าพื้นที่ขายของใกล้ด่านปาดังเบซาร์ ตรงข้ามกับ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยล่าสุดศาลมาเลเซียได้สั่งลงโทษปรับ 21 ผู้ค้าชาวไทย และได้ทยอยปล่อยตัวบางส่วนแล้ว
มีรายงานจากที่ว่าการอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งเปิดเป็นศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือ 21 คนไทยที่ถูกจับกุมในมาเลเซียว่า ได้รับการประสานจากกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซียว่า คนไทยที่ถูกจับกุมตัวในข้อหาไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือ เวิร์ค เพอร์มิต จำนวน 21 ราย ระหว่างวันที่ 19-20 ต.ค.62 ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดศาลประเทศมาเลเซียได้พิพากษาปรับในอัตราโทษขั้นต่ำสุด เป็นเงิน 300 ริงกิตเรียบร้อยแล้ว โดยมี 1 คนที่ไม่ต้องเสียค่าปรับ เพราะระหว่างที่เจ้าหน้าที่มาเลย์เข้าจับกุม ผู้ค้ารายนี้ไม่ได้เปิดร้าน มีเพียงสินค้าในสต็อค
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะต้องประสานให้ญาติของผู้ต้องหาไปชำระค่าปรับ และรอศาลกำหนดวันนัดให้ผู้ต้องหาทั้งหมดซึ่งได้กันตัวไว้เป็นพยาน เพื่อให้ข้อมูลในเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อสืบหาผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งหมายถึงคนมาเลเซียที่เปิดแผงค้าให้คนไทยเข้าไปเช่าขายของโดยไม่รับอนุญาต จากนั้นจึงจะมีการปล่อยตัวกลับประเทศไทยต่อไป
จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมของ "ทีมข่าวอิศรา" ทราบว่า ผู้ค้าชาวไทยที่ถูกทางการมาเลเซียจับกุม มีมากกว่า 30 ราย แต่ได้รับการปล่อยตัวก่อนหน้านี้แล้ว 11 ราย เนื่องจากมีเงินชำระค่าปรับคนละ 3,100 ริงกิต (ประมาณ 22,600 บาท) โดยชำระค่าปรับที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ถือเป็นทางเลือกของผู้ที่ถูกจับโดยไม่ต้องขึ้นศาล
ค่าปรับแยกเป็น 2 ส่วนคือ 1.ค่าปรับทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต (Work Permit) จำนวน 2,500 ริงกิต และ 2. ค่าปรับเพื่อแลกกับการติดชื่อไม่อนุญาตเข้าประเทศมาเลเซียเป็นเวลา 2 ปี หรือติด Black List จำนวน 600 ริงกิต รวม 2 รายการ เป็นเงิน 3,100 ริงกิต
อย่างไรก็ดี หลังจากเหตุการณ์นี้ตกเป็นข่าว และมีครอบครัวของผู้ค้าออกมาร้องเรียน ทำให้ทางการไทยประสานขอความร่วมมือกับทางมาเลเซียเพื่อให้ปล่อยผู้ค้าชาวไทยที่เหลือทั้งหมด 21 ราย ทางการมาเลย์จึงให้ทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการศาล และจะกำหนดค่าปรับในอัตราต่ำสุด คือ 300 ริงกิต ก่อนส่งกลับไทย โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของแผงค้าผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย
ส่วนที่มีข่าวว่าครอบครัวผู้ที่ถูกจับบางราย พยายามประสานเข้าไปจ่ายค่าปรับเอง และถูกเจ้าหน้าที่มาเลเซียเรียกค่าปรับในอัตราที่สูงกว่า 300 ริงกิตนั้น จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ไทย โดยประสานไปยังทางการมาเลเซีย ยืนยันว่าไม่มีเรื่องนี้ และหากมีการเรียกค่าปรับสูงกว่า 300 ริงกิต ก็ไม่ต้องจ่าย
ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้ค้าชาวไทยได้รับการปล่อยตัว โดยเข้าสู่กระบวนการส่งตัวกลับประเทศแล้ว 5 คนจาก 21 คน ประกอบด้วย นายรอฮิม มาแซ อายุ 29 ปี นางสาวกามิละห์ ตาเละ อายุ 33 ปี นางสาวเจ๊ะมีนา กูโน อายุ 35 ปี นายมาริแย ดือราโอ๊ะ อายุ 53 ปี และ นางสาวอารีนี หะยีมาหะ อายุ 24 ปี
--------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ :